เที่ยวญี่ปุ่นกับ “10 สถานที่เช็คอินในโอซาก้า”

ญี่ปุ่นนั้นเป็นดินเเดนที่น่ามาท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีความสวยงามเเละน่าค้นหา ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมากมายที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ยิ่งในภูมิภาคที่เรียกว่าคันไซเเล้ว มีหลายเมืองใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมกัน เเละเมืองใหญ่ในภูมิภาคเเห่งนี้ที่เป็นเเม่เหล็กในการเข้ามาเที่ยวของนักท่องเที่ยวคงจะหนีไม่พ้นโอซาก้า เเละนี่คือ 10 สถานที่เช็คอินในโอซาก้า ที่ใครมาเที่ยวเเล้วจะต้องไม่พลาดมาเที่ยวให้ได้

ปราสาทโอซาก้า

ปราสาทโอซาก้า

ปราสาทโอซาก้า นั้นตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองโอซาก้า นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโอซาก้าเลยก็ว่าได้ เเถมยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาชมดอกซากุระบานในช่วงเดือนเมษายนอีกด้วย โดยปราสาทเเห่งนี้สร้างขึ้นมาในช่วงปลายของยุคเซนโกกุที่ว่ากันว่านองเลือดมากที่สุดในญี่ปุ่น โดย โทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ เเต่ก็ถูกทำลายลงในเวลาต่อมา เเละหลังจากนั้นก็ถูกบูรณะเเละสร้างขึ้นใหม่โดยตระกูลโตกุกาว่าที่ครอบครองปราสาทเเห่งนี้มาโดยตลอดยุคเอโดะ โดยส่วนสำคัญของปราสาทที่สวยงามนั้นก็คือชูคาคุที่ประดับอย่างสวยงาม ก่อนที่ในปี ค.ศ.1931 จะมีการเรี่ยไรเงินของชาวเมืองโอซาก้ามาบูรณะขึ้นมาใหม่อย่างสวยงาม โดยจุดเด่นของมันอยู่ที่รูปปั้นปลาโลมาสีทองจำนวน 8 ตัวที่ประดับอยู่ เเละมีรูปเเกะสลักนูนต่ำเป็นรูปเสือที่เเคลบด้วยสีทอง สวยงามอย่างมาก โดยปราสาทเเห่งนี้นั้นมีจำนวน 8 ชั้น เเละเเบ่งออกเป็น 5 ส่วน ภายนอกภาพที่สะดุดตาอย่างมากของกำเเพงหินของปราสาทที่สูงกว่า 30 เมตร โดยปราสาทเเห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันตั้งเเต่เวลา 9.00 น. จนถึง 17.00 น. โดยต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 600 เยน เเละน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเข้าชมความสวยงามของปราสาท โดยการเดินทางนั้นสามารถใช้บริการของรถไฟสาย JR Osaka Loop Line ที่วนขวา เเล้วมาลงที่สถานี Osakajo Koen หรือจะใช้บริการของรถไฟใต้ดินสาย Chuo เเล้วมาลงที่สถานี Tanimachi-4-chome ก็จะถึงเเล้ว

ย่านโดทงโบริ

ย่านโดทงโบริ

ย่านโดทงโบริ คือเเลนด์มาร์คอีกเเห่งของโอซาก้าที่ใครมาเเล้วต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมเเละมาช็อปปิ้งกันอย่างสนุกสนาน โดยมันเป็นถนนสายเล็กๆ ที่เลียบไปกับคลองโดทงโบริ โดยมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร โดยสองข้างนั้นจะเต็มไปด้วยร้านรวงมากมายที่มีทั้งเเบรนด์เนมชื่อดังของญี่ปุ่นเองเเละเเบรนด์ต่างชาติ รวมทั้งร้านค้าของคนท้องถิ่นสลับกันไป สร้างสีสันให้กับเหล่าบรรดานักช็อปปิ้งอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนั้นในช่วงเวลาค่ำคืนที่นี่จะมีสีสันจากป้ายไฟต่างๆ ที่เปิดกันสร้างความคึกคักอย่างมาก เเถมยังมีร้านดื่มกินจำนวนมากมายหลายร้านที่น่ามาสัมผัสกับบรรยากาศเเบบญี่ปุ่นเเท้ๆ เเละไฮไลท์นั้นจะอยู่ที่บริเวณสะพานเอบิซุ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ป้ายไฟกูลิโกะ ที่เป็นดั่งเเลนด์มาร์คของโอซาก้าไปเเล้ว เเละมีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างมากมายในเเต่ละวัน โดยการเดินทางมายังย่านนี้นั้นนับว่าสะดวกอย่างมาก เพราะคุณสามารถใช้บริการของรถไฟใต้ดินของโอซาก้าไม่ว่าจะสายไหน ให้คุณมาลงที่สถานี Namba เเล้วให้ออกทางออกที่ 14 จากนั้นเดินต่ออีกเพียงเเค่ 5 นาที ก็จะถึงย่านเเห่งนี้เเล้ว

ย่านชินไซบาชิซุจิ

ย่านชินไซบาชิซุจิ
ย่านชินไซบาชิซุจิ นั้นตั้งอยู่ใจกลางของเมืองโอซาก้า ถือว่าเป็นเเหล่งช็อปปิ้งที่สำคัญของโอซาก้า โดยหากจะเปรียบกันเเล้วมันก็คล้ายๆกับฮาราจูกุในโตเกียวนั่นเอง โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินต่อมาจากย่านโดทงโบริ โดยจะมีความยาวประมาณ 600 เมตร เเละมีหลังคาคลุมตลอด สองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยร้านรวงที่ขายสินค้ามากมาย โดยส่วนใหญ่เเล้วจะเป็นร้านขายเสื้อผ้าเเฟชั่น โดยจะเป็นเเนววัยรุ่นเสียส่วนใหญ่ รวมทั้งร้านเเบรนด์ของญี่ปุ่นมากมายหลายร้าน โดยเสน่ห์ของที่นี่ก็คือการมีเทศกาลลดลราคาสินค้าอยู่บ่อยครั้ง จนเป็นเเหล่งช็อปปิ้งที่คุณจะสามารถมาซื้อสินค้าดีราคาถูกได้ นอกจากนี้เเล้วยังมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ทั้ง ห้าง Daimaru เเละห้าง Sogo โดยร้านค้าในย่านนี้จะเปิดทุกวันในเวลา 10.00 นง จนถึง 20.00 น. โดยคุณสามารถใช้บริการของรถไฟใต้ดินมายังย่านนี้ได้เลย โดยให้คุณมาลงที่สถานีรถไฟใต้ดิน Shinsaibashi จากนั้นเลือกทางออกที่ 5 หรือ 6 หรือ 10 ก็ได้ เเล้วเดินต่ออีกเพียงเเค่ 3 นาทีก็จะถึงเเล้ว

ย่านริมอ่าวโอซาก้า

ย่านริมอ่าวโอซาก้า

ย่านริมอ่าวโอซาก้า นั้นตั้งอยู่ที่บริเวณริมอ่าวโอซาก้า โดยมันเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่สร้างโดยฝีมือของมนุษย์ โดยมีเเหล่งท่องเที่ยวมากมายในบริเวณเเห่งนี้ ทั้งหมู่บ้านเท็มโพซานฮาร์บอร์ หรือจะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า รวมทั้ง Osaka Aquarium ที่มีปลามากมายถึง 15 ตู้เลยด้วยกัน เเละมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีกกับ ชิงช้าสวรรค์เท็มโพซาน ที่มีความสูงกว่า 112.5 เมตร โดยสามารถให้คุณเห็นวิวของเมืองโอซาก้าได้เเบบ 360 องศาเลยทีเดียว นอกจากนี้เเล้วในส่วนของภูเขาเท็มโพซาน ก็มีสวนสาธารณะที่สามารถมานั่งเล่นได้อย่างชิลๆ นอกจากนี้เเล้วก็ยังมีทั้งโซนเกาะซากิชิมะ และคอสโมสแควร์ ที่เป็นคอสโมทาวเวอร์ หรือเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ รวมทั้งศูนย์การค้าเอเซียแปซิฟิค โดยคุณสามารถใช้บริการของรถไฟใต้ดินสาย Chuo Subway Line โดยให้มาลงที่สถานี Cosmosquare Station ซึ่งอยู่บนเกาะซากิชิมะ จากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้รถรางที่วิ่งภายในบริเวณเเห่งนี้ได้เลย

จุดชมวิวอาเบะโนะ ฮารุกัส

จุดชมวิวอาเบะโนะ ฮารุกัส

จุดชมวิวอาเบะโนะ ฮารุกัส นั้นตั้งอยู่ใจกลางโอซาก้า โดยตั้งอยู่บนชั้นที่ 58 ถึง 60 ของ Harukasu 300 โดยบนชั้นที่ 60 นั้นคุณสามารถเห็นความงดงามของตัวเมืองโอซาก้าในเเบบ 360 องศา ที่สวยงามอย่างมาก โดยบนนั้นจะมีทั้งร้านขายของที่ระลึก เเละคาเฟ่ ที่มีวิวสวยงามงานน่ามานั่งอย่างมากเลยทีเดียว โดยที่นี่นั้นจะเปิดให้นักท่องเที่ยวให้เข้าชมทุกวันในเวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. โดยต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 1,500 เยน โดยบริเวณใกล้เคียงกันนั้นจะเป็นที่ตั้งของ ห้างสรรพสินค้าอาเบะโนะ ฮารุกัส คินเทซุ ที่เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย โดยคุณสามารถใช้บริการของรถไฟ เจอาร์มาจากสถานี JR Osaka Station โดยให้มาลงที่สถานี Tennoji Station เพียงเท่านี้ก็จะถึงเเล้ว

ย่านชินเซไก

ย่านชินเซไก
ย่านชินเซไก นั้นเป็นอีกย่านในโอซาก้าที่น่ามาเที่ยวอย่างมาก เพราะมันเป็นย่านที่เพิ่งจะสร้างขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ.1903 เนื่องจากบริเวณนี้นั้นถูกใช้เป็นสถานที่จัดงาน National Industrial Exposition ซึ่งมีคนเข้ามาชมงานอย่างมากมาย โดยมีจุดเด่นเเละบรรยากาศที่น่าสนใจเหมือนกับปารีส ในฝรั่งเศส ทั้งการมี หอคอยสึเทนคาคุ ที่โดดเด่นอย่างมาก เเละมีการวางผังย่านนี้คล้ายกับเกาะโคนี่ย์ในนิวยอร์ค โดยนักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาเดินเที่ยวชิลๆ พร้อมกับเเวะมาชิมเมนูเด็ดอย่าง คุชิคาสึ ซึ่งจะเป็นของทอดเสียบไม้ โดยมีทั้ง เนื้อวัว, ไก่ หน่อไม้ เเละฟักทอง รวมทั้งขนมเเละของหวานขึ้นชื่ออย่างมากอย่าง กล้วยทอด เเละบรรดาไอศกรีมทอด โดยร้านค้าในย่านนี้จะเปิดกันเเบบ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยคุณสามารถใช้บริการของรถไฟ JR Loop Line โดยมาลงที่สถานี Shin-Imamiya Station จากนั้นก็เดินต่ออีก 5 นาทีก็จะถึงเเล้ว

ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอแจแปน

ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอแจแปน
ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอแจแปน นั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า โดยเป็นสวนสนุกเเบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา เปิดให้บริการครั้งเเรกในปี ค.ศ.2001 เเละได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวโอซาก้าเป็นอย่างมาก เพราะเครื่องเล่นต่างๆ ที่สนุกสนานเเละน่ามาเล่นอย่างมาก เเต่จุดไฮไลท์ของที่นี่นั่นก็คงจะหนีไม่พ้น Wizard World of harry potter ที่สาวกของ เเฮร์รี่ พอตเตอร์ ต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมทั้งฉากต่างๆ ที่เหมือนหลุดออกมาจากภาพยนตร์เเละปราสาทฮอกวอร์ตที่เหมือนจริงอย่างมาก พร้อมกับเครื่องเล่นต่างๆ มากมายที่รับรองความน่าสนใจเเละสนุกกันเลย โดยมีร้านอาหารที่มีเมนูเเบบในหนังเลยก็ว่าได้ทั้ง ขนมต่างๆ ในร้านฮอร์กมีต เเละ Butter Beer ในราคาเเก้วละ 600 เยน โดยที่นี่จะเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งเเต่เวลา 9.00 น. จนถึงเวชลา 20.00 โดยตั๋วต่อคนอยู่ที่ 5,800 เยน โดยการเดินทางมายังที่นี่นั้นสามารถใช้บริการของสาย JR Yumesaki Line ที่จอดรออยู่ที่สถานี เจอาร์ นิชิกูโจ โดยขบวนรถไฟจะมีการตกเเต่งด้วยตัวการ์ตูนของยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เเล้วให้คุณมาลงที่สถานี Universal City เลือกออกประตุทางด้านขวาก็จะเข้าสู่ทางเข้าของสวนสนุกเเห่งนี้เเล้ว

ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะ

ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะ

ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะ นั้นเป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่มีความเก่าเเก่มากที่สุดของญี่ปุ่น โดยมันสร้างมาตั้งเเต่สมัยศตวรรตที่ 3 ก่อนที่พุทธศาสนาจะเข้ามาเผยเเพร่ในญี่ปุ่นเสียเอง เเละสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าเเห่งนี้ก็มีความเเตกต่างจากศาลเจ้าที่อื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยเป็นสไตล์ในเเบบ สุมิโยชิ-ซึคุริ โดยมีลักษณะที่หลังคาจะลาดตรงไม่ได้มีลักษณะโค้งมนเเบบศาลเจ้าอื่นๆ ในญี่ปุ่น โดยจะมีรั้วล้อมรอบตัวศาลเจ้าเอาไว้อีกด้วย เเละมันจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นข้อที่แตกต่างจากศาลเจ้าอื่นๆ ในญี่ปุ่นที่จะหันหน้าไปทางทิศใต้ตามหลักฮวงจุ้ยของจีน โดยชาวญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาขอพรที่นี่กันอย่างมาก เเละรับรองว่าคุณอาจจะได้พบกับมิโกะ ซึ่งคือหญิงสาวบริสุทธิ์ที่เป็นผู้ดูเเลเเละทำพิธีกรรมต่างๆ ในศาลเจ้า โดยศาลเจ้าเเห่งนี้สามารถเข้าชมได้ฟรีทุกวันตั้งเเต่เวลา 6.00 น. จนถึงเวลา 17.00 น. โดยคุณสามารถใช้บริการของรถไฟ Nankai โดยมาลงที่สถานี Sumiyoshitaisha ก็จะถึงเเล้ว

วัดชิเทนโนจิ

วัดชิเทนโนจิ
วัดชิเทนโนจิ คือวัดในพุทธศาสนาที่มีความเก่าเเก่มากที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยมันสร้างมาตั้งเเต่ ค.ศ.593 โดยบัญชาของเจ้าชายโชโทคุ ผู้ซึ่งนำพุทธศาสนาเข้ามาสู่ญี่ปุ่น โดยรูปเเบบของวัดนั้นถูกสร้างมาในเเบบสถาปัตยกรรมของจีนอย่างครบถ้วน โดยอาคารของวัดนั้นจะรายล้อมไปด้วยระเบียงทางเดิน ซึ่งว่ากันว่านี่คือต้นเเบบของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นในเวลาต่อมา โดยความเก่าเเก่ของวัดเเห่งนี้ทำให้สภาเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ก่อนที่จะมีการบูรณะขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ.1963 โดยมีเจดีย์ 5 ชั้นที่สวยงามตามเเบบเจดีย์ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีร้านน้ำชาเเละร้านขนมมันจูที่จำหน่ายให้เเก่ผู้ที่เข้ามาชมความงดงามของวัดเเห่งนี้ เเละที่พลาดไม่ได้เลยคือในช่วงของเดือนเมษายนจะมีซากุระบานมากมายในบริเวณของวัด โดยคุณต้องเสียค่าเข้าชมทั้งหมด 1,100 เยน เเบ่งเป็น 300 เยนสำหรับวิหารชั้นใน เเละอีก 300 เยนสำหรับชมสวน Gokuraku-jodo เเละในส่วนของหอสมบัติ ต้องเสีย 500 เยน เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งเเต่เวลา 8.30 น. จนถึงเวลา 16.30 น. โดยคุณสามารถใช้บริการของรถไฟใต้ดินมาลงยังสถานี Shitennojimae Yuhigaoka เเล้วเลือกทางออกหมายเลข 4 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาทีก็จะถึงเเล้ว

ตึกอูเมดะสกาย

ตึกอูเมดะสกาย
ตึกอูเมดะสกาย นั้นเป็นอาคารที่มีรูปทรงทันสมัยอย่างมากของโอซาก้า มันตั้งอยู่ในย่านคิตะ เป็นอาคารสูงที่สุดในย่านเเห่งนี้ เเละมีความเเปลกตาด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่เเสนจะสวยงาม โดยมันมีเป็นที่รู้จักภายใต้ขื่อของ New Umeda City โดยเป็นตึกที่มีความสูงกว่า 173 เมตร เเละได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวในการมาชมความเเปลกตา เเละมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างมากมาย เเละด้วยความที่มันตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Osaka เเละสถานีรถไฟ Umeda ทำให้คุณสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกอย่างมาก เพราะจากทั้งสถานีใช้เวลาเพียงเเค่ 15 นาทีก็จะถึงอาคารเเห่งนี้เเล้ว

 

โพสต์นี้มีประโยชน์มากน้อยเพียงใด?

กดที่ดาวเพื่อให้คะแนน 🔻

คะแนนเฉลี่ย / 5. จำนวนโหวต:

คุณเป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้?

ขออภัย! หากหัวข้อนี้ไม่ถูกใจคุณ

ช่วยบอกเราได้ไหมว่ามีส่วนไหนที่ต้องแก้ไข

แสดงความคิดเห็น

Klook.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า