เที่ยว “กุนมะ” ชมเส้นทางใบไม้เปลี่ยนสี ลุยหิมะไปเล่นสกี พร้อมสถานที่แช่ออนเซนสำคัญ (Part1)

กุนมะ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของญี่ปุ่นที่ผู้คนให้ความสนใจเข้ามาเที่ยวชมเป็นจำนวนไม่น้อย พราะด้วยความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและมีความสะดวกสบายในการเดินทาง โดยแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมในการมาเที่ยวก็คือแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคคันโต เนื่องจากอยู่ใกล้กับเมืองหลงอย่างโตเกียว และใน กุนมะ นั้นก็เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม ช่วยสร้างบรรยากาศของการมาเที่ยวชมได้เป็นอย่างดี โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุดด้วยกัน

Irohazaka

โดยสถานที่แรกของ กุนมะ ที่มีความน่าสนใจนั้น ได้แก่ Irohazaka ซึ่งเป็นถนนที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เเละเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี โดยถนนเส้นนี้จะมีความยาวตลอดทั้งสายอยู่ที่ 350 กิโลเมตร เเลเริ่มต้นจากเมืองอุเอดะในจังหวัดนากาโน่ ลัดเลาะป่าเขาสู่กุนมะ เเละไปสิ้นสุดที่เมืองนิกโก้ โดยช่วงที่ป่านกุนมะนั้นถือว่ามีความสวยงามเเละน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง จากเส้นทางที่โค้งไปโค้งมา เเละมีวิวทิวทัศน์ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง จนได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเขตคันโตเลยทีเดียว เเละเส้นทางนี้ยังเป็นเส้นทางที่มุ่งขึ้นไปสู่ทะเลสาบซูเซนจิ ที่มีความสูงมากกว่า 1,269 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลอีกด้วย

เส้นทางของอิโรฮะซะกะ นั้นเป็นเส้นทางเเบบวันเวย์ในช่วงที่ขึ้นเขา มีความคดเคี้ยวเป็นอย่างมาก เเละมีป่าสองข้างทางที่มีความสวยงาม รวมทั้งมีจุดชมวิวหลายจุดที่มีความน่าสนใจอีกด้วย โดยจุดชมวิวบางจุดนั้นสามารถนั่งกระเช้าอะเคจิไดระ ขึ้นไปชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ในเเบบ 360 องศาอีกด้วย ถือว่าน่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้เเล้วจุดไฮไลท์อีกจุดของเส้นทาง Irohazaka ก็คือการที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาชมความสวยงามของ น้ำตกเคกอน ซึ่งจะมีน้ำไหลออกมาจากขอบของทะเลสาบซูเซนจิผ่านหน้าผาสูงชันเเล้วไหลลงสู่หุบเขาเบื้อล่างเป็นภาพที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก เเละเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาชมความสวยงามเเละถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พร้อมกับความสวยงามของถนนเส้นที่ที่จะคดเคี้ยวทับกันเป็นภาพที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง จนกลายเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกุนมะ

แผนที่ Irohazaka

สำหรับการเดินทางมายัง อิโรฮะซะกะ นั้นสามารถใช้บริการชองรถไฟเจอาร์ นิกโก้ โดยให้ขจากสถานี Utsumomiya มาลงยังสถานี Nikko ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 43 นาที เเล้วก็เปลี่ยนมานั่งรถบัสสาย Chuzenji-onsen Bus ซึ่งเส้นทางของรถบัสนั้นจะใช้เส้นทางที่ผ่าน ถนน Irohazaka โดยให้คุณมาลงที่ป้าย Akechidaira Ropeway จากนั้นก็สามารถใช้บริการของ Ropeway เพื่อขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ด้านบนได้อีกดด้วย โดยเสียค่าโดยสาร 710 เยนต่อคน หรือหากใครจะลองเช่ารถยนต์ขับมาก็ได้เช่นเดียวกัน

Hara Museum ARC

สำหรับสถานที่ถัดมาเรานำมาเสนอนั่นก็คือ Hara Museum ARC ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ในเขตคันโตที่มีความสวยงามเเละน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเเละต่างชาติเเวะเวียนมาเที่ยวชมความงดงามของผลงานศิลปะอย่างมากมาย ภายใต้บรรยากาศที่มีความอาร์ตเป็นอย่างยิ่ง ช่วยสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวชมกันเป็นอย่างยิ่ง

โดยที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาระ นั้นเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยในเเบบชินางาวะ โดยมีการจัดเเสดงผลงานศิลปะเเยกออกเป็นสองส่วนด้วยกันทั้งในส่วนของในอาคารเเละนอกอาคาร ซึ่งภายในอาคารนั้นจะมีการจัดการเเสดงผลงานศิลปะหมุนเวียรกันเป็นประจำ ซึ่งเเต่ละงานนั้นก็มีความสวยงามเเละน่ามาชื่่นชมอย่างมาก โดยเป็นผลงานของศิลปินทั้งชาวญี่ปุ่นเอง เเละชาวต่างชาติ ส่วนทางด้านนอกนั้นจะมีความน่าสนใจของงานศิลปะที่จัดเเสดงอยู่บริเวณของศาลาคังเค ซึ่งจะเป็นการจัดเเสดงผลงานศิลปะดั้งเดิมของเอเซียตะวันออก ถือว่ามีความสวยงามเเละน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ตัวอาคารของ Hara Museum ARC นั้นมีการออกเเบบที่มีความสวยงามเเละลงตัวเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับการจัดเลย์เอาท์ที่มีความสวยงามของสวนต่างๆ โดยที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งเเต่เวลา 9:30 น. จนถึงเวลา 16:30 น. โดยจะปิดทุกวันวันพฤหัสบดี เเละต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 1,000 เยนสำหรับการเข้าชมพิพิธภัณฑ์เพียงอย่างเดียว เเต่หากจะเข้าเที่ยวชมสวนสนุกอิคาโฮกรีนโบคุโจด้วยก็ต้องเสียค่าเข้าชมเเบบเหมารวมที่ราคา 1,800 เยน นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของกุนมะที่น่ามาเที่ยวชม

แผนที่ Hara Museum ARC

ส่วนการเดินทางมายัง พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาระ นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสจาก Ikaho Bus Terminal โดยมาลงที่ป้าย Green Bokujo-mae bus stop ใช้เวลาในการเดินทาง 10 นาที เสียค่าโดยสาร 260 เยนต่อคน นอกจากนี้เเล้วยังสามารถใช้บริการของรถบัสจากป้ายหน้าสถานี Shibukawa Station โดยมาลงที่ Green Bokujo-mae bus stop เช่นเดียวกัน ใช้เวลาในการเดินทาง 15 นาทีเสียค่าโดยสารคนละ 480 เยน โดยรถบัสจะออกชั่วโมงละ 2-4 เที่ยว

Ikaho Hotspring Baths

มาถึงแหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังของจังหวัดกุนมะ อย่าง Ikaho Hotspring Baths นั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภูเขาฮารุนะ โดยมีบรรยากาศของเมืองเก่าที่มีความสวยงามเเละเต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนมากมายที่มีความสวยงามตลอดเส้นทางกลางเมืองที่มีความยาว 300 เมตร โดยจะมีลักษณะที่ปูด้วยเเผ่นหินเเละเป็นบันไดหินที่มีความสวยงาม สำหรับ น้ำพุร้อนอิคาโฮ นั้นจะมีความน่าสนใจตรงที่จะเป็นน้ำที่มีปริมาณธาตุเหล็กสูงมากกว่าที่อื่นๆ ในญี่ปุ่น ทำให้น้ำนั้นมีสีน้ำตาลเเดงเเละมีรสชาดเป็นโลหะ โดยมีความเหมาะสมอย่างมากในการเเช่เพื่อรักษาอาการเมื่อยล้าเเละช่วยระบบไหลเวียนโลหิต

โดยมีจุดที่น่าสนใจใน Ikaho Hotspring Baths อยู่หลายจุดด้วยกันเเต่ที่เราอยากจะเเนะนำก็คือในส่วนของ Ikaho Rotemburo ที่อยู่ห่างจากบันไดหินขั้นบนสุด โดยข้ามสะพานคาจิคาไป เป็นห้องอาบน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่มีการเเบ่งเเยกชาย-หญิงอย่างชัดเจน เเละเเต่ละฝั่งก็จะมีสระน้ำร้อนเเละน้ำอุ่นให้เลือกอาบกันตามใจชอบอีกด้วย โดยที่นี่เปิดให้บริการในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน ในเวลา 9:00 น. จนถึงเวลา 19:00 น. ส่วนในเดือนตุลาคม ถึงเดือนมีนาคม จะเปิดเวลา 10:00 น. จนถึงเวลา 18:00 น. เสียค่าบริการ 450 เยนต่อคน

ส่วนอีกจุดที่น่าสนใจใน น้ำพุร้อนอิคาโฮ ก็คือ Ishidan no Yu ซึ่งจะตั้งอยู่ด้านล่างของบันไดหิน โดยเป็นห้องน้ำขนาดปานกลางที่เเยกชาย-หญิง มีความเก่าเเก่เเละให้บรรยากาศของออนเซนเเบบเก่าเป็นอย่างดี โดยที่นี่จะเปิดในเวลา 9:00 น. จนถึงเวลา 21:00 น. ช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม ส่วนในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม จะเปิดในเวลา 9:00 น. จนถึงเวลา 20:30 น. โดยเสียค่าใช้บริการคนละ 410 เยน

Minakami Hot Springs

อีกหนึ่งในเเหล่งบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงอย่างมากของ กุนมะ ที่พลาดไม่ได้นั่นก็คือ Minakami Hot Springs  โดยมันตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาและหุบเขาในเมืองมินาคา โดยมีย่านดังอย่างย่าน Minakami Onsen ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่เเวะเวียนมาเที่ยวชมเเละเเช่ออนเซนกันอย่างมากมายเลยทีเดียว นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกุนมะที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชมให้ได้

สำหรับ น้ำพุร้อนมินาคามิ นั้นมีจุดที่มีความน่าสนใจในการมาออนเซนอยู่หลายเเห่งด้วยกันอย่างที่ ทาคาระงาวะออนเซน นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งในเรียวกังที่มีความเก่าเเก่เเละสวยงามอย่างมาก โดยมีบริการทั้งในส่วนของห้องอาบน้ำกลางเเจ้งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเเห่งนี้ด้วย เเละมีห้องอาบน้ำรวมที่จะอยู่ริมกับเเม่น้ำ พร้อมกับห้องอาบน้ำสำหรับผู้หญิงอย่างเดียวอีกด้วย โดยเปิดบริการทุกวันในเวลา 9.00 น. จนถึง 17.00 น. โดยเสียค่าบริการคนละ 1,500 เยน เเต่สำหรับผู้เข้าพักในเรียวกันสามารถเเช่ได้ฟรี

ส่วนทางด้านของโฮชิออนเซน นั้นจะเป็นเรียวกังที่อยู่ลึกเข้าไปอีกในหุบเขาบริเวณโฮชิออนเซน โดยจะมีห้องอาบน้ำในเเบบดั้งเดิมที่มีความเรียบง่ายเเละสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยที่นี่เปิดให้บริการทุกวันในเวลา 10:30 น. จนถึงเวลา 14:00 น. โดยปิดทุกวันพุธ เเละเสียค่าใช้บริการคนละ 1,000 เยน

นอกจากนี้เเล้วใน Minakami Hot Springs ยังมีจุดที่น่าสนใจมาออนเซนอีกทั้งในส่วนของ ยูเตะรุเมะ ทานิงาวะออนเซน ที่จะตั้งอยู่ด้านหลังของหุบเขาของภูเขาทานิงาวะ โดยห้องอาบน้ำนั้นจะมีการตกเเต่งที่มีความทันสมัยเป็นอย่างยิ่ง เเละมีทั้งเเบบในร่มเเละกลางเเจ้ง ซึ่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เเละอยู่ริมเเม่น้ำ โดยเปิดบริการทุกวันในเวลา 9:00 น. ถึง 20:30 น. เสียค่าเข้าคนละ 550 เยน

ส่วนอีกเเห่งก็คือ มังเทนโบชิโนยุ ซึ่งจะตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบอาคายะ ในซารุงาเคียวออนเซน มีความสวยงามเเละเเวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ โดยมีห้องอาบน้ำทั้งในส่วนของในร่มเเละกลางเเจ้ง เเถมมีทั้งร้านอาหารเเละบริการนวดอีกด้วย เเละมีที่จัดเเสดงคาบุกิ เเละมีพิพิธภัณฑ์งานฝีมือกระดาษ ที่น่ามาเข้าชม โดยที่นี่เปิดให้บริการทุกวันในเวลา 10.00 น. ถึงเวลา 21.00 น. โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 650 เยน

Oze National Park

มาถึงในส่วนของ อุทยานแห่งชาติโอเซ Oze National Park นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามเเละมีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ง โดยมีป่าเขาที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง เเละรายล้อมไปด้วยเทือกเขาที่มีความสวยงาม พร้อมกันนี้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นให้ความนิยมมาชมความสวยงามของดอกกะหล่ำปีบานกันอย่างมาก ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิคาบเกี่ยวกับต้นฤดูร้อน

ความน่าสนใจของ อุทยานแห่งชาติโอเซ ก็คือเส้นทางเดินท่องเที่ยวธรรมชาติ อาทิเช่น ทางเดินริมทะเลที่มีมีความสูงผ่านที่ลุ่ม Ozegahara Marshland ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หรือจะเป็นเส้นทางเดินรอบๆ บ่อน้ำ Ozenuma Pond พร้อมกันนี้ก็ยังมีเส้นทางในการปีนเขาให้ท้าทายความสามารถกันอีกด้วย โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง โดยสำหรับ Ozegahara Marshland จะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,400 เมตร โดยมีความยาว 6 กิโลเมตรเเละกว้าง 1 กิโลเมตร ถือว่าเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจในการเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามอย่างมากมาย

โดยความโดดเด่นที่สำคัญของ Oze National Park ก็คือความสวยงามของดอกกะหล่ำปลีสีขาวที่บานสะพรั่งเป็นอย่างยิ่ง ส่วนมนช่วงของเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคมนั้นก็จะพบกับความสวยงามของดอกลิลลี่อัลไพน์สีเหลืองที่บานไปทั่วพื้นที่เเห่งนี้

ก่อนที่เปลี่ยนเป็นสีเเดงเเละสีเหลืองในช่วงเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม ส่วนอีกจุดที่เป็นไฮไลท์ในการมาเที่ยวชมก็คือในส่วนของบ่อน้ำ Ozenuma Pond โดยบริเวณรอบๆ บ่อน้ำจะมีทางเดินรอบๆ เป็นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร โดยเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะได้พบกับดอกไม้ที่มีชื่อเสียงของอุทยานเเห่งนี้ ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

แผนที่ Oze National Park

การเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของ อุทยานแห่งชาติโอเซ นั้นหากมาจากโตเกียวก็สามารถใช้บริการของรถไฟ JR Joetsu Shinkansen โดยมาลงที่สถานี Jomo Kogen Station เเล้วต่อรถบัสจากหน้าสถานีไปลงยัง Tokura แต่สำหรับทางที่สะดวกที่สุดนั้นคือการเช่ารถยนต์แล้วขับมาเที่ยวที่นี่เอง โดยสามารถเช่ารถยนต์ทั้งจากที่โตเกียว หรือที่กุนมะก็ได้เช่นเดียวกัน

Mount Tanigawa

มาชมความสวยงามของ Mount Tanigawa นั้นเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนของจังหวัดกุนมะและติดกับทางเหนือของจังหวัดนิอิงาตะ นับว่าเป็นภูเขาที่มีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง โดยมีความสูงอยู่ที่ 1,977 เมตร โดยในช่วงฤดูหนาวนั้นจะปกคลุมไปด้วยหิมะ เเละพอมาถึงฤดูใบไม้ผลิหิมะเหล่านั้นจะละลายกลายมาเป็นลำธารสีฟ้าที่มีความงดงามเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งเลยก็ว่าได้

สำหรับ ภูเขาทานิงาวะ นั้นสามารถมาท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล เเละเป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีความสวยงามเเละดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชม อย่างในฤดูหนาวช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนพฤษภาคม ก็จะมีสกีรีสอร์ทจะเปิดให้บริการ โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่ง Tanigawa Ropeway ไปที่ Tanigawadake Tenjindaira Ski Resort ซึ่งเปิดบริการอีกด้วย

ส่วนในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีช่วงเดือนตุลาคมนั้น ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่พีคอย่างมาก เพราะมีความสวยงาม เเละหุบเขาจะเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม เเดง เหลือง ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่ช่วงเวลาในเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน นั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะกับการปีนเขาเเละเดินป่าเป็นอย่างมาก โดยใช้เวลาในการเดินเขาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็จะมาถึงในจุดของเคเบิ้ลคาร์ด้านบน เเล้วหลังจากนั้นก็จะใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อขึ้นไปสู่ยอดเขาเเห่งนี้ เเละยังมีเส้นทางในการเดินไปถึงนิกาตะอีกด้วย เเต่ต้องใช้เวลามากถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งเส้นทางเหล่านี้ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี

แผนที่ Mount Tanigawa

ส่วนการเดินทางมายัง ภูเขาทานิงาวะ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟมาลงที่สถานี Minakami Station จากนั้นก็ให้โดยสารรถบัสมาลงที่สถานีเคเบิ้ลคาร์ Tanigawadake Ropeway โดยใช้เวลาในการเดินทาง 20 นาที เเละต้องเสียค่าโดยสารคนละ 670 เยน ส่วนรถบัสนั้นออกทุกๆ ชั่วโมง นอกจากนี้เเล้วยังสามารถใช้วิธีการต่อรถไฟจากสถานี Minakami Station มาลงที่สถานี Doai Station เเล้วก็เดินขึ้นเนินต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงเเล้ว

Yubatake

มาถึงกับจุดต้นกำเนิดของน้ำพุร้อนที่กระจายออกไปยังเรียวกังเเละเเหล่งออนเซนมากมายหลายเเห่งใน คุซาสึออนเซน นั่นก็คือ Yubatake โดยสถานที่เเห่งนี้เป็นเหมือนกับตาน้ำที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองคุซาสึ ของกุนมะ โดยเป็นเเหล่งในการผลิตน้ำร้อนซึ่งมีปริมาณมากที่สุดในญี่ปุ่น เเละเป็นอีกจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมวิธีการของการนำน้ำกระจายไปยังเเหล่งออนเซนต่างๆ ในเขตคุซาสึออนเซนอีกด้วย ถือว่าเป็นอีกจุดที่น่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับวิธีการในการนำน้ำจาก ยูบาทาเกะ ไปสู่เเหล่งออนเซนต่างๆ นั้นจะใช้วิธีการในการขนส่งน้ำผ่านทางท่อไม้เพื่อลดอุณหภูมิของน้ำที่สูงกว่า 70 องศาเซลเซียส ให้พอดีกับการลงไปเเช่ได้ โดยในเเต่ละวันนั้นจะมีการส่งน้ำออกไปมากกว่า 5,000 ลิตรต่อนาที ซึ่งถือว่าเป็นบริมาณที่สูงเป็นอย่างยิ่ง โดยน้ำเหล่านี้จะไหลไปสู่เรียวกังต่างๆ เเละห้องอาบน้ำสาธารณะ ทำให้ผู้ที่เข้ามาเที่ยวเเละพักในเรียวกังเหล่านั้นได้เเช่ออนเซนกันอย่างสบายอารมณ์เลยทีเดียว

วิธีการในการส่งน้ำจาก Yubatake ไปยังเรียวกังต่างๆ นั้นนับว่าเป็นวิธีในเเบบโบราณที่มีความน่าสนใจ เพราะท่อไม้เหล่านั้นนอกจากจะช่วยลดอุณหภูมิของน้ำเเล้วยังช่วยดูดซับกลิ่นของกำมะถันอีกด้วย

เเละบริเวณของ ยูบาทาเกะ ก็ยังมีการสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงามด้วยงานไม้ เเละมีควันขโมงออกมาเป็นระยะๆ ทำให้บรรยากาศนั้นเเสดงออกถึงความเป็นเมืองเเห่งออนเซนเลยทีเดียว และอาคารบ้านเรือนที่อยู่รายล้อมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็มีความเก่าแก่และช่วยเสริมบรรยากาศเป็นอย่างดี โดยที่นี่จะเปิดให้เข้ามาเที่ยวชมได้ฟรีทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

แผนที่ Yubatake

ส่วนในเรื่องของการเดินทางมาชมความอลังการของ ยูบาทาเกะ นั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินด้วยเท้าจากตัวสถานีขนส่งรถบัสของเมืองคุซาสึ เพียงเเค่ 5 นาทีก็จะถึงสถานที่เเห่งนี้เเล้ว นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

Kusatsu Hot Spring

สำหรับ Kusatsu Hot Spring นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งในเเหล่งน้ำพุร้อนที่ไหลมาจากธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เเละตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลย นับว่าเป็นอีกเมืองตากอากาศเเละเมืองออนเซนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของญี่ปุ่น เเละมีการจัดอันดับว่าเป็นเมืองออนเซนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยภายในเมืองนั้นจะเต็มไปด้วยเรียวกังเเละห้องอาบน้ำสาธารณะมากมายหลายเเห่งด้วยกัน

โดยยกในส่วนของออนเซนที่มีชื่อเสียงอย่าง Gozanoyu ที่ซึ่งเป็นที่โดดเด่นอาคารไม้เเบบโบราณที่มีความเก่าเเก่เเละสวยงามอย่างยิ่ง เเละเป็นห้องอาบน้ำหิน รวมทั้งเเบบไม้ ที่มีน้ำให้เลือกอาบหลายชนิดด้วยกัน เเละมีห้องบริเวณชั้นสองให้นั่งพักผ่อนอีกด้วย

ภายในนั้นเป็นห้องอาบน้ำเเบบดั้งเดิมจำนวน 2 ห้อง ให้บรรยากาศในการออนเซนเเบบเก่าเป็นอย่างยิ่ง

ทางด้านของ Kusatsu Hot Spring นั้นยังมีสระแช่เท้าออนเซน ไว้คอยบริการอยู่ที่ อาคารสถานีขนส่งรถบัส ใกล้ๆ กับ ยูบาทาเกะ อีกด้วย เเละมีภัณฑ์ออนเซนที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของอาคารสถานีขนส่งรถบัส นับว่าน่ามาเที่ยวชมไม่น้อย

ส่วนห้องอาบน้ำต่างๆในเมืองเเห่งนี้ที่น่าสนใจก็มีทั้งในส่วนของ Sainokawara Rotenburo ซึ่งเป็นโรงอาบน้ำกลางเเจ้งที่ใหญ่ที่สุด โดยสามารถจุคนได้มากกว่า 100 คน เเละมีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างมาก เปิดบริการทุกวันเวลา 9:00 น. ถึง 20:00 น. เสียค่าบริการคนละ 500 เยน

ส่วนทางด้านของ Otakinoyu นั้นก็เป็นเเหล่งออนเซนที่มีห้องมากมายหลายเเบบทั้งเเบ่งชายเเละหญิง หรือจะเป็นห้องอาบน้ำกลางเเจ้งหรือในร่ม โดยเป็นสไตล์ดั้งเดิมที่เป็นไม้เเละมีอุณหภูมิของน้ำอยู่ระหว่าง 38-46 องศาเซลเซียส โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งเเต่เวลา 9:00 น. จนถึงเวลา 21:00 น. โดยเสียค่าบริการคนละ 800 เยน

Mount Shirane

จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่อมาคือ Mount Shirane นั้นตั้งอยู่ในเมืองคุราสึ ถือว่าเป็นภูเขาอีกเเห่งที่มีความสวยงามเเละสามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี รวมทั้งเป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นในการมาเดินป่าในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือจะเป็นฤดูร้อน กันเป็นอย่างยิ่ง ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น ที่นี่ก็นับว่าเป็นอีกจุดที่มีความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้มีนักท่องเที่ยวเเวะเวียนมาชมความสวยงามเสมอๆ

จะว่าไปเเล้วการเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของ ภูเขาชิราเนะ นั้นก็เรียกว่าทำได้ในทุกฤดูกาลเลยก็ว่าได้ โดยในช่วงฤดูหนาวนั้นก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมในการเล่นสกีกัน เพราะที่นี่จะมีเส้นทางในการเล่นสกีที่มีความยาวที่สุดในญี่ปุ่นถึง 8 กิโลเมตรด้วยกัน โดยสามารถไปเล่นกันได้ที่ Kusatsu Kokusai Ski Resort โดยใช้ลิฟท์เก้าอี้ หรือกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขา นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตอย่างมากใยช่วงฤดูหนาวของภูมิภาคคันโตเเห่งนี้

ในส่วนของการเดินป่าใน Mount Shirane ช่วงกลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน นั้นเป็นช่วงที่มีความสวยงามเเละมีทัศนียภาพที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เเละเส้นทางที่ดีที่สุดนั้นก็คือจาก Shirane Resthouse ไปที่ Yugama Crater Lake ซึ่งใช้เวลาในการเดินไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้นก็จะถึงเเล้ว

ส่วนบริเวณยอดเขานั้นก็จะมีความสวยงามของทะเลสาบ Yugama Crater Lake ซึ่งเป็นปล่องภูเขาไฟเดิม โดยผืนน้ำนั้นจะมีสีฟ้าสดใสเป็นอย่างยิ่ง เเละมีเส้นทางเดินอื่นๆ อีกมากมายหลายเส้นทางที่มีความสวยงามของธรรมชาติสองข้างทางอีกด้วย

แผนที่ Mount Shirane

การเดินทางมายัง ภูเขาชิราเนะ นั้นสามารถเช่ารถเเละขับมาได้เพียงเเค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง เเต่เส้นทางจะปิดในช่วงฤดูหนาว ส่วนในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนเมษายน สามารถใช้บริการของรถบัสเจอาร์ จาก Kusatsu Bus Terminal โดยให้ไปลงที่ Shirane Resthouse โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที เเละเสียค่าโดยสารคนละ 1,130 เยน โดยสามารถใช้ร่วมกับ JR Pass ได้อีกด้วย

Manza Onsen

Manza Onsen เมืองแห่งน้ำพุร้อนรีสอร์ต ที่มีเเหล่งออนเซนมากมายเเละอยู่เหนือระดับน้ำทะเลขึ้นมาถึง 1,800 เมตร โดยตั้งอยู่ที่ขอบทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาชิราเนะ จึงทำให้น้ำพุร้อนของที่นี่มีความพิเศษตรงที่มีความเป็นกรดสูงอย่างมาก เนื่องมาจากมีส่วนผสมของซัลฟูริกสูง ซึ่งทำให้น้ำพุร้อนที่นี่มีสรรพคุณในการช่วยเผาผลาญอาหารได้เป็นอย่างดี เเละช่วยในเรื่องของการไหลเวียนดลหิตอีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นเเหล่งออนเซนอีกเเห่งในกุนมะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกุนมะกันเป็นอย่างมาก

อย่างที่ นิสชินคัง นั้นก้เปิดให้บริการห้องอาบน้ำทั้งในร่มเเละกลางเเจ้ง โดยมีการตกเเต่งอย่างหรูหราเป็นอย่างมาก เเละมีความสะดวกสบายเเละทันสมัย โดยเปิดให้บริการทุกวันในเวลา 10:00 น. จนถึงเวลา 17:00 น. โดยเสียค่าใช้จ่าย 1,000 เยนต่อคน เเต่หากใช้บริการเรียวกังสามารถเข้าในบริการได้ฟรี โดยเสียค่าเข้าพักคืนละ 14,000 เยนต่อคน โดยมีอาหาร 2 มื้ออีกด้วย

ส่วนทางด้านของ โรงแรมมังซะพริ๊นซ์ (Manza Prince Hotel) นั้นก็เปิดให้บริการห้องอาบน้ำกลางเเจ้งที่รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่มีความสวยงามของภูเขา เเละมีห้องหลายเเบบทั้งเเบบรวมเเละเเบบเเยกชาย-หญิง โดยเปิดให้บริการทุกวันในเวลา 11:00 น. จนถึงเวลา 15:00 น. โดยเสียค่าใช้จ่าย 1,200 เยน เเต่หากมาพักค้างคืนที่เรียวกังก็สามารถใช้บริการได้ฟรี โดยค่าเข้าพักต่อคืนอยู่ที่ 8,000 เยนต่อคน เเละมีอาหาร 2 มื้อ

นอกจากนี้เเล้วยังมีเเหล่งน้ำพุร้อนที่มีความน่าสนใจอีกหลายเเห่งด้วยกันทั้งในส่วนของ โรงแรมมังซะโคเจน ที่มีบริการก้องอาบน้ำกลางเเจ้งขนาดใหญ่ที่เเบ่งออกเป็น 7 สระรวมด้วยกัน เเละมีสระสำหรับผู้หญิงเเยกออกมาต่างหาก โดยสระน้ำนั้นทำมาจากหิน เเละมีห้องอาบน้ำในร่มอีกด้วย โดยเปิดบริการทุกวันในเวลา 11:00 น. จนถึงเวลา 18:00 น. เสียค่าบริการ 1,200 เยน ส่วนค่าเข้าพักค้างคืนนั้นราคาคืนละ 7,000 เยนต่อคน โดยรวมอาหาร 2 มื้อเเละค่าเข้าใช้บริการออนเซนเเล้ว

ส่วนทางด้านของ มังซะเต นั้นก็เปิดให้บริการห้องอาบน้ำรวมในร่ม เเละกลางเเจ้งอย่างละห้อง โดยมีการตกเเต่งที่สวยงามเเละหรูหราอย่างมาก เปิดให้บริการทกวันในเวลา 11.30 น. ถึงเวลา 18.00 น. โดยเสียค่าเข้าคนละ 1,000 เยน เเละค่าเข้าพักค้างคืนอยู่ที่ 7,000 เยนต่อคนรวมอาหาร 2 มื้อเเละสามารถเข้าใช้งานออนเซนได้ฟรี

แผนที่ Manza Onsen

การเดินทางมายัง มังซะออนเซน นั้นจากโตเกียวสามารถใช้บริการของรถไฟ limited express train โดยให้มาลงที่สถานี Manza Kazawaguchi Station ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เเล้วให้โดยสารรถบัสต่อมาลงที่ Manza Onsen

สำหรับ การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของ “กุนมะ” ของประเทศญี่ปุ่น ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ว่าแต่จะมีสถานที่ใดอีก ก็อย่าพลาดติดตามเราใน Part2 และที่สำคัญถ้าไม่อยากพลาดเรื่องราวที่เกี่ยวกับที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก อื่น ๆ ก็อย่าลืมกดติดตามเราได้ที่ >> ติดตามเราบน Facebook <<

โพสต์นี้มีประโยชน์มากน้อยเพียงใด?

กดที่ดาวเพื่อให้คะแนน 🔻

คะแนนเฉลี่ย / 5. จำนวนโหวต:

คุณเป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้?

ขออภัย! หากหัวข้อนี้ไม่ถูกใจคุณ

ช่วยบอกเราได้ไหมว่ามีส่วนไหนที่ต้องแก้ไข

แสดงความคิดเห็น

Klook.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า