
7 เทศกาลน่าไป เมื่อไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ในเดือนมกราคม
เดือนมกราคม ในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งเดือนที่มีอากาศหนาวมากที่สุด ใครจะไปท่องเที่ยวควรเตรียมเสื้อกันหนาว และอุปกรณ์ต่างๆ ไปให้พร้อม ควรเช็คสภาพอากาศในเมืองที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยวด้วย จะได้ไม่มีผิดพลาดเนอะ มกราคม เป็นเดือนแรกของปี ผู้คนมักนิยมไปขอพรตามศาลเจ้าต่างๆ เพื่อขอให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิต ตามลานสกีต่างๆ เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย รวมถึงเทศกาลต่างๆ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม หากไปท่องเที่ยวในช่วงเดือนนี้ อย่าลืมเพิ่มเทศกาล ลงไปในแพลนด้วยนะ เดี๋ยวเสียเที่ยว ไปสัมผัสวัฒนธรรมของบ้านเค้า จะได้ไปถึงญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เช็คอินชิลล์ จะพาไปคุณไปสัมผัสเทศกาลต่างๆ ของเดือนมกราคมกัน ว่าจะมีเทศกาลอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
**เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 บางเทศกาลอาจจะถูกยกเลิกการจัดงาน ควรเช็ครายละเอียดให้ดี บน official websites ของเทศกาลนั้นๆ ก่อน ที่จะวางแผน
เทศกาลอาหารและวัฒนธรรม 2023
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Furusato Matsuri Tokyo 2023
วันจัดงาน : วันศุกร์ที่ 13 – วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2023
เว็บไซต์เทศกาล : tokyo-dome.co.jp/furusato
สถานที่ : โตเกียวโดม (Tokyo Dome), แขวงบุงเกียว กรุงโตเกียว
การเดินทาง : JR Sobu Line, JR Chuo Line, Toei Mita Line ทั้ง 3 สาย ลงสถานี Suidobashi
ฟูรุซาโต้ มัตสึริ เป็นเทศกาลอาหารและวัฒนธรรมที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น โดยรวบรวมเทศกาลท้องถิ่นและอาหารจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้ร่วมงานสามารถสัมผัสและเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมต่างๆ ได้ในที่เดียว เป็นเทศกาลที่สามารถดึงดูดความสนใจคนในโตเกียวได้เป็นจำนวนมาก เพราะทำให้นึกถึงบ้านเกิด มีเทศกาลดังๆ มาตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว อาทิเช่น เทศกาลอาโอะมาริ เนบุตะ ของจังหวัดอาโอะโมริ เทศกาลช่วงฤดูร้อนเป็น 1 ใน 3 เทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ เนบุตะ คือ การแห่นักรบผู้กล้าหาญ ที่มีไฮไลท์เป็นโคมขนาดยักษ์ที่สร้างมาจากขดลวด ที่ถูกแปะด้วยกระดาษญี่ปุ่น ด้านในมีไฟหลากสีสัน สวยงามอลังการสุดๆ, เทศกาลอาคิตะ คันโต เป็นเทศกาลแห่เพื่อหวังผลผลิตที่ดี จัดมานานมากกว่า 260 ปี ด้วยเสาไม้ไผ่ที่ยาวถึง 5-12 เมตร แบกโคมไฟ 24 และ 46 อัน มีน้ำหนักมากถึง 50 กิโลกรัม จะมีคนถือแห่บนท้องถนน ยามคำ่คืน โดยวางบนฝ่ามือ หน้าผาก ไหล่ สะโพก และหลัง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชม เป็นต้น
ในส่วนของอาหารนั้น เต็มไปด้วยแผงอาหารมากมาย รวมถึงการนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาทำเป็นข้าวหน้าต่างๆ (ดงบุริ) ปลาไหล วากิว มีราเมน อุด้ง ยากิโซบะ ซูชิ ปลาดิบ ข้าวกล่อง และอื่นๆ เป็นเทศกาลที่นักชิมไม่ควรพลาด เพราะมาตั้งแต่ฮอกไกโด ลงมาจนถึงโอกินาว่าเลยล่ะ ไม่ใช่มีแค่ของคาว มีของหวาน เบเกอรี่ ผลไม้ และเครื่องดื่มบริการด้วยนะ จิบคราฟต์เบียร์เย็นๆ หรือสาเก ก็ดีงาม นอกจากนี้ ยังมีของที่ระลึกจากจังหวัดต่างๆ จำหน่าย และมีการแสดงต่างๆ มากมาย ให้ชมกันอีกด้วย งานนี้ มีบัตรผ่านประตู หลากหลายราคา ตั๋ววันหยุด ราคา 1,800 เยน และตั๋ววันธรรมดา ราคา 1,400 เยน มีตั๋วราคาถูก (ซื้อหน้างาน) ที่เข้าได้ช่วงหลัง 4 โมงเย็น ราคาเพียง 1,300 เยน เท่านั้น ดูตั๋วเพิ่มเติมได้ที่ tokyo-dome มีคนไทยไปเที่ยวงานนี้ เยอะอยู่นะ งานเดียวได้สัมผัสทุกภูมิภาคของญี่ปุ่นเลย คุ้มสุดๆ จ้าาาา
เทศกาลไฟ โนซาวะออนเซ็น
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Nozawa Onsen Fire Festival 2023
วันจัดงาน : วันที่ 15 มกราคม 2023
เว็บไซต์เทศกาล : nozawa-onsen.com/nozawa-fire-festival
สถานที่ : จุดจัดเทศกาลไฟ หมู่บ้านโนซาวะออนเซ็น (Dosojin Fire Festival Venue Nozawa Onsen), เขตชิโมตะคาอิ จังหวัดนางาโนะ
การเดินทาง : จากสถานี Tokyo ขึ้น Hokuriku Shinkansen ลงสถานี Iiyama (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที) แล้วต่อด้วยรถบัสสายโนซาวะออนเซ็น 25 นาที หรือหากมาเที่ยวช่วงฤดูการเล่นสกี เดือนธันวาคม-มีนาคม จะมีรถ Shuttle Bus ไปยังโนซาวะออนเซ็นเลย (ขึ้นได้ที่สนามบินฮาเนะดะหรือสนามบินนาริตะ) ค่าโดยสาร Shuttle Bus ราคาประมาณ 10,900 – 11,900 เยน/เที่ยว (แล้วแต่ช่วงเดือน)
เทศกาลไฟ โนซาวะ ออนเซ็น เป็น 1 ใน 3 เทศกาลไฟที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น ถนนสายเก่า ระหว่างแม่น้ำและหมู่บ้านบนภูเขาในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นจุดที่มีพระเจ้า เป็นที่รู้จักกันในนาม โดโซจิน เป็นเทพของถนนและพรมแดน โดยรูปปั้นมักจะประดิษฐานตามขอบชายหมู่บ้าน ท่านเป็นเทพเจ้าที่ดีของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ในเทศกาล ชาวบ้านจะต้องสร้างศาลเจ้าสำหรับเทศกาลไฟโนซาวะ โดยต้นไม้จะถูกตัดในเดือนตุลาคม และถูกนำลงมาจากภูเขา ผ่านหมู่บ้าน ในวันที่ 13 มกราคม ก่อนที่จะถูกทำให้เป็นศาลไม้ หลังจากเสร็จแล้ว วันที่ 14 มกราคม นักบวชจากศาลเจ้าโคซุเกะ จะทำพิธีมอบศาลให้กับโดโซจิน สำหรับไฮไลท์ในวันที่ 15 มกราคม นั้น คือ การต่อสู้ด้วยไฟ ซึ่งจบลงด้วยการจุดไฟที่ศาลไม้ ให้แก่เทพโดโซจิน ด้วยคบเพลิง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้เข้าชม เทศกาลนี้ ถือสมบัติทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้ แรกเริ่มจัดขึ้นเพื่อขอให้การเก็บเกี่ยว สุขภาพ และโชคลาภที่ดี หลังๆ เริ่มขอเพื่อฤดูกาลสกีที่ดี เพราะโนซาวะออนเซ็น เป็นหมู่บ้านที่สวยงาม เชิงเขาเคนาชิ ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำพุร้อนและสกีรีสอร์ท การจุดไฟจะเริ่มในเวลา 19.00 น. เสร็จพิธี เวลาประมาณ 22.00 น.
เทศกาลไฟ โนซาวะ จัดขึ้นโดยผู้ชายอายุ 42 และ 25 ปี (ในญี่ปุ่น ถือเป็นอายุที่โชคร้าย) เพื่อเฉลิมฉลองการเกิดของลูกคนแรกในครอบครัว เพื่อกำจัดวิญญาณชั่วร้าย และสวดภาวนาเพื่อแต่งงานอย่างมีความสุข
ตลาดนัดเซตะกายะ โบโรอิจิ
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Setagaya Boro-ichi (Flea Market)
วันจัดงาน : วันที่ 15 – 16 มกราคม 2023 ** รอคอนเฟิร์ม**
เว็บไซต์เทศกาล : tokyo-cci.or.jp/setagaya/boroich
สถานที่ : บริเวณถนนโบโรอิจิ (Boro-ichi Street) ,แขวงเซตางายะ กรุงโตเกียว
การเดินทาง : Tokyu Setagaya Line ลงสถานี Setagaya หรือ Kamimachi
ตลาดนัดเซตะกายะ โบโรอิจิ จัดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1578 ในปัจจุบันได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่า เป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้ของโตเกียว คำว่า โบโร ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า เศษผ้า สมัยก่อนเป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเศษผ้าและสิ่งทอ เดิมทีเป็นตลาดเสรีในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 ซึ่งอนุญาตให้ค้าขายแบบปลอดภาษี เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ จัดขึ้น 6 ครั้งต่อเดือน ตลาดจึงเป็นจุดนัดพบสำคัญของพ่อค้าในสมัยเอโดะ ในปัจจุบันตลาดจัดขึ้นเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น คือ ช่วงกลางเดือนมกราคม และเดือนธันวาคม
ในตลาดจะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ประมาณ 700 ร้านค้า จำหน่ายสินค้าหลากหลาย ตั้แต่ของใช้ประจำวัน ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ของเล่น ต้นไม้ เสื้อผ้ามือสอง และของเก่า จำนวนมาก อีกทั้งคุณจะได้สัมผัสกับสตรีทฟู้ดมากมาย พบกับแผงขายอาหารต่างๆ ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลิน ที่สำคัญห้ามลืมทาน Daikan Mochi โมจิที่เป็นเอกลักษณ์ของตลาด
เทศกาลอินทรีย์และระบบนิเวศ ฤดูหนาว
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Earth Garden Winter 2023
วันจัดงาน : วันที่ 21 – 22 มกราคม 2023 **รอคอนเฟิร์ม**
เว็บไซต์เทศกาล : earth-garden.jp
สถานที่ : บริเวณต้นเซลโคว่า สวนโยโยงิ (Yoyogi Park Zelkova), ย่านฮาราจูกุ เขตชิบูย่า กรุงโตเกียว
การเดินทาง : JR Yamanote Line ลงสถานี Harajuku, Tokyo Metro Chiyoda Line ลงสถานี Yoyogi-kōen, Odakyu Odawara Line ลงสถานี Yoyogi-Hachiman
เทศกาลอินทรีย์และระบบนิเวศ เป็นเทศกาลที่จะทำให้คุณตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยหวังว่าคุณจะเข้าใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม แนะนำไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ผ่านการช็อปปิ้ง กิจกรรมพูดคุย และการแสดงของศิลปิน คุณสามารถช็อปปิ้งสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทุกชนิด งานฝีมือ และเสื้อผ้า เพลิดเพลินไปกับการแสดงดนตรีสด ผลงานศิลปะ ความบันเทิงหลากหลาย มีแผงขายอาหารออร์แกนิค และอาหารจากธรรมชาติ มีเบียร์ให้จิบ ให้คุณได้ลิ้มลอง และสัมผัสรสชาติที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา อีกทั้งยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปต่างๆ ที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ โดยจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือ ในช่วงฤดูหนาว (กรกฎาคม) และช่วงฤดูร้อน (ตุลาคม) งานจัดเวลา 10.00 – 16.00 น.
คราฟต์เบียร์ชิงแชมป์ญี่ปุ่น
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Japan Brewers Cup 2023
วันจัดงาน : วันที่ 20 – 22 มกราคม 2023 **รอคอนเฟิร์ม**
เว็บไซต์เทศกาล : japanbrewerscup.jp
สถานที่ : โอซันบาชิ ฮอลล์ (Osanbashi Hall), เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานะงาวะ
การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Yokohama ขึ้น Minatomirai 21 Line ลงสถานี Nihon-Odori ใช้ทางออก 1 หรือ 2 (ต้องข้ามถนน) แล้วเดินเท้าประมาณ 900 เมตร
คราฟต์เบียร์ชิงแชมป์ญี่ปุ่น จัดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ เป็นการแข่งขันคราฟต์เบียร์ ตัดสินโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเบียร์ และเทศกาลเบียร์ สำหรับประชาชนทั่วไป การแข่งขันจะจัดขึ้นในตอนเช้า และพิธีมอบรางวัลให้กับโรงเบียร์ที่ชนะ สำหรับในช่วงบ่าย ผู้เข้างานสามารถดื่มดำไปกับรสชาติของคราฟต์มากกว่า 250 ชนิด สามารถซื้อได้โดยตรงจากผู้ขาย ในราคาแก้วละประมาณ 300 – 500 เยน (ขึ้นอยู่กับผู้ขาย) ไม่ใช่แค่คราฟต์เบียร์ของญี่ปุ่นเท่านั้น ยังมีประเทศอื่นๆ ที่ส่งเข้าร่วมแข่งขัน อาทิเช่น อเมริกา, ไต้หวัน, สาธารณรัฐเช็ก เป็นต้น ใครที่เป็นสายดื่ม ไม่ควรพลาดเลยล่ะ เพราะจะได้ลิ้มลองรสชาติเบียร์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในงานวันสุดท้าย นอกจากเบียร์แล้ว ยังมีร้านอาหาร ที่คุณสามารถนำไปกับแกล้มในการดื่ม และเพลิดเพลินไปกับการแสดงดนตรีภายในงานได้อีกด้วย งานนี้ มีค่าผ่านประตู 500 เยน สามารถนำไปแลกคราฟต์เบียร์ได้ 1 แก้ว จัดขึ้นที่ โอซันบาชิ ฮอล์ เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานะงาวะ
● วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2020 เวลา 16.00 – 22.00 น.
● วันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2020 เวลา 11.00 – 21.00 น.
● วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2020 เวลา 11.00 – 19.00 น.
เทศกาลน้ำแข็ง ทะเลสาบชิคตสึ 2023
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Lake Shikotsu Ice Festival 2023
วันจัดงาน : วันที่ 28 มกราคม – 23 กุมภาพันธ์ 2023
เว็บไซต์เทศกาล : 1000sai-chitose.or.jp
สถานที่ : ชิคตสึโกะ ออนเซ็น (Shikotsuko Onsen), เมืองชิโตเซะ จังหวัดฮอกไกโด
การเดินทาง : จากสถานี Chitose ขึ้นบัส Chuo Bus ไปยัง Shikotsukoใช้เวลาประมาณ 45 นาที (ต้องจองล่วงหน้า) หรือหากมาจากใจกลางซัปโปโร สามารถจองแพ็คเกจกับ Chuo Bus เที่ยวทะสาบชิคตสึ+ทะเลสาบโทยะ (ไป-กลับ) ขึ้นรถได้ที่สถานี Sapporo (ดูแพ็คเกจที่นี่) อีกทางคือเช่ารถขับจากซัปโปโรไปทะเลสาบชิคตสึ ใช้เวลา 80 นาที หรือเช่ารถขับจาก New Chitose Airport ไปทะเลสาบชิคตสึ ใช้เวลา 40 นาที
ทะเลสาบชิคตสึ เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ ในเมืองชิโตเซะ จังหวัดฮอกไกโด อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติชิคตสึ-โทยะ ทะเลสาบชิคตสึ ขึ้นชื่อในเรื่องของความใสสะอาดของน้ำอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และมีความลึกเป็นอันดับที่สองของทะเลสาบทั้งหมดในญี่ปุ่น อุณหภูมิน้ำคงที่ตลอดทั้งปี ไม่เป็นน้ำแข็ง แม้อยู่บนเกาะฮอกไกโด บริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของธรรมชาติ แวดล้อมไปด้วยภูเขา มีที่ตั้งแคมป์ ออนเซ็น และร้านอาหารมากมาย
ในช่วงเดือนมกราคม บริเวณสวนสาธารณะ ริมทะเลสาบชิคตสึ จะมีงานเทศกาลน้ำแข็ง ทะเลสาบชิคตสึ เปิดให้เข้าชม เวลา 09.00 – 22.00 น. มีปะติมากรรมน้ำแข็ง ที่สร้างขึ้นโดยน้ำจากทะเลสาบชิคตสึ ใช้สปริงเกอร์พ่นน้ำที่สูบขี้นมาจากทะเลสาบ พ่นลงบนวัตถุและสิ่งประดิษฐ์ จนกลายเป็นรูปร่างต่างๆ มีทั้งลานสเก็ต สไลด์เดอร์น้ำแข็ง นั่งม้าชมสถานที่จัดงาน มีเค้กน้ำแข็ง เครื่องดื่มร้อน และอาหารขายภายในงาน มีการประดับไฟ สร้างสีสันให้กับงานในช่วงกลางคืน เปิดไฟเวลา 16.30 – 22.00 น. ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีการจุดดอกไม้ไฟ ในช่วงเวลา 18.30 น. อีกทั้งยังมีการแสดงตีกลองแบบญี่ปุ่นอีกด้วย ใครไปเที่ยวฮอกไกโด อย่าลืมแวะไปเที่ยวได้นะ อยู่ห่างจากซัปโปโร ประมาณ 40 นาทีเท่านั้น (เช่ารถขับ)
ไดโกคุ มัตสึริ
ชื่อเทศกาล ภาษาอังกฤษ : Daikoku Matsuri 2023
วันจัดงาน : วันที่ 16 – 17 มกราคม 2021
เว็บไซต์เทศกาล : kandamyoujin.or.jp
สถานที่ : ศาลเจ้าคันดะ เมียวจิน (Kanda Myojin Shrine), แขวงชิโยดะ กรุงโตเกียว
การเดินทาง : JR Sobu Line/Chuo Line ลงสถานี Ochanomizu ใช้ทางออก Hijiribashi แล้วเดินเท้าอีก 500 เมตร, Tokyo Metro Marunouchi Line ลงสถานี Ochanomizu ใช้ทางออก 1 เดินเท้าอีก 500 เมตร, Tokyo Metro Chiyoda Line ลงสถานี Shin-ochanomizu ใช้ทางออก 2 เดินเท้าอีก 500 เมตร
เทศกาลไดโกคุ มัตสึรึ เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นปีละครั้ง มีพิธีอาบน้ำเย็นจัด (สำหรับหนุ่ม-สาว ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป) เพื่อทนต่ออุณหภูมิต่ำ โดยหวังว่าจะสามาระถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออก แล้วนำพาความบริสุทธิ์ และความโชคดีเข้ามา หากได้ยินเสียงว่า ซามุอิ ซามุอิ ตะโกนออกมาล่ะก็ มันแปลว่า มันหนาว มันเย็น ร่างกายพวกเขาเปลือยเปล่า ยืนอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็น เพื่อรออาบน้ำ อีกทั้งยังมีนักเต้นชินโต แต่งตัวเป็นเทพไดโกคุ เพื่อทักทายผู้คน เขย่าค้อนตะลุมพุกเหนือหัวของผู้ร่วมงาน
เทพไดโกคุ ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการแต่งงาน ได้รับการนับถือในฐานะเทพแห่งการจัดการที่ดินของชาติ, เทพแห่งความสามัคคี ชีวิตสมรส และการแต่งงาน ด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ กล่าวกันว่า เป็นเทพเจ้าที่ปกป้องโลก เพื่อป้องกันผีเข้ามา สำหรับศาลเจ้าคันดะ เมียวจิน เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ อายุมากกว่า 1,270 ปี ที่คนญี่ปุ่น นิยมมากราบไหว้ สักการะ ขอพรปีใหม่ นอกจากเทพไดโกคุแล้ว ยังมีเทพอีก 2 ท่าน ท่านแรก คือ อีบิซุ (Ebisu) เทพแห่งความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจ , สุขภาพ และความโชคดี และท่านที่สอง มาซากะโดะ (Masakado) เทพแห่งการกำจัดผี
ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว บ้านเมือง อาหาร และวัฒนธรรม มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ หากได้ไปเที่ยวแล้วหนึ่งครั้ง รับรองว่าจะติดใจ อยากไปอีก โดยไม่มีเบื่อเลยล่ะ
ถ้าชอบก็กดไลท์ ใช่ก็กดแชร์ หรือกดติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ : >>CheckInChill<< คอยติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก กับเช็คอินชิลล์กันด้วยนะคะ ขอบคุณค่า