“อะบาชิริ Abashiri” เยือนสวนดอกไม้ฮานะเท็นโท ชมฝูงหงส์ทะเลสาบโทฟุสึ เดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์เรือนจำอะบาชิริ

“อะบาชิริ Abashiri” เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะฮอกไกโด นับว่าเป็นเมืองที่มีความน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะการรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์รวมไปถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาวท้องถิ่นของฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังมีบรรยากาศและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอีกมากมายของเมืองแห่งนี้ ทั้งนี้ทาง CheckInChill ของเรา จะมีสถานที่ใดมาแนะนำ สามารถติดตามได้ด้านล่างเลยครับ ^^

Hokkaido Museum of Northern Peoples

Hokkaido Museum of Northern Peoples เป็นสถานที่ท่องซึ่งจัดเเสดงเรื่องราวของวิถีชีวิตเเละวัฒนธรรมของชาวเหนือที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยทางเหนือของเกาะฮอกไกโดมาตั้งเเต่เมื่อครั้งอดีตเเล้ว ซึ่งก็คือชาวไอนุนั่นเอง เเละยังมีการย้ายถิ่นฐานของบรรดาชาวเหนืออีกหลายเผ่าทั้ง ชาวไซบีเรีย ชาวซามิ เเละชาวเอสกิโม ที่มาจากทางตอนเหนือของเเคนาดา ทำให้เกิดการหลอมรวมวัฒนธรรมจนกลายเป็นอีกหนึ่งในเอกลักษณ์ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

พิพิธภัณฑ์ชาวเหนือของฮอกไกโด นั้นมีความโดดเด่นเป็นอย่างมากตั้งเเต่ทางเข้าสู่ตัวพิพิธภัณฑ์ที่มีอาคารกระจกเเบบ 6 เหลี่ยมที่มีความสวยเเละมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเปิดให้ชมครั้งเเรกตั้งเเต่ปี ค.ศ.1993 ซึ่งภายในนั้นจัดเเสดงเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเหนือ โดยมีมีทั้งเสื้อผ้าที่เป็นของจริงซึ่งมีการบริจาคเข้ามาเพื่อจัดเเสดง รวมไปถึงการจำลองอาหารการกินของพวกเขาในอดีต เเละวิธีการในการคมนาคมสมัยก่อน รวมทั้งมีการจำลองกระโจมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพวกเขาในอดีตอีกด้วย

นอกจากนี้เเล้วใน Hokkaido Museum of Northern Peoples ยังมีส่วนในการจัดเเสดงเรื่องราวของพิธีกรรมความเชื่อทางวิญญาณของชาวเหนือเหล่านี้ โดยมีทั้งส่วนของการจำลองเเละมีภาพเคลื่อนไหวเเละภาพถ่ายจำนวนมาก ที่มีความน่าสนใจ รวมทั้งมีมุมที่ใช้สำหรับการจัดแสดงวัฒนธรรมของชาวโอค็อตสค์ตั้งอยู่ให้นักท่องเที่ยวเเละผู้สนใจได้เข้าชมกันอีกด้วย

โดยที่นี่จะเปิดเวลา 9.00 น. ถึง 17.00 ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ส่วนในเดือนตุลาคมถึงเดือนมิถุนายน นั้นจะเปิดในเวลา 9.30 น. จนถึงเวลา 16.30 น. โดยจะปิดทุกวันจันทร์ เเละต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 550 เยน

แผนที่ Hokkaido Museum of Northern Peoples

ส่วนการเดินทางมายัง พิพิธภัณฑ์ชาวเหนือของฮอกไกโด นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสจากสถานี Abashiri Bus Terminal มาลงที่ป้าย Hoppo Minzoku Hakubutsukan-mae bus stop โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาที เเละจะมีรถบัสออกทุกๆ 1 ชั่วโมง โดยตัวพิพิธภัณฑ์นั้นตั้งอยู่ใกล้กับป้ายรถบัสเป็นอย่างยิ่ง รับรองว่าหาไม่ยากเลย

Hana Tento Flower Gardens

Hana Tento Flower Gardens นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจเเละสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยเป็นสวนดอกไม้ที่มีขนาดที่กว้างขวางกว่า 3.5 เฮกเตอร์ เเละกลายมาเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่งในการเดินทางมาเที่ยวเมืองอะบาชิริแห่งนี้

สวนดอกไม้ฮานะเท็นโท นั้นมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยมีหอคอยที่ตั้งอยู่บนเนินซึ่งไว้ใช้สำหรับในการชมความสวยงามของทุ่งดอกไม้เเห่งนี้ เเละบนด้านบนนั้นนักท่องเที่ยวสามารถชมความงดงามของ ทะเลสาบอะบาชิริ และทะเลโอคอทสก์ ได้อย่างชัดเจนเเละสวยงามเป็นอย่างยิ่ง นอกจากทุ่งดอกไม้ที่มีความสวยงามด้วยดอกไม้หลากหลายสีสันที่มีความสวยงามอีกด้วย เเละที่บริเวณชั้นที่ 2 ของหอคอยนั้นก็จะเต็มไปด้วยส่วนบริการเเก่นักท่องเที่ยวทั้งในส่วนของร้านคาเฟ่ หรือจะเป็นเบเกอรี่ เเละมีร้านขายของที่ระลึกที่มีสินค้าที่น่าเลือกซื้อเลือกหาไปเป็นของฝากเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหอคอยแห่งนี้นับว่าเป็นอีกจุดไฮไลท์ที่สวยงามและน่ามาชมความงดงามของดอกไม้นานพันธุ์เป็นอย่างยิ่ง

แผนที่ Hokkaido Museum of Northern Peoples

สำหรับการเดินทางมายัง สวนดอกไม้ฮานะเท็นโท นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสสาย Kankoshisetsumeguri จากสถานี Abashiri Bus Terminal ให้มาลงที่ป้าย Hana Tento Kaijo โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 21 นาที โดยรถบัสจะมีบริการ 6 เที่ยวต่อวันทั้งขาไปและกลับ

Okhotsk Ryuhyo Museum

Okhotsk Ryuhyo Museum นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นสถานที่ซึ่งเเสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนตัวของธารน้ำเเข็งจากขั้วโลกเหนือที่อยู่ในทะเลโอคอทสก์ มาถึงฮอกไกโด ผ่านเทคโนโลยีในการจัดเเสดงที่มีความหลากหลายเป็นอย่างยิ่ง จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งใสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

การจัดเเสดงใน พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งขั้วโลก นั้นเป็นการจัดเเสดงในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า -15 องศาเซลเซียส โดยจะเป็นการจำลองการเกินธารน้ำเเข็งที่ไหลผ่านทะเลโอคอทสก์ ที่มีความเหมือนจริงเเละน่าสนใจ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่เข้าชมเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้เเล้วยังมีการจัดเเสดงเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้น้ำเเข็งที่มีทั้ง ปลาที่มีรูปร่างเเปลกประหลาดเเละหาชมได้ยาก หรือจะเป็นในส่วนของหอยตระกูลต่างๆ ที่มีลำตัวใสอย่างมาก เเละว่ายน้ำด้วยครีบที่มีขนาดเล็กซึ่งอยู่ที่ข้างลำตัวทั้งสองข้างอีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งในจุดเด่นที่น่าสนใจเเละน่ามาชมเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนในบริเวณชั้น 2 ของ Okhotsk Ryuhyo Museum นั้นก็มีความน่าสนใจไม่เเพ้กัน โดยจะมีในส่วนการฉายภาพเคลื่อนไหวของเรือตัดน้ำเเข็งที่เเสดงถึงการทำงานได้อย่างชัดเจน เเละในส่วนของหอคอยเท็นโทนั้นก็นับว่าเป็นอีกจุดที่น่าสนใจเพราะคุณสามารถชมวิวความสวยงามของเมืองอะบาชิริ รวมไปถึงทะเลสาบอะบาชิริ เเละภูเขาเท็นโท ได้เเบบ 360 องศาเลยทีเดียว เเถมยังสามารถชมความสวยงามของทะเลโอคอทสก์ได้อีกด้วย โดยสถานที่เเห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งเเต่เวลา 8.00 น. ถึง 18.00 น. ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม เเละในเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม เปิดในเวลา 9.00 จนถึง 16:30 น. โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 520 เยน

แผนที่ Okhotsk Ryuhyo Museum

ส่วนการเดินทางมายัง พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งขั้วโลก นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสสาย Kankoshisetsumeguri จากสถานี Abashiri Bus Terminal มาลงที่ป้าย Ice drift Museum โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 17 นาที เเละมีรถบัสให้บริการวันละ 6 เที่ยว โดยออกจากสถานี Abashiri Bus Terminal ตั้งเเต่ 9.25 น. ถึง 15.55 น. เเละกลับจากพิพิธภัณฑ์ในเวลา 10.26 น. ถึง 16.56 น.

Lake Tofutsu

Lake Tofutsu นั้นมีอีกชื่อที่นิยมเรียกกันในหมู่ชาวญี่ปุ่นว่า ทะเลสาบหงส์ เพราะว่าในช่วงของฤดูหนาวประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนเมษายนนั้น น้ำในทะเลสาบเเห่งนี้จะเเข็งจนกลายเป็นน้ำเเข็ง

เเละมีฝูงหงส์ที่บินอพยพมาจากไซบีเรียมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้กลายเป็นภาพที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เเละเป็นช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจในการมาเที่ยวชมกันเป็นอย่างมาก

ในส่วนของฤดูกาลปกตินั้น ทะเลสาบโทฟุสึ ก็ยังคงความสวยงามเเละมีความเป็นธรรมชาติสูงเป็นอย่างมาก โดยเป็นเเหล่งอาศัยที่สำคัญของบรรดานกน้ำเเละนกชายเลนหลากหลายสายพันธุ์ เเต่ที่มีจำนวนมากที่สุดจะเป็น นกเป็ดน้ำ ซึ่งสร้างความโดดเด่นให้กับทะเลสาบเเห่ง เเละมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยนิยมมาชมนกเป็ดน้ำที่นี่อีกด้วย เเถมบรรยากาศเเละวิวทิวทัศน์โดยรอบของทะเลสาบก็มีความงดงามเเละน่ามาใช้เวลาพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

แผนที่ Lake Tofutsu

ส่วนการเดินทางมายัง ทะเลสาบโทฟุสึ นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสสาย Koshimizu-Shari Route จากสถานี Abashiri Bus Terminal โดยให้คุณมาลงที่ป้าย Hakucho Park Entrance จากนั้นก็เดินต่ออีกเพียงเเค่ 5 นาทีก็จะถึงทะเลสาบเเห่งนี้เเล้ว

Koshimizu Natural Flower Garden

Koshimizu Natural Flower Garden นั้นเป็นทุ่งดอกไม้ผ่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตั้งอยู่บนเนินทรายที่มีขนาดไม่ได้สูงมากนักบนถนนสาย 244 ซึ่งมีความยาวกว่า 8 กิโลเมตรขนานไปกับถนนเส้นนี้ทำให้เป็นภาพที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก เมื่อมีผู้คนมาใช้งานถนนเส้นนี้ โดยในเเต่ละฤดูนั้นก็จะมีความสวยงามของดอกไม้เหล่านี้ที่เเตกต่างกันไป จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

โดยในช่วงฤดูร้อนของ ทุ่งดอกไม้ป่าโคชิมิสุ นั้นจะเต็มไปด้วยความสวยงามของดอกลิลลี่ป่าที่มีสีเหลืองและสีส้ม ที่ผลิดอกสลับกันไปเป็นภาพที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมนั้นก็จะมีเเต่ดอกไอริสสีม่วง ที่มีความสวยงามเเละดอกกุหลาบญี่ปุ่น พร้อมกับดอกไม้ชนิดอื่นๆ อีกมากกว่า 40 สายพันธุ์ที่มีความสวยงามเเละมีสีสันที่หลากหลายสร้างความสวยงามเเละเป็นเหมือนการเเต่งเเต้มความสวยงามให้กับทุ่งดอกไม้เเห่งนี้ เเละนักท่องเที่ยวยังสามารถชมความสวยงามของวิทิวทัศน์ของโอคอสทก์ที่มีความสวยงามได้อีกด้วย

Koshimizu Natural Flower Garden นั้นมีทั้งจุดชมวิวที่มีหลายจุดที่สามารถมาถ่ายภาพเเละชมความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ได้ เเละมีทั้งในส่วนของร้านอาหารเเละร้านขายของที่ระลึกตั้งอยู่เพื่อเอาไว้บริการเเห่งนักท่องเที่ยวที่มานั่งชมความสวยงามของดอกไม้ เเล้วก็ลองชิมอาหารเลิศรสมากมายหลากหลายเมนู โดยส่วนเเห่งนี้จะเปิดให้เข้าชมในช่วงของพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน ในเวลา 8.30 น. จนถึงเวลา 17.00 น. ส่วนในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน นั้นอยู่ที่ช่วงเวลา 9.00 น. จนถึงเวลา 17:00 น.

แผนที่ Koshimizu Natural Flower Garden

ส่วนการเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของบรรดาดอกไม้ป่าเหล่านี้ที่ ทุ่งดอกไม้ป่าโคชิมิสุ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟเจอาร์ โดยให้คุณมาลงที่สถานีรถไฟ JR Genseikaen เเล้วเดินออกมาก็จะพบกับทุ่งดอกไม้ที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีเเละหันหน้าออกไปทางทะเลซึ่งมีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมอีกเเห่ง

Oronkoiwa Rock

Oronkoiwa Rock เเล้วเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองอูโทโร่ ที่มีความโดเด่นเเละเป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยตั้งอยู่ใกล้ท่าเรืออูโทโร่ ซึ่งทำให้มีความสวยงามเป็นอย่างมากเลยที่เดียว เเละในปัจจุบันเมื่อกระเเสของการท่องเที่ยวเปิดกว้างมากขึ้นก็ทำสถานที่ท่องเที่ยวเเห่งนี้ได้รับการยอมรับเเละเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย

เขาโอรอนโคอิวะ นั้นมีความสูงจากพื้นดินประมาณ 60 เมตร โดยที่ด้านล่างได้มีการเจาะเป็นอุโมงค์ เเละมีบันไดตั้งอยู่ที่ด้านข้าง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถใช้เส้นทางนี้เพื่อขึ้นไปชมความสวยงามงามของวิวทิวทัศน์ที่ด้านบนได้เเบบ 360 องศาเลยทีเดียว

โดยสามารถมองเห็นวิวของเมืองอูโทโร่ เเละทะเลโอคอทสก์ ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งยังสามารถชมความงดงามของ เทือกเขาชิเรโตโกะ ทำให้สามารถชมความสวยงามของเมืองเเห่งได้เเบบ 360 องศาเลยทีเดียว เละเป็นจุดที่เหมาะกับการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นเเละตกเป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะมีความสวยงามมากอีกเเห่งของโลก

นอกจากนี้เเล้วบรรยากาศรอบๆ Oronkoiwa Rock ก็นับว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่ตั้งของ สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับหลายๆ คนในการมาเยือน โดยเปิดให้เข้าชมฟรีทุกวันตั้งแต่ช่วงเช้าจนค่ำ ทำให้มีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมเมืองเเห่งนี้ถือโอกาสมาชมความสวนงามของเมืองในมุมมองที่มีความเเตกต่างกันออกไป โดยเป็นจุดที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนหลายต่อหลายคนเลยก็ว่าได้

แผนที่ Oronkoiwa Rock

โดยการเดินทางมายัง เขาโอรอนโคอิวะ นั้นให้คุณมาลงรถบัสที่ป้าย Bus Terminal ซึ่งเป็นป้ายใหญ่จากนั้นก็เดินต่อไปอีกประมาณ 650 เมตร ก็จะถึงอาคารที่ไว้สำหรับจำหน่ายตั๋วเรือ Aurora อยู่ทางด้านซ้ายมือ ก็ให้คุณเดินเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 100 เมตรก็จะถึงบันไดทางขึ้นเเล้ว ถือว่าหากไม่ยากเลย เเละเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

Shiretoko Nature Center

Shiretoko Nature Center เเล้วนับว่าเป็นศูนย์ในการให้บริการนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวยังอุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยจะเป็นการให้ข้อมูลมากมายที่มีความสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยว เเละการเดินทาง รวมทั้งมีความช่วยเหลือต่างๆ มากมายที่จะมอบให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ภายใน ศูนย์ธรรมชาติชิเรโตโกะ นั้นมีการจัดเเสดงเรื่องราวของอุทยานอย่างครบครัน ทั้งจุดสำคัญๆ ในการมาเที่ยวชมไม่ว่าจะเป็นในส่วนของธรรมชาติ เเละยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดเเสดงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับหมีสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสัตว์เอกลักษณ์ของภูมิภาคฮอกไกโดอีกด้วย

รวมทั้งมีข้อมูลมากมายที่จำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยว นักปีนเขาที่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเส้นทางในการเดินป่าต่างๆ ที่มีอยู่อย่างมากมายหลายเส้นทาง พร้อมกับเส้นทางในการเดินชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญอย่างน้ำตกฟูเรเป้ เเละยังมีส่วนบริการนักท่องเที่ยวทั้งในส่วนของห้องน้ำ หรือจะเป็นร้านอาหารมากมายที่มีไว้บริการเเก่นักท่องเที่ยวที่มาพักรถอีกด้วย เเละมีจำหน่ายของที่ระลึกที่น่าซื้อไปเป็นของฝากอีกด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในจุดที่มีความสำคัญเเละน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

แผนที่ Shiretoko Nature Center

ส่วนการเดินทางมายัง ศูนย์ธรรมชาติชิเรโตโกะ นั้นหากมาจากเมืองอูโทโร่ ก็ให้ใช้เส้นทางเลียบทะเลประมาณ 5 กิโลเมตรก็จะถึงเเล้ว เเต่หากมาจากเมืองชาริ ก็สามารถใช้บริการของรถบัส ซึ่งจะมี 3 เที่ยวต่อวัน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 70 นาที ค่าโดยสาร 1,770 เยนต่อคน ก็จะมาถึงเช่นเดียวกัน

Abashiri Drift Ice

Abashiri Drift Ice ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลโอค็อตสค์ โดยเป็นพื้นที่ทางด้านทิศใต้ของขั้วโลกเหนือที่มีเเผ่นน้ำเเข็งลอยมาอยู่เหนือระดับน้ำทะเลเป็นประจำ ทำให้เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของเมืองอะบาชิริ โดยในเเต่ละปีนั้นจะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจในการเดินทางมาเที่ยวชมธารน้ำเเข็งที่ไหลผ่านบริเวณเมืองนี้กันอย่างมากมายเลยทีเดียว

สำหรับ ธารน้ำแข็งอะบาชิริ นั้นจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม ถึงปลายกุมภาพันธ์ โดยมีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชม ซึ่งสามารถชมได้ทั้งจากฝั่งเเผ่นดินใหญ่บริเวณชายฝั่งทะเลโอค็อตสค์ เเละจากเมืองเหนือสุดอย่างวักกะไน ตลอดไปจนถึงคาบสมุทรชิเระโตโกะ โดยช่วงที่ผ่านอะบาชิรินั้นเเผ่นน้ำเเข็งจะมีความหนาเป็นอย่างมาก เเต่ในปัจจุบันนั้นมีความหน้าที่ลดลงเป็นอย่างมากจากภาวะโลกร้อน ซึ่งมีหลายจุดที่เหมาะสำหรับการมาชมธารน้ำเเข็งเหล่านี้ ซึ่งเป็นภาพที่มีความสวยงามเเละสร้างความตื่นตาตื่นใจได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ส่วนอีกวิธีในการชมความสวยงามของ Abashiri Drift Ice นั้นก็คือการล่องเรือจากท่าเรืออะบาชิริไปยังทะเลโอค็อตสค์ เพื่อชมความสวยงามของเเผ่นน้ำเเข็งเหล่านี้อย่างใกล้ชิด โดยในเเต่ละรอบของการล่องเรือนั้นจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เเละเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละ 3,300 เยนต่อคน โดยต้องจองตั๋วผ่านทางเว็บไซต์ เเละอีกวิธีหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมกันอย่างมากก็คือการนั่งรถไฟสาย Ryuhyo Norokko train จากอะบาชิริ ไปยัง สถานีซิโระโทโกะ-ซาริ ซึ่งจะผ่านช่วงที่ธารน้ำเเข็งไหลผ่านอีกด้วย เเละบริเวณของภูเขาเท็นโท ก็เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ธารน้ำแข็งทะเลโอค็อตสค์ ที่จัดเเสดงเกี่ยวกับสัตว์ขนาดเล็กที่อาศัยในน้ำแข็ง นับว่าเป็นอีกจุดที่น่ามาเที่ยวชม

แผนที่ Abashiri Drift Ice

ส่วนการเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของ ธารน้ำแข็งอะบาชิริ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟจากสถานี Abashiri Station โดยมาลงที่สถานี Ryuhyo-saihyosen-noriba โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 นาทีเเละเสียค่าโดยสาร 200 เยน หลังจากนั้นก็ให้คุณเดินต่อไปยัง Aurora boat termimal ซึ่งอยู่ไม่ไกลมานัก เพื่อลงเรือไปชมความสวยงามของธารน้ำเเข็ง

Abashiri Prison Museum

Abashiri Prison Museum นั้นตั้งอยู่บริเวณเชิงภูเขาเท็นโทเป็นเรือนจำที่มีประวัติศาสตร์เเละมีเรื่องราวให้เล่าขานอย่างมากมาย โดยมันสร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1890 เพื่อเป็นที่กักขังอาชญากรทางการเมืองที่มีความอันตรายในสมัยช่วงปฏิรูปเมจิกเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน เพราะสถานที่ตั้งซึ่งอยู่ห่างไกลเเละหนาวเย็นก็จะทำให้เหล่าอาชญากรเกิดความอ่อนล้าทั้งกายเเละใจหากคิดจะหลบหนีออกจากที่นี่ ก่อนที่มันจะถูกปล่อยทิ้งร้างในเวลาต่อมาก เเละกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งในปี ค.ศ.1960 จากการเป็นฉากในภาพยนตร์ดังระดับประเทศที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับเหล่ายากูซ่า

พิพิธภัณฑ์เรือนจำอะบาชิริ เปิดตัวให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมกันอีกครั้งในปี ค.ศ.1985 โดยมีการจัดเเสดงที่มีความน่าสนใจหลายอย่าง โดยมีการเเสดงให้เห็นถึงชีวิตประจำวันของนักโทษที่ต้องเข้าใช้ชีวิตอยู่ในนี้ ทั้งในส่วนของ ห้องอาบน้ำ ที่มีบรรยากาศน่ากลัว หรือจะเป็นห้องลงโทษต่างๆ เเละมีศาล รวมทั้งมีการจัดเเสดงเรื่องราวต่างๆ มากมายกระจายอยู่ตามอาคารต่างๆ กว่า 12 หลังอีกด้วย ซึ่งเเต่ละหลังนั้นก็ทำหน้าที่ในการกักกันนักโทษ เเละมีเรื่องเล่าขานที่เเตกต่างกันออกไป

บรรยากาศโดยรอบของ Abashiri Prison Museum นั้นมีเงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง เเละในฤดูหนาวนั้นที่นี่ให้ความรู้สึกเวิ้งว้างเป็นอย่างยิ่ง เเต่ก็เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจเเละน่ามาเที่ยวอีกเเห่งของเมืองอะบาชิริ โดยที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมทุกวัน ตั้งเเต่เวลา 8.00 น. จนถึงเวลา 18.00 น. ในเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม เเละเวลา 9.00 น. ถึง 17.00 น. ในเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 1,080 เยน เเต่หากใช้คูปองส่วนลดก็จะเหลือเพียงเเค่ 970 เยน

แผนที่ Abashiri Prison Museum

โดยการเดินทางมายัง พิพิธภัณฑ์เรือนจำอะบาชิริ นั้นสามารถใช้บริการของรถบัสจากสถานีขนส่งรถบัส Abashiri Bus Terminal โดยให้มาลงที่ป้าย Hakubutsukan Abashiri Kangoku bus stop ซึ่งรถบัสจะออกทุกๆ 1 ชั่วโมง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 นาที เเละเสียค่าโดยสารอยู่ที่ 240 เยน โดยตัวพิพิธภัณฑ์นั้นตั้งอยู่ใกล้กับป้ายรถบัสเป็นอย่างมาก ไม่ต้องกลัวหลงเเต่อย่างใด

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ “อะบาชิริ Abashiri” ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของฮอกไกโด ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามทางธรรมชาติ อีกทั้งยังมีแหล่งจัดแสดงวิธีชีวิตของชาวเหนือที่อาศัยอยู่บนเกาะฮอกไกโด และอื่นๆ อีกมากมาย มีที่ไหนถูกใจกันบ้างไหมครับ และที่สำคัญถ้าไม่อยากพลาดเรื่องราวที่เกี่ยวกับที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก อื่น ๆ ก็อย่าลืมกดติดตามเรา “CheckInChill” ได้ที่ >> ติดตามเราบน Facebook <<

โพสต์นี้มีประโยชน์มากน้อยเพียงใด?

กดที่ดาวเพื่อให้คะแนน 🔻

คะแนนเฉลี่ย / 5. จำนวนโหวต:

คุณเป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้?

ขออภัย! หากหัวข้อนี้ไม่ถูกใจคุณ

ช่วยบอกเราได้ไหมว่ามีส่วนไหนที่ต้องแก้ไข

แสดงความคิดเห็น

Klook.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า