8 เทศกาลน่าไป เมื่อไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกุมภาพันธ์
ตามปฏิทินจันทคติของญี่ปุ่น วันที่ 4 กุมภาพันธ์ เป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ เรียกได้ว่า ฤดูใบไมผลิเป็นฤดูที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยว เพราะความหนาวเย็นเริ่มเบาบางลง อากาศจะค่อยๆ อบอุ่น แต่มันไม่ใช่ ฮ่าๆ อย่างไรก็ตามเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่หนาวเหน็บเป็นอันดับที่สองรองจากเดือนมกราคม ซึ่งฤดูหนาวในประเทศญี่ปุ่นนั้นอาจยาวไปถึงต้นเดือนมีนาคมเลยด้วยซ้ำ แต่ข่าวดีสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ก็คือ อากาศจะแห้ง และมีแดด และอาจมีฝนตกลงมาบ้างในบางวัน ที่สำคัญการท่องเที่ยว ในเดือนนี้ มีนักท่องเที่ยวน้อย ทำให้หลายๆ อย่าง มีราคาที่ถูกลง นอกจากนี้ยังมีงานเทศกาลที่น่าสนใจในหลายๆ พื้นที่อีกด้วยนะคะ
**เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 บางเทศกาลอาจจะถูกยกเลิกการจัดงาน ควรเช็ครายละเอียดให้ดี บน official websites ของเทศกาลนั้นๆ ก่อน ที่จะวางแผน
(สารบัญ)8 เทศกาลน่าไป เมื่อไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกุมภาพันธ์
แสดง
เทศกาลปาถั่ว
เซซึบุน หรือเทศกาลปาถั่ว คือ วันก่อนฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่น ตามปฏิทินจันทรคติ จะมีพิธีกรรมพิเศษเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย โรคภัย และขับไล่วิญญาณ ภูตผีปีศาจ โดยการหว่านถั่ว กิจกรรมนี้จะจัดขึ้นที่ศาลเจ้าและวัดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ถั่วกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ช่วยชำระล้าง ขับไล่ปีศาจ ความโชคร้ายต่างๆ ออกไป จากนั้นจะกินถั่วเหลืองคั่ว เพื่อนำความโชคดีเข้ามา ในเทศกาลจะมีเหล่าคนดัง/บุคคลากรท้องถิ่น โยนถั่ว และรางวัลให้กับฝูงชนที่เข้าร่วมงาน
ชื่อเทศกาลภาษาอังกฤษ : Setsubun
วันจัดงาน : วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
สถานที่ : ศาลเจ้า ทั่วประเทศญี่ปุ่น แนะนำ** วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) ,ย่านอาซากุสะ แขวงไทโต กรุงโตเกียว
การเดินทาง : Tokyo Metro Ginza Line หรือ Toei Asakusa Line หรือ Tobu Sky Tree Line ทั้ง 3 สาย ลงสถานี Asakusa, Tsukuba Express ลงสถานี Asakusa (สถานีนี้จะอยู่อีกฝั่ง)
เซซึบุน มันโทโระ
สำหรับเซซึบึน มันโทโระนี้ เกิดขึ้นในเมืองนารา ที่ศาลเจ้าคาสุกะ ไทฉะ (Kasuga Taisha Shrine) ให้คุณได้สัมผัสกับโลกมหัศจรรย์แห่งยุคโบราณของญี่ปุ่นกับโคมไฟ 3,000 ที่สว่างสไว พาย้อนกลับไปในยุคที่ยังไม่มีไฟฟ้า และเต็มไปด้วยความลึกลับ ซึ่งโคมไฟนั้น ได้รับการบริจาคจากประชาชน ขุนนาง และซามูไร เป็นประเพณีที่ถูกสืบทอดมาเป็นเวลา 800 ปี มีโคมไฟหินในสวนโคมไฟแบบแขวนตามทางเดิน ช่วงเวลาชมไฟคือ เวลา 19.00-21.30 น. (เวลาญี่ปุ่น) ในตอนกลางวันจะมีการแสดงโดยสวมใส่ชุดกิโมโนโบราณ
ชื่อเทศกาลภาษาอังกฤษ : Setsubun Mantoro
วันจัดงาน : วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
เว็บไซต์เทศกาล : kasugataisha.or.jp
สถานที่ : ศาลเจ้าคาสุกะ ไทฉะ (Kasuga Taisha Shrine), เมืองนารา จังหวัดนารา
การเดินทาง :
- JR Yamatiji Line (จาก Osaka) หรือ JR Nara Line (จาก Kyoto) ลงสถานี Nara แล้วต่อบัส สาย 77 หรือ 97 ขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 2 ไปลงป้าย Kasuga Taisha Honden **อีกหนึ่งทางเลือกแนะนำขึ้นบัส สาย 2 ที่ป้ายหมายเลข 2 ไปลงป้าย Todaiji-Daibutsuden/Kasugataisha-mae แล้วเดินเท้าต่อ 700 เมตร สายนี้จะไว้กว่าเพราะเป็นบัสวิ่งรอบเมือง
- จาก Osaka สถานี Tsuruhashi ขึ้น Kintetsu Nara Line ลงสถานี Kintetsu-Nara แล้วต่อบัส สาย 77 หรือ 97 ขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 1 ไปลงป้าย Kasuga Taisha Honden/Kasugataisha-mae แล้วเดินเท้าต่อ 700 เมตร **อีกหนึ่งทางเลือกแนะนำขึ้นบัส สาย 2 ที่ป้ายหมายเลข 1 ไปลงป้าย Todaiji-Daibutsuden/Kasugataisha-mae แล้วเดินเท้าต่อ 700 เมตร สายนี้จะไว้กว่าเพราะเป็นบัสวิ่งรอบเมือง
- ส่วนขากลับขึ้นบัสที่ป้าย Todaiji-Daibutsuden/Kokuritsu-Hakubutsukan สาย 78 หรือ 98 /ป้าย Kasuga Taisha Honden สาย 78 หรือ 98 /ป้าย Kasuga Taisha Omotesando สาย 1 ไปลงสถานีKintetsu-Nara หรือสถานี JR Nara
**หมายเหตุ สาย 77 วิ่งทุก 30 นาที, สาย 97 วิ่งทุก 1 ชั่วโมง และสาย 2 วิ่งทุก 10 นาที (Nara City Loop)
คลิกดูแผนที่รถบัส Nara City Main Bus Route Map
เทศกาลหิมะซัปโปโร
เทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงมากที่สุด ก็ต้องเทศกาลหิมะซัปโปโร ที่เมืองซัปโปโร เกาะฮอกไกโด ในปีนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 72 ภายในงานมีการนำเสนอปะติมากรรมที่สร้างจากหิมะและน้ำแข็ง ทั้งในเรื่องของกระแสโลก วัฒนธรรมญี่ปุ่น และอื่นๆ อีกมากมาย มีการแสดง แสง สี เสียง สุดอลังการ จัดขึ้นแค่ปีละครั้ง มีผู้เข้าชมงานจากทั่วโลกในตัวเลขหลักล้านคนทุกปี แถมประเทศไทยยังเข้าร่วมประกวดปั้นหิมะเกือบทุกปี และได้รางวัลมาอย่างมากมายอีกด้วย
**เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 ทางผู้จัดงานอาจจะลดขนาดพื้นที่การจัดงานลง และอาจไม่มีปะติมากรรมหิมะขนาดใหญ่ ทั้งนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Sapporo Snow Festival 2023
วันจัดงาน : วันที่ 5 – 13 กุมภาพันธ์ 2023 **รอคอนเฟิร์ม**
เว็บไซต์เทศกาล : snowfes.com
สถานที่ : สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park), เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด
การเดินทาง : Namboku Line , Tozai Line , Toho Line ลงสถานี Odori
เทศกาลฤดูหนาวเมืองอะซะฮิคะวะ
เทศกาลกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่รองจากเทศกาลหิมะของซัปโปโร กับเทศกาลฤดูหนาวเมืองอะซะฮิคะวะ เมืองซาฮิคาวะ จังหวัดฮอกไกโด ถึงแม้จะสู้ซัปโปโรไม่ได้ แต่ปะติมากรรมยิ่งใหญ่กว่า โดยเป็นปะติมากรรมที่มีขนาดใหญ่มาก และสามารถลงกินเนสส์เวิลด์เร็กคอร์ดได้ เมื่อปี 1994 เป็นรูปป้อมปราการของประเทศเกาหลี ซึ่งเทศกาลนี้จะต่อจากเทศกาลหิมะซัปโปโรเลย โดยมีการจัด 2 ที่ คือ ริมแม่น้ำอาซาฮิบาชิ และย่านถนนคนเดินเฮอิวะ โดริ มีการประดับดาไฟสวยงาม รวมถึงการแสดงต่างๆ และมีกิจกรรมให้เข้าร่วมมากมาย
**เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 ทางผู้จัดงานอาจจะลดขนาดพื้นที่การจัดงานลง และอาจไม่มีปะติมากรรมหิมะขนาดใหญ่ ทั้งนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Asahikawa Winter Festival 2023
วันจัดงาน : วันที่ 6 – 12 กุมภาพันธ์ 2023 **รอคอนเฟิร์ม**
เว็บไซต์เทศกาล : asahikawa-winterfes.jp
สถานที่ : ริมแม่น้ำอาชิการิ บริเวณสะพานอาซาฮิบาชิ (Asahibashi Brige) และย่านช็อปปิ้งเฮอิวะโดริ (Heiwa Dori), เมืองซาฮิคาวะ จังหวัดฮอกไกโด
การเดินทาง : JR Hakodate Line (จากซัปโปโร แนะนำ JR Limited Express ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที), JR Sekihoku Line, JR Soya Line ทั้ง 3 สาย ลงสถานี Asahikawa แล้วเดินเท้าอีก 15 นาที
เทศกาลแสงไฟคลองโอตารุ
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Otaru Snow Light Path Festival 2023
วันจัดงาน : วันที่ 6 – 13 กุมภาพันธ์ 2021
สถานที่ : ทางเดินริมคลองโอตารุ (Otaru Canal), เมืองโอตารุ จังหวัดฮอกไกโด
การเดินทาง : จากสถานี Sapporo ขึ้น JR Hakodate Line ลงสถานี Otaru แล้วเดินเท้าประมาณ 750 เมตร
จัดขึ้นที่เมืองโอตารุ จังหวัดฮอกไกโด บริเวณริมคลองโอตารุ เป็นไฮไลท์สำคัญของงาน เป็นเทศกาลแสงไฟในฤดูหนาวที่จัดขึ้นในเวลาใกล้เคียงไล่เลี่ยกันกับเทศกาลหิมะซัปโปโร ซึ่งสามารถทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชมพร้อมกันทั้งสองงานได้ ซึ่งงานนี้จะเริ่มเวลา 17.00-21.00 น. (เวลาญี่ปุ่น) มี 2 แห่ง คือ บริเวณริมคลองโอตารุ เต็มไปด้วยโคมไฟตลอดทางเดิน และประชาชนยังให้ความสำคัญโดยการนำตะเกียงวางไว้หน้าบ้าน/ตามร้านค้าต่างๆ และอีกที่คือ บริเวณเส้นทางรถไฟสายเก่าเทมิยะ ซึ่งสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของเมืองได้ เพราะทั้ง 2 จุด อยู่ใกล้กัน สามารถเดินยาวๆ ได้เลย
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Otaru Snow Light Path Festival 2023
วันจัดงาน : วันที่ 6 – 13 กุมภาพันธ์ 2021
เว็บไซต์เทศกาล : yukiakarinomichi.org
สถานที่ : ทางเดินริมคลองโอตารุ (Otaru Canal), เมืองโอตารุ จังหวัดฮอกไกโด
การเดินทาง : จากสถานี Sapporo ขึ้น JR Hakodate Line ลงสถานี Otaru แล้วเดินเท้าประมาณ 750 เมตร ก่อนถึงคลองโอตารุ จะเจอเส้นทางรถไฟสายเก่าเทมิยะ แวะเดินเล่นถ่ายรูปก่อนได้
วันวาเลนไทน์ในญี่ปุ่น
วันวาเลนไทน์ของประเทศญี่ปุ่นไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์สุดๆ ในวันวาเลนไทน์ของญี่ปุ่น ผู้หญิงจะมอบของขวัญให้ผู้ชาย ของขวัญที่ว่าก็คือ ช็อคโกแลต ซึ่งช็อคโกแลตมี 2 ประเภท คือ ช็อกโกแลตกิริ ซึ่งมีไว้สำหรับใช้มอบให้กับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือเพื่อนชายที่สนิท ส่วนอีกอันคือ ช็อกโกแลตฮอนเมะ มีไว้สำหรับให้แฟน คนรัก หรือสามี ด้วยความรักที่แท้จริง ซึ่งส่วนใหญ่จะทำด้วยตัวเอง การซื้อคือเหมือนกับความรักที่ไม่แท้จริง สิ่งที่พิเศษของวาเลนไทน์ในญี่ปุ่น คือ ไวท์เดย์ (White Day) ซึ่งจะตรงกับวันที่ 14 มีนาคม เป็นวันที่ผู้ชายควรให้ของขวัญคืนแก่ผู้หญิงที่ให้ของขวัญในวันวาเลนไทน์
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Valentine’s Day
วันจัดงาน : วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2023
สถานที่ : ทั่วประเทศญี่ปุ่น
โตเกียวมาราธอน
งานวิ่งมาราธอนระดับโลกในกรุงโตเกียว ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี สามารถดึงดูดผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันได้มากมาย โดยปีนี้ รับนักวิ่งแบบฟูลถึง 35,000 คน แบบสิบกิโล 5,000 คน และมีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านคน โดยไฮไลท์สำคัญของงาน ถือว่าเป็นความพิเศษอย่างหนึ่ง คือ การแต่งคอสเพย์ของนักวิ่ง ซึ่งนักวิ่งสามารถใส่อะไรมาวิ่งก็ได้ มีนักวิ่งจากทั่วโลกร่วมลงสมัครมากกว่า 3 แสนคน แต่ได้เข้าร่วมเพียงประมาณ 25,000 คนเท่านั้น บางคนถึงกับว่า ต้องอาศัยดวงล้วนๆ
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Tokyo Marathon 2023
วันจัดงาน : วันที่ 5 มีนาคม 2023
เว็บไซต์เทศกาล : marathon.tokyo
สถานที่ : บริเวณอาคารสำนักงานบริหารมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government), ย่านชินจูกุ กรุงโตเกียว
การเดินทาง : JR Yamanote Line หรือ Sobu Line หรือ Chuo Line ลงสถานี Shinjukuใช้ทางออกฝั่งตะวันตก แล้วเดินเท้าอีก 700 เมตร, Toei Oedo Line ลงสถานี Tochomae (สายนี้ถึงเลย)
สกีรีสอร์ท
เดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูหนาว ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องไปเล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่สกีรีสอร์ทที่ฮอกไกโด ซึ่งมีให้เราเลือกมากมายหลากหลายแห่ง ทั้งระดับความยาก ความหนานุ่มของหิมะ และอีกมากมาย จะเที่ยวแบบวันเดย์ทริป หรือจะเข้าพักที่รีสอร์ทบนนั้นเลยก็ได้ เจออากาศหนาวๆ กับหิมะสีขาวทั้งที แล้วไม่ได้เล่นถือสกีนี่ถือว่าพลาดมากเลยนะคะ เพราะเมืองไทยคงไม่มีหิมะให้เราได้สัมผัส ไม่มีที่ให้เราได้เล่นสกี นอกจากไปสัมผัสหิมะเทียมในดรีมเวิร์ล ฮ่าๆ การมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เนี่ย เหมาะกับการเล่นสกีที่สุด จึงถือเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่สักครั้งนึงในชีวิต เราได้มีโอกาสสัมผัสหิมะและยังได้เล่นสกีอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์อันน่าทึ่งที่เราคงได้จดจำไปตลอดเลยเนอะ
วันจัดงาน : กลางเดือนธันวาคม – ต้นเดือนมีนาคม
สถานที่ : สกีรีสอร์ทรุซูสึ (Rusutsu Ski Resort), สกี รีสอร์ท นิเซโกะ วิลเลจ (Niseko Village Ski Resort), สกี รีสอร์ท เทเนะ (Teine Ski Resort), สกี รีสอร์ท นิเซโกะ แกรนด์ ฮิราฟุ (Niseko Grand Hirafu Ski Resort) และ สกี รีสอร์ท ฟุราโน่ พรินซ์ สโนว์ (Furano Prince Snow Resorts), จังหวัดฮอกไกโด
อ่านเพิ่มเติม : แนะนำ สกีรีสอร์ท บนเกาะฮอกไกโด สวรรค์สำหรับนักสกี และสโนว์บอร์ด
5 สกีรีสอร์ท แนะนำ ในจังหวัดฮอกไกโด
- สกี รีสอร์ท รุซูสึ (Rusutsu Ski Resort) : สกีรีสอร์ทขนาดใหญ่ในฮอกไกโด สวรรค์ที่แท้จริงสำหรับนักเล่นสกีและสโนว์บอร์ด ลานหิมะขนาดใหญ่ พร้อมทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขา
เว็บไซต์ : rusutsu.com/rusutsu-in-winter
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจากซัปโปโร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง บริการฟรีช่วงฤดูกาลเล่นสกี แต่ต้องจองล่วงหน้า จองที่เว็บrusutsu.com/en/shuttle-bus-winterขึ้นรถได้ที่Kamori Building 3 หรือถ้าต้องการขึ้นที่สนามบิน New Chitose Airport ใช้บริการของ BIGRUNS BUS ค่าโดยสารเที่ยวเดียว ราคา 3,500 เยน/คน และค่าโดยสารแบบ one day trip ราคา 4,000 เยน/คน ต้องจองล่วงหน้าเช่นกัน
- สกี รีสอร์ท นิเซโกะ วิลเลจ (Niseko Village Ski Resort) : สกีรีสอร์ทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในนิเซโกะ เหมาะกับผู้เล่นทุกระดับ มีตั้งแต่ระดับง่าย ไปจนถึงยาก เพราะมีความลาดชัน เหมาะกับผู้มีทักษะ
เว็บไซต์ : niseko-village.com
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจากซัปโปโร ใช้บริการ Chuo Bus ขึ้นรถที่JR Sapporo Sta. Bus Terminal ค่าโดยสารแบบเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 2,650 เยน เด็ก 1,330 เยน และค่าโดยสารแบบไป-กลับ ผู้ใหญ่ 4,580 เยน เด็ก 2,290 เยน ส่วนหากต้องการขึ้นที่ New Chitose Airport ใช้บริการ Chuo Bus ราคาเท่ากันกับที่ซัปโปโรเลย และทั้งคู่ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น
- สกี รีสอร์ท เทเนะ (Teine Ski Resort) : สกีรีสอร์ทที่มีลานสกีขนาดกลาง ตั้งอยู่ที่ชานเมืองซัปโปโระ มีกิจกรรมมากมาย มีทั้งเเบบที่มีความลาดชันน้อย สำหรับมือใหม่ เเละความลาดชันมาก สำหรับมืออาชีพ
เว็บไซต์ : sapporo-teine.com
การเดินทาง : ขึ้นบัสจากซัปโปโร ใช้บริการของ BIGRUNS BUS ขึ้นรถได้ที่ Kamori Building 3 ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น มีทั้งแพ็คเกจไป-กลับ ผู้ใหญ่ 5,600 เยน เด็ก 4,400 เยน, แพ็คเกจไป-กลับ+ตั๋วนั่งเก้าอี้ลิฟท์ 8 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 7,200 เยน เด็ก 4,700 เยน และแบบเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 2,800 เยน เด็ก 2,200 เยน อีกหนึ่งทางเลือกนั่ง JR Hakodate Line จากสถานี Sapporo ลงสถานี Teine ออกประตูทางทิศใต้ แล้วต่อบัสสาย 70 ขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 3 ค่าโดยสาร 380 เยน ใช้เวลาเดินทางรวม 30 นาที เท่านั้น
- สกี รีสอร์ท นิเซโกะ แกรนด์ ฮิราฟุ (Niseko Grand Hirafu Ski Resort) : สกีรีสอร์ทขนาดใหญ่ เป็นลานสกีระดับโลก ที่มีเอกลักษณ์ มีความลาดชัด สามารถดึงดูดนักเที่ยวจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
เว็บไซต์ : grand-hirafu.jp
การเดินทาง : จากซัปโปโร ขึ้น JR Hakodate Line ที่สถานี Sapporo ลงสถานี Otaru แล้วต่อรถไฟไปลงสถานี Kutchanใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วต่อ Donan Bus อีก 20 นาที ค่าโดยสาร 360 เยน ลงป้าย Hirafu Welcome Center
- สกี รีสอร์ท ฟุราโน่ พรินซ์ สโนว์ (Furano Prince Snow Resorts) : อีกหนึ่งสกีรีสอร์ทที่ยอดเยี่ยม วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งเมืองฟุราโน่และภูเขา มีทั้งทางลาดต่ำสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเล่นสกี หรือจะเป็นทางลาดที่มีความสูงชันตามลำดับสำหรับนักเล่นสกีที่มีประสบการณ์
เว็บไซต์ : princehotels.com
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ Lilac-Kamui จากสถานี Sapporo ลงสถานี Takikawa แล้วเปลี่ยนสายรถไฟ Nemuro Line ลงสถานี Furano ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 2 ชั่วโมง แล้วต่อบัสอีก 20 นาที
สำหรับใครจะที่ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันในช่วงนี้ หนีร้อนไปเมืองหนาว ก็เตรียมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายกันดีๆ นะคะ เตรียมกันให้พร้อมเลย เพราะอากาศต้องหนาวมากแน่ๆ เลย เดี๋ยวจะป่วยเอาได้นะ แล้วแพลนเที่ยวของเราก็จะหมดสนุกทันที เป็นห่วงจ้า แพลนอะไรกันไว้ ก็เก็บคอนเทนท์นี้ไว้เป็นตัวเลือกในการไปเที่ยวก็ได้นะคะ (:
ถ้าชอบก็กดไลท์ ใช่ก็กดแชร์ หรือกดติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ : >>CheckInChill<< คอยติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก กับเช็คอินชิลล์กันด้วยนะคะ ขอบคุณค่า