25 ที่เที่ยว ซัปโปโร อัปเดต 2024 เที่ยวสุดฟิน อินฮอกไกโด

ซัปโปโร (Sapporo) ศูนย์กลางความเจริญของกิ่งจังหวัดอิชิกะริ ในจังหวัดฮอกไกโด เป็นหนึ่งในเมืองใหม่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ เมืองซับโปโร ถูกพัฒนาตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากอเมริกา ทำให้เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานแบบอเมริกาเหนือ มีการสร้างระบบถนนแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า สังเกตได้จากสวนสาธารณะโอโดริ และยังมีสถาปัตยกรรมแบบอเมริกันถูกสร้างขึ้นหลายแห่ง อีกทั้งซัปโปโรยังเคยเป็นเมืองที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 1972 ในปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของเมืองแห่งการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางไปเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เรียกได้ว่ามาเมืองเดียวก็คุ้มแล้ว ทั้งชม ชิม ช็อป กระเป๋าตังค์ฉีกอย่างแน่นอน วันนี้  เช็คอินชิลล์ ขอแนะนำ 24 ที่เที่ยว ซัปโปโร 2022 เที่ยวสุดฟิน อินฮอกไกโด เอาไว้ให้เหล่านักเดินทางได้ลิสต์แพลนไว้เที่ยว เพราะญี่ปุ่นเค้าเปิดประเทศแล้ว จองตั๋วแล้วไปเยือนซัปโปโรกัน !

(สารบัญ) 25 ที่เที่ยว ซัปโปโร อัปเดต 2024 เที่ยวสุดฟิน อินฮอกไกโด ซ่อน

สถานีซัปโปโร

สถานีซัปโปโร โดย yu_photo / Shutterstock.com

เปิดด้วยสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ตั้งอยู่ในเขตคิตะ ถือว่าเป็นสถานีรถไฟที่มีความเก่าเเก่และเป็นอาคารหลังเเเรก ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองซัปโปโร เนื่องจากเป็นจุดที่รถไฟเชื่อมต่อมาจากเกาะใหญ่ฮอนชูสิ้นสุดที่นี่ในยุคนั้น เเละเป็นเส้นทางในการขนวัสดุก่อสร้างเมืองซัปโปโรต่าง ๆ มาที่นี่ โดยตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรในปัจจุบัน เเวดล้อมไปด้วยอาคารสูงมากมายเเละกลายเป็นเเหล่งช็อปปิ้งที่สำคัญในปัจจุบันไปเเล้ว ซึ่งมีการซ่อมเเซมตัวสถานีล่าสุดเมื่อปี ค.ศ.2003 เเละมีการสร้างตัวอาคารสถานีใหม่เเต่ก็ยังคงอาคารสมัยปี ค.ศ.1800 เอาไว้อีกด้วย ถือเป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองซัปโปโร หากต้องเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ของฮอกไกโดก็ต้องมาเริ่มต้นขึ้นรถไฟที่สถานนีแห่งนี้ อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ ของสถานีรถไฟซัปโปโรนั้นเต็มไปด้วยเเหล่งช็อปปิ้งเเละร้านค้าจำนวนมากมาย โดยร้านค้าส่วนใหญ่นั้นจะเปิดกันในเวลา 20.00 น. จนถึงเวลา 21.00 น. ส่วนบรรดาร้านอาหารส่วนใหญ่นั้นจะเปิดกันในเวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น. ส่วนอีกจุดที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือในส่วนของจุดชมวิว T38 (JR Tower Observatory T38) ซึ่งจะตั้งอยู่บนอาคารเจอาร์ทาวเวอร์ที่มีความสูง 38 ชั้น โดยด้านบนนั้นเป็นพื้นที่ซึ่งสามารถชมวิวของเมืองซัปโปโรได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว เเละมีการเเสดงข้อมูลต่าง ๆ มากมายที่น่าสนใจ โดยจุดชมวิวนี้จะเปิดให้เข้าชมทุกวันในเวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 223.00 น. โดยต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 720 เยน นอกจากนี้เเล้วทางฝั่งทิศใต้ของสถานีรถไฟซัปโปโร ยังเป็นที่ตั้งของช็อปปิ้งเซนเตอร์ ซึ่งบนชั้นที่ 10 นั้นจะเป็นที่ตั้งของศูนย์อาคารซัปโปโร ราเมง รีพลับบลิค (Ramen Republic) ซึ่งจะมีร้านราเมงเล็ก ๆ กว่า 8 ร้าน ซึ่งเเต่ละร้านนั้นจะมีเมนูราเมงประจำถิ่นฮอกไกโดที่มีความโด่งดังในรสชาติของความอร่อย เเละภายในอาคารเเห่งนี้ก็ยังมีเเหล่งจำหน่วยสินค้าอีกมากมายหลายอย่าง จนกลายเป็นเเหล่งช็อปปิ้งชื่อดังเลยก็ว่าได้ของซัปโปโร โดยตัวอาคารเเห่งนี้เปิดในเวลา 11.00 น. ถึง 22.00 น. ของทุกวัน ส่วนการเปิดปิดเเต่ละร้านในอาคารจะเเตกต่างกันออกไป

📍 สถานที่ : สถานีซัปโปโร (Sapporo Station), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน ศูนย์การค้า เวลา 10.00 – 20.00 น.ร้านอาหาร เวลา 10.00 – 20.00 น., จุดชมวิว T38 เวลา 10.00 – 22.00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม : JR Tower Observatory T38 มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 740 เยน เด็กโต 520 เยน เด็กเล็ก 320 เยน

🌎 เว็บไซต์ : jr-tower.com/t38
🗺 แผนที่รถไฟ :
คลิ๊กเพื่อดูแผนที่รถไฟในซัปโปโร
🚆 การเดินทาง : JR Hakodate Line, JR Gakuentoshi Line, JR Chitose, Namboku Subway Line, Toho Subway Line ทั้งหมดลงสถานี Sapporo

ห้าง ESTA, สถานีซัปโปโร โดย Suchart Boonyavech / Shutterstock.com

Ramen Republic, สถานีซัปโปโร โดย seaonweb / Shutterstock.com

บรรยากาศสถานียามเย็น, สถานีซัปโปโร โดย Sean Pavone / Shutterstock.com

วิวจากจุดชมวิว T38,สถานีซัปโปโร โดย jr-tower.com.e.os.hp.transer.com/t38_view


หอนาฬิกาซัปโปโร

หอนาฬิกาซัปโปโร โดย C. Na Songkhla / Shutterstock.com

ถัดมาที่ หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) อาคารเก่าเเก่ของเมืองซัปโปโรเเละของภูมิภาคฮอกไกโด ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของวิทยาลัยเกษตรซัปโปโร เเละเป็นอีกหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองซัปโปโร เเต่นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะไม่ค่อยนิยมไปชมความสวยงามของอาคารเเห่งนี้มากนัก โดยอาคารเเห่งนี้นั้นสร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ส.1878 ซึ่งเป็นห้วงเวลาในการพัฒนาภูมิภาคฮอกไกโดในระยะเเรก ๆ ทำให้ตัวอาคารทั้งหมดที่สร้างในยุคนั้นมีกลิ่นอายของความเป็นอเมริกัน เเละเป็นสถาปัตยกรรมในยุคเมจิที่มีความสวยงามเเละมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ความโดดเด่นของหอนาฬิกาซัปโปโร อยู่ในส่วนของตัวเรือนนาฬิกาที่มีการสั่งซื้อมาจากเมืองบอสตันในสหรัฐอเมริกา เเละนำมาติดตั้งที่นี่ ถือว่าเป็นหอนาฬิกาเเรกในภูมิภาคฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ เเต่เดิมนั้นพื้นที่ของอาคารเเห่งนี้ใช้เป็นสำนักงานทางราชการ ก่อนจะมีการปรับเปลี่ยนหลายต่อหลายครั้งเเละล่าสุดนั้นได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดเเสดงเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของฮอกไกโด เเละการก่อสร้างสถานที่ต่าง ๆ ในยุคเเรก โดยทางด้านของชั้นที่สองในตัวพิพิธภัณฑ์นั้นจะเเสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนาฬิกา เเละยังมีห้องโถงที่ปัจจุบันเอาไว้ใช้ในการจัดพิธีสำคัญต่าง ๆ อีกด้วย ตัวอาคารของหอนาฬิกาซัปโปโรนั้นเป็นอาคารไม้สีขาวทำให้มีความงดงามเเละโดดเด่นมากในช่วงฤดูหนาว ยิ่งช่วงหิมะตกคือสวยมาก ทำให้เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาถ่ายภาพในช่วงฤดูหนาว ซึ่งสถานที่เเห่งนี้จะเปิดให้เข้าชมทุกวันในเวลา 08.45 น. จนถึงเวลา 17.10 น. โดยจะปิดทุกวันจันทร์ที่ 4 ของทุกเดือน เเละวันที่ 29 ธันวาคม ถึง 3 มกราคม ของทุกปี โดยต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 200 เยน

📍 สถานที่ : หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.45 – 17.10 น.
🎟️ ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 200 เยน

🌎 เว็บไซต์ : sapporoshi-tokeidai.jp/english
🚆 การเดินทาง :

  • Namboku Subway Line, Tozai Subway Line, Toho Subway Line ลงสถานี Odori ต่อด้วยเดินเท้า 1 บล็อค ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น
  • JR Hakodate Line, JR Gakuentoshi Line, JR Chitose, Namboku Subway Line, Toho Subway Line ทั้งหมดลงสถานี Sapporo แล้วเดินเท้า 10 นาที

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ, หอนาฬิกาซัปโปโร โดย Shutterstock.com

หอนาฬิกาซัปโปโร โดย Takashi Images / Shutterstock.com

ภายในหอนาฬิกา, หอนาฬิกาซัปโปโร โดย GRAFFITI MAIDORG / Shutterstock.com

หอนาฬิกาในช่วงฤดูหนาว, หอนาฬิกาซัปโปโร โดย Supachai Panyaviwat / Shutterstock.com

บรรยากาศยามค่ำคืน, หอนาฬิกาซัปโปโร โดย Shutterstock.com


สวนโอโดริ

สวนโอโดริ, ซัปโปโร โดย SeanPavone (envato)

เเลนด์มาร์คใจกลางสวนโอโดริที่ห้ามพลาด กับ สวนโอโดริ (Odori Park) โดยมีเเนวคิดในการสร้างเหมือนกับเซ็นทรัลพาร์คที่มหานครนิวยอร์ก เเละเป็นกึ่งกลางที่เเบ่งเมืองออกเป็นสองส่วนด้วยกัน ทั้งในส่วนของฝั่งทางทิศเหนือเเละทิศใต้ ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่ รวมทั้งมีลานจอดรถที่มีขนาดความยาวถึง 1 กิโลเมตรครึ่งเลยทีเดียว จึงกลายมาเป็นอีกจุดท่องเที่ยวหลัก เพราะอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมายในตัวเมืองซัปโปโร ด้วยความที่สวนสาธารณะโอโดรินั้น กินอาณาบริเวณถึง 12 บล็อกด้วยกัน ทำให้ในช่วงเวลาปกตินั้นจะทำหน้าที่เป็นสวนสาธารณะประจำเมืองที่มีความสำคัญ โดยทางด้านของด้านทิศตะวันออกนั้นจะโดดเด่นมาเเต่ไกล เพราะเป็นจุดที่ตั้งของ Sapporo TV Tower ที่มีความสูงกว่า 150 เมตร เเละด้านบนจะเป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามเเละเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว (มีค่าเข้าชม) ยิ่งในช่วงเวลากลางคืนนั้นจะมีความสวยงามด้วยเเสงไฟที่สวยงาม นอกจากนี้ ความสำคัญของสวนสาธารณะโอโดริ คือ ในช่วงฤดูหนาวบริเวณเเห่งนี้ จะถูกใช้เป็นพื้นที่ของการจัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโร เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เเละเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเองเเละชาวต่างชาติ ทำให้เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งได้รับความนิยมเเละเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองหลวงของฮอกไกโดเเห่งนี้อีกด้วย โดยที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวัน เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

📍 สถานที่ : สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน สวนสาธารณะโอโดริ เปิด 24 ชั่วโมง ส่วน Sapporo TV Tower เปิดเวลา 09.00 – 22.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย เวลา 21.50 น.)
🎟️ ค่าเข้าชม : Sapporo TV Tower มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน (ชั้นขายตั๋วอยู่ชั้น 3)

🌎 เว็บไซต์ : tv-tower.co.jp/en
🚆 การเดินทาง : Namboku Subway Line, Tozai Subway Line, Toho Subway Line ลงสถานี Odori

Sapporo TV Tower ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง, สวนโอโดริ โดย Tanya Jones / Shutterstock.com

สวนโอโดริ โดย SeanPavone (envato)

ปะติมากรรมขนาดยักษ์ในช่วงเทศกาลหิมะ, สวนโอโดริ โดย Ekkachai / Shutterstock.com

Sapporo Snow Festival, สวนโอโดริ โดย JoeyPhoto / Shutterstock.com


อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด

อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด โดย Shutterstock.com

มาเที่ยวซัปโปโรไม่มาถ่ายรูปที่นี่ถือว่ากับผิด จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คอีกแห่งของซัปโปโรเลยล่ะ กับ อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Hokkaido Government Office) หรือ ทำเนียบอิฐแดง ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับสวนโอโดริและหอนาฬิกาซัปโปโรเลย อาคารเเห่งนี้เป็นอาคารหลังเเรก ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงเวลาของการพัฒนาภูมิภาคฮอกไกโดเมื่อร้อยกว่าปีมาเเล้ว สร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1888 (ยุคเมจิ) มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอเมริกันนีโอบาโรก มีสไตล์คล้ายคลึงกับสถานีรถไฟโตเกียว เพราะมีการใช้อิฐสีเเดงในการก่อสร้างเหมือนกัน โดยเเรกเริ่มนั้นใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่นฮอกไกโด เเละเป็นอาคารสำหรับหน่วยงานราชการมาอย่างยาวนาน ก่อนที่จะมีการสร้างอาคารรัฐบาลใหม่ขึ้นมาเเทนที่ ทำให้อาคารเเห่งนี้จึงยุติบทบาทลง จนเป็นเพียงพิพิธภัณฑ์เเละหอสมุดที่เก็บบันทึกทางราชการในปัจจุบันเท่านั้น ภายในมีนิทรรศการ จัดแสดงสิ่งของเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ฮอกไกโด และผลงานศิลปะทั่วโถง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินได้แบบฟรี ๆ ทุกวัน ไม่เสียค่าใช้จ่าย ปัจจุบันกำลังปิดปรับปรุง เพื่อบูรณะซ่อมแซม*

📍 สถานที่ : อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Hokkaido Government Office), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : ปัจจุบันปิดปรับปรุงชั่วคราว เพื่อบูรณะซ่อมแซม*
🎟️ ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

🌎 เว็บไซต์ : pref.hokkaido.lg.jp/foreign/english
🚆 การเดินทาง : JR Hakodate Line, JR Gakuentoshi Line, JR Chitose, Namboku Subway Line, Toho Subway Line ทั้งหมดลงสถานี Sapporo ใช้ทางออก North West 2 ฝั่งตรงข้ามห้าง miredo แล้วเดินต่อนิดเดียวถึง

อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด โดย Shutterstock.com

อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด โดย AndyLai / Shutterstock.com

อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด โดย PaulWong / Shutterstock.com

ใบแปะก๊วยสีเหลืองตัดกับสีแดงอิฐของอาคาร, อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด โดย Shutterstock.com

ช่วงฤดูหนาวมีการประดับไฟ, อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด โดย MANGKORNN / Shutterstock.com


สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด

สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด โดย visit.sapporo.travel

ใกล้กันกับอาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด เดินไปแค่ 200 เมตร มีสวนสวยชื่อว่า สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Botanic Garden Hokkaido University) เปิดเมื่อปี ค.ศ. 1886 บนพื้นที่กว่า 81 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรเลย เดินเพียง 10 นาทีจากสถานีซัปโปโร สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ มีต้นเอล์มญี่ปุ่นเก่าแก่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภูมิทัศน์ดั้งเดิมของซัปโปโรก่อนการพัฒนาเมือง มีกลุ่มพืชพรรณประมาณ 4,000 ชนิด โดยเน้นที่พืชอัลไพน์และพืชเมืองหนาวในฮอกไกโด รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง โดยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพฤกษศาสตร์ที่สวยงามตลอดทั้งปี สำหรับไฮไลท์ของที่นี่ คือ ดอกไม้ป่าอันน่าหลงใหลในฤดูใบไม้ผลิ,​ ดอกซากุระญี่ปุ่น และใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากนี้ภายในสวนยังมีพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1882 ซึ่งจัดแสดงตัวอย่างประวัติศาสตร์ธรรมชาติเก่าแก่และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการล่าอาณานิคมของฮอกไกโด และพิพิธภัณฑ์ชาวเหนือ จัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ที่อธิบายวัฒนธรรมของผู้คนพื้นเมืองในฮอกไกโด ผู้คนนิยมมาชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิและดูใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนฤดูร้อนต้นไม้จะสีเขียวทั้งสวนบรรยากาศดีใช้ได้เลย

📍 สถานที่ : สวนพฤษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Botanic Garden Hokkaido University), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : แบ่งเป็น 2 ฤดูกาล แนะนำให้เช็คกับเว็บไซต์โดยตรง เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลง

ฤดูร้อน (วันที่ 29 เมษายน – 3 พฤศจิกายน) *ปิดทุกวันจันทร์*

  • วันที่ 29 เมษายน – 30 กันยายน เปิดบริการเวลา 09.00 – 16.30 น. (รอบสุดท้าย เวลา 16.00 น.)
  • วันที่ 1 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน เปิดบริการเวลา 09.00 – 16.00 น. (รอบสุดท้าย เวลา 15.30 น.)

ฤดูหนาว (วันที่ 4 พฤศจิกายน – 28 เมษายน) *ปิดทุกวันอาทิตย์*

  • วันธรรมดา เปิดบริการเวลา 10.00 – 15.30 น. (รอบสุดท้าย เวลา 15.00 น.)
  • วันเสาร์ เปิดบริการเวลา 10.00 – 12.30 น. (รอบสุดท้าย เวลา 12.00 น.)
  • ***หมายเหตุ ปิดทำการวันที่ 28 ธันวาคม – 4 มกราคม

🎟️ ค่าเข้าชม : แบ่งตามฤดูกาล

  • ฤดูร้อน – ผู้ใหญ่ 420 เยน, เด็ก อายุ 7-15 ปี 300 เยน, เด็ก อายุ 0-6 ปี เข้าฟรี
  • ฤดูหนาว – ผู้ใหญ่ (อายุ 7 ปีขึ้นไป) 120 เยน, เด็ก อายุ 0-6 ปี เข้าฟรี

🌎 เว็บไซต์ : hokudai.ac.jp/foreign
🚆 การเดินทาง :

  • JR Hakodate Line, JR Gakuentoshi Line, JR Chitose, Namboku Subway Line, Toho Subway Line ทั้งหมดลงสถานี Sapporo ใช้ทางออกทิศใต้ตะวันตกตรงห้าง Arty 45 แล้วเดินต่ออีก 3 บล็อค
  • Tozai Subway Line ลงสถานี Nishi juitchome ทางออก 4 แล้วเดินต่อประมาณ 3 บล็อคเช่นกัน

ดอกชวนชม, สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด โดย ひろ(スカパラくん)

ดอกไฮเดรนเยีย ช่วงเดือนพฤษภาคม, สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด โดย Zoltan Donko

ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมาก, สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด โดย 石原直明

พืชอวบน้ำใน Green House, สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด โดย Tien Dat Le

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์มิยาเบะ คิงโงะ, สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด โดย アルフレッド・オオグロ写真財団


ย่านซูซูกิโนะ

ย่านซูซูกิโนะ โดย Sean Pavone / Shutterstock.com

ย่านกินดื่มในซัปโปโร ย่านซูซูกิโนะ (Susukino) เรียกได้ว่าเป็นแลนมาร์คอีกหนึ่งจุดที่ต้องมา หากให้นึกไม่ออกให้ลองนึกถึงป้ายโฆษณาคุณลุงมีหนวดกำลังถือแก้ววิสกี้ ซึ่งเป็นฉลากของแบรนด์ Nikka Whisky แล้วเราจะร้องอ๋อ ใครที่มาเที่ยวซัปโปโรแล้วไม่มาถ่ายรูปกับป้ายนี้ พูดเลยว่ามาไม่ถึง ถือเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ เลย ต้องมาถ่ายรูปเช็คอินกันซักหน่อย โดยย่านนี้คึกคักไปด้วยผู้คน มีร้านค้า ร้านอาหาร และบาร์มากมาย รวมถึงห้าง, สถานีรถไฟ และรถราง ตรงกลางสี่แยกมีหอนาฬิกา นักท่องเที่ยวมักมาเดินเล่นยามค่ำคืน ช็อปปิ้ง ซดราเมง กินอิซากายะ จิบเบียร์ เล่นตู้คีบตุ๊กตา หยอดกาชาปอง จุดเด่นของย่านนี้ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ตลาดทานุกิโคจิ ถนนคนเดินเก่าแก่ที่มีร้านค้ามากมายกว่า 200 ร้าน เดินถึงกันได้หมด ช็อปจนกระเป๋าเงินฉีกแน่นอน แถมในช่วงเดือนต้นกุมภาพันธ์ของทุกปี ย่านซูซูกิโนะจะมีเทศกาลน้ำแข็ง Susukino Ice World (จัดตรงกับเทศกาลหิมะซัปโปโร) มีรูปแกะสลักน้ำแข็งตั้งเรียงยาวประมาณ 2-3 บล็อก ตอนกลางคืนประดับประดาไฟสวยงามมาก จะมีการปิดถนนให้คนได้เดินชมท่ามกลางอากาศหนาว ๆ ยิ่งถ้าหิมะตกนะ โรแมนติกมากเลย

📍 สถานที่ : ย่านซูซูกิโนะ (Susukino), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 24.00 น. (แต่ละร้านเวลาเปิดปิดไม่เท่ากัน)
🚆 การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Sapporo ขึ้นรถไฟ Namboku Line ลงสถานี Susukino

ย่านซูซูกิโนะ โดย Sean Pavone / Shutterstock.com

ตรอกราเมง, ย่านซูซูกิโนะ โดย retirementbonus / Shutterstock.com

ตลาดทานุกิโคจิ, ย่านซูซูกิโนะ โดย axz700 / Shutterstock.com

เทศกาลน้ำแข็งซูซูกิโนะ, ย่านซูซูกิโนะ โดย junjunejun


ตลาดทานุกิโคจิ

ตลาดทานุกิโคจิ โดย Richie Chan / Shutterstock.com

แหล่งช็อปปิ้งชื่อดังในซัปโปโร ตลาดทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Street) ถนนช็อปปิ้งอันเก่าแก่ เปิดมาแล้วกว่า 100 ปี สามารถเดินได้แบบยาว ๆ ถึง 7 บล็อก ยาวประมาณ 900 เมตร คุณจะเพลิดเพลินไปกับการช็อปปิ้งได้อย่างสะดวกสบายเพราะมีหลังคา ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก หรือหิมะตกก็ไม่ต้องหวั่น ภายในตลาดมีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน ทั้งร้านเสื้อผ้า, ร้านขายรองเท้า, ร้านขายยา, ร้านอาหาร, บาร์, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายของฝาก, ร้านทำผม, ร้านขายเครื่องดนตรี, ร้านกาชาปอง และอีกมากมาย เรียกว่ามาที่เดียวคือจบ ล้มละลายอย่างแน่นอน สามารถเดินเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน ทั้งยังมีดองกี้สาขาใหญ่ ของเยอะมาก, ทางเชื่อมไปยัง Pole Town แหล่งช็อปปิ้งชั้นใต้ดิน และมีโรงแรมอยู่ในตลาดอีกด้วย

📍 สถานที่ : ตลาดทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Street), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 21.00 น. (แต่ละร้านเปิดปิดเวลาไม่เท่ากัน)
🌎 เว็บไซต์ : tanukikoji.or.jp
🚆 การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Sapporo ขึ้นรถไฟ Namboku Line ลงสถานี Susukino แล้วเดินเท้า 1 นาทีถึงเลย

ตลาดทานุกิโคจิ โดย maxthanakorn / Shutterstock.com

ร้านขายยา, ตลาดทานุกิโคจิ โดย アルフレッド・オオグロ写真財団

ร้านกาชาปอง, ตลาดทานุกิโคจิ โดย Rサーチ

ซอฟท์ครีมทูโดทนในตลาด, ตลาดทานุกิโคจิ โดย farose_fourth

ตลาดทานุกิโคจิ โดย Blanscape / Shutterstock.com


ตลาดนิโจ

ตลาดนิโจ โดย Korkusung / Shutterstock.com

อยากชิมอาหารทะเลสด ๆ เสมือนขึ้นจากเรือประมง ขอแนะนำ ตลาดนิโจ (Nijo Market) ตลาดเก่าแก่ใจกลางซัปโปโร มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยเมจิ เป็นตลาดที่ชาวเมืองซัปโปโรนิยมมาจับจ่ายใช้สอย มีอาหารทะเลสด ๆ มากมาย รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปและผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ ปูทาราบะ, โฮตาเตะ, หอยนางรม, อูนิ, แซลมอน, ไข่ปลาแซลมอน, มากุโร่ เป็นต้น เมื่อซื้อแล้ว สามารถให้ร้านทำการนึ่งหรือย่างได้เลย นอกจากร้านขายอาหารทะเลสดแล้ว ยังมีร้านอาหารมากมายหลากหลายให้คุณได้ลิ้มลองรถชาติ แนะนำให้เดินเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ มีร้านอาหารร้านนึง โฮตาเตะสดมากเนื้อหวานฉ่ำ และก็มีข้าวด้งหน้าต่าง ๆ รสชาติดีทีเดียว ส่วนร้านอื่น ๆ รีวิวคะแนนค่อนข้างสูงเลย เลือกทานได้ตามใจชอบเลย

📍 สถานที่ : ตลาดนิโจ (Nijo Market), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00 – 18.00 น. ส่วนร้านอาหาร เปิดเวลา 06.00 – 20.00 น. (อาจแตกต่างกันไปแต่ละร้าน)
🌎 เว็บไซต์sapporo.travel/th/spot/feature/sapporo-nijo
🚆 การเดินทาง : Tozai Subway Line ลงสถานี Bus Center Mae ใช้ทางออก 3 เมื่อเดินขึ้นมาเจอแยกเลี้ยวซ้าย แล้วเดินตรงไปอีก 2 บล็อคถึงเลย

บรรยากาศตลาด, ตลาดนิโจ โดย Kit Leong / Shutterstock.com

ปูทาราบะ, ตลาดนิโจ โดย PangJee_S / Shutterstock.com

โฮตาเตะย่าง, ตลาดนิโจ โดย Shutterstock.com

ตรอกในตลาด, ตลาดนิโจ โดย Korkusung / Shutterstock.com

ข้าวหน้าอาหารทะเล, ตลาดนิโจ โดย Shutterstock.com


พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร

พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร โดย Richie Chan / Shutterstock.com

สายแอลต้องมาที่ พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำที่ใครมาซัปโปโรต้องไปเยือน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1987 โดดเด่นไปกับอาคารอิฐแดง ปล่องไฟ และถังขนาดยักษ์ใน Kessel Hall ซึ่งซัปโปโรเป็นผู้ผลิตเบียร์รายแรกของประเทศญี่ปุ่น ในอดีตเป็นโรงงานน้ำตาล ก่อนที่จะมาเป็นโรงหมักเบียร์และพิพิธภัณฑ์ในเวลาต่อมา ภายในมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์การผลิตเบียร์ มีอุปกรณ์เครื่องใช้เก่าแก่ รวมถึงมีภาพโปสเตอร์โฆษณาแบบดั้งเดิมในยุคต่าง ๆ ให้เราได้ดูอีกด้วย เมื่อชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วขอแนะนำให้มาต่อที่ Sapporo Beer Garden ให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติเบียร์อย่าง Sapporo Classic ที่มีขายเฉพาะในฮอกไกโดเท่านั้น, Sapporo Draft Kuro Label ดราฟเบียร์ที่เป็นที่ชื่นชอบกว่า 40 ปี และ Kaitakushi Beer ที่ผลิตโดยโรงเบียร์ไคตะคุชิซึ่งเป็นโรงหมักเบียร์ดั้งเดิมตั้งแต่ก่อตั้ง ต่อด้วยอาหารจานเด็ดของฮอกไกโดกับเนื้อย่างเจงกิสข่าน เนื้อแกะย่างบนกระทะโลหะแบบพิเศษทานพร้อมกับผักสด ยิ่งทานคู่กับเบียร์สดเย็น ๆ คือฟิน หรืออยากใครทานอาหารอย่างอื่นก็มีเช่นกัน เช่น อาหารทะเลและผักตามฤดูกาลย่าง ที่บอกเลยว่าคอเบียร์ไม่ควรพลาดเลยล่ะ

📍 สถานที่ : พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการ เวลา 11.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
🎟️ ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

🌎 เว็บไซต์ : sapporobeer.jp/english
🚆 การเดินทาง :

  • ใช้บริการของรถบัสสาย Loop 88 Factory Line โดยขึ้นจากป้ายหน้าสถานีรถไฟใต้ดิน Odori หรือหน้าห้าง Tokyu ใกล้กับสถานี Sapporo ก็ได้เช่นกัน โดยรถบัสจะออกทุก ๆ 20 นาที ค่าโดยสาร 210 เยน/คน
  • JR Hakodate Line ลงสถานี Naebo ใช้ทางออก North Exit แล้วเดินเท้าประมาณ 800 เมตร
  • Toho Subway Line ลงสถานี Higashi-Kuyakusho-Mae แล้วเดินเท้า 10 นาที

พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร โดย ThamKC / Shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร โดย 9Bon / Shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร โดย Sean Pavone / Shutterstock.com


สวนนากาจิมะ

สวนนากาจิมะ โดย kwanchai.c / Shutterstock.com

เป็นจุดชมซากะระและใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อในตัวเมืองซัปโปโร กับ สวนนากาจิมะ (Nakajima Park) สวนกลางเมืองที่มีเเม่น้ำโซเซอิไหลผ่านและมีภูเขาโมอิวะเป็นฉากหลัง จัดเป็นสวนขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองซัปโปโร มีพืชพรรณอุดมสมบูรณ์ ได้รับการรับรองให้เป็น 1 ใน 100 สวนสาธารณะในเมืองของญี่ปุ่นอีกด้วย ชาวเมืองนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมต่าง ๆ ตรงกลางสวนมีทะเลสาบอายะเมะหรือสระไอริสที่ในช่วงฤดูร้อนมีเรือให้พายเล่น อีกทั้งภายในยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ทั้ง Sapporo Concert Hall หรือที่เรียกว่า Kitara เปิดในปี 1997 เป็นคอนเสิร์ตฮอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด มีร้านอาหาร ห้องเพาะชํา และร้านค้าพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในอาคาร, หอดูดาวเมืองซัปโปโร ทุกเดือนจะเปิดให้ชมฟรีในตอนกลางคืน, ศูนย์กีฬานากาจิมะ, โรงละครหุ่นกระบอก, หอเด็ก, พิพิธภัณฑ์วรรณกรรมฮอกไกโด, สวนญี่ปุ่น, ฮัสโซอัน (โรงน้ําชา) และโฮเฮคัง (อาคารประวัติศาสตร์และสถานที่จัดงานแต่งงาน) ซึ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ นอกจากนี้บริเวณสวนยังมีผลงานศิลปะ รูปปั้น รูปแกะสลัก ตั้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ใครที่ไปเที่ยวซัปโปโรช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง ลิสต์สวนแห่งนี้ไว้ในแพลนกันได้เลย

📍 สถานที่ : สวนนากาจิมะ (Nakajima Park), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน
🎟️ ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

🌎 เว็บไซต์ : sapporo.travel/th/nakajima_park
🚆 การเดินทาง : Namboku Subway Line ลงสถานี Nakajimakoen ใช้ทางออก 3

ช่วงซากุระบาน ชาวเมืองมาฮานามิกัน, สวนนากาจิมะ โดย Hananeko_Studio / Shutterstock.com

ต้นแปะก๊วยสีเหลืองทอง,​ สวนนากาจิมะ โดย retirementbonus / Shutterstock.com

ใบไม้เปลี่ยนสี,​ สวนนากาจิมะ โดย Shutterstock.com

โฮเฮคัง, สวนนากาจิมะ โดย tasch / Shutterstock.com


ศาลเจ้าฮอกไกโด

ศาลเจ้าฮอกไกโด โดย Shutterstock.com

เสริมความสิริมงคลกันที่ ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Jingu) เป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญของภูมิภาคฮอกไกโด โดยตั้งอยู่ติดกับสวนมารุยามะ สร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1871 ในยุคที่เริ่มต้นสร้างเมืองซัปโปโรขึ้นมา โดนมีการอัญเชิญเทพเจ้ามาประทับทั้งหมด 4 องค์ด้วยกัน เพื่อทำให้เมืองซัปโปโร เเละภูมิภาคฮอกไกโดมีความเจริญรุ่งเรืองตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นในยุคนั้น เเละที่นี่ยังเป็นศาลเจ้าหลักของนิกายชินโตบนเกาะฮอกไกโดอีกด้วย ทำให้เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเมืองเเห่งนี้บริเวณศาลเจ้าฮอกไกโดนั้น มีบรรยากาศที่มีความเงียบสงบ เเละเต็มไปด้วยอาคารไม้ที่มีความเก่าเเก่ แสดงออกถึงสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณ มีกลิ่นอายของยุคสมัยเมจิเเฝงอยู่อย่างมากมาย เเละในส่วนของอาคารหลังกลางที่ใหญ่ที่สุดนั้นสร้างจากไม้มีความใหญ่โตโออ่า เต็มไปด้วยความสวยงามของงานสถาปัตยกรรม เเละศิลปกรรมที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ได้มาชมเป็นอย่างยิ่ง มีส่วนที่น่าสนใจหลายจุดด้วยกันทั้งในส่วนของประติมากรรมองค์เทพเจ้าทั้ง 4 องค์ ที่มีความสวยงามเเละอลังการงานสร้าง โดยศาลเจ้าฮอกไกโดนั้น ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นสถานที่สำหรับชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิที่มีความงดงามเเละน่าประทับใจเป็นอย่างมาก เเละในช่วงของฤดูร้อนจะมีการจัดเทศกาลซัปโปโร มัสสึริ ซึ่งจะมีขบวนเเห่ไปรอบเมืองเเละสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยจะจัดกันทุกวันที่ 14-16 มิถุนายนของทุกปี

📍 สถานที่ : ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00 – 16.00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

🌎 เว็บไซต์ : hokkaidojingu.or.jp/eng
🚆 การเดินทาง : Tozai Subway Line ลงสถานี Maruyama Koen ใช้ทางออก 3 หรือทางออก 6 (ห้าง Maruyama Class) แล้วเดินต่ออีก 15 นาที

ล้างมือเพื่อชำระล้างก่อนขอพรในศาลเจ้า, ไหว้ศาลเจ้าฮอกไกโด โดย Shutterstock.com

ป้ายขอพร, ศาลเจ้าฮอกไกโด โดย kalapangha / Shutterstock.com

ซากุระบานงดงามมาก, ศาลเจ้าฮอกไกโด โดย Koki Yamada / Shutterstock.com

ใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณทางเดินเข้าศาลเจ้า, ศาลเจ้าฮอกไกโด โดย Koki Yamada / Shutterstock.com


สวนสัตว์มารุยามะ

ทางเข้าสวนสัตว์, สวนสัตว์มารุยามะ โดย Terence Toh Chin Eng / Shutterstock.com

สวนสัตว์ประจำเมืองซัปโปโร สวนสัตว์มารุยามะ (Maruyama Zoo) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับครอบครัว ทั้งชาวญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เป็นสวนสัตว์เก่าแก่ที่เปิดเมื่อปี ค.ศ.1951 แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติเพราะอยู่บริเวณเดียวกับสวนมารุยามะ มีการจำลองที่อยู่ของสัตว์ให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด จัดแสดงสัตว์นานาชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ปีก, สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก, และสัตว์เลื้อยคลาน ภายในสวนสัตว์แบ่งออกเป็นหลายโซน น้อง ๆ ที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมมากมีเยอะมาก อาทิ มีขั้วโลก, แพนด้าแดง, ช้าง, จิ้งจอก, เอโซะโมมองก้า (กระรอกบินที่พบได้เฉพาะในญี่ปุ่น), เพนกวิน, แมวน้ำ, เสือดาวหิมะ ส่วนสัตว์ตัวอื่น ๆ ก็น่ารักไม่แพ้กัน รวมถึงมีสวนสัตว์สำหรับเด็ก ๆ ให้คุณหนู ๆ ได้ลูบคลำกันอีกด้วย ไปเที่ยวซัปโปโร อย่าลืมไปเที่ยวสวนสัตว์มารุยามะด้วยนะ ย้อนวัยชมน้อง ๆ ฟินแน่นอน

📍 สถานที่ : สวนสัตว์มารุยามะ (Maruyama Zoo), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.30 – 16.00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็กโต 400 เยน เด็กเล็กเข้าฟรี

🌎 เว็บไซต์ : city.sapporo.jp/zoo
🚆 การเดินทาง : Tozai Subway Line ลงสถานี Maruyama Koen ใช้ทางออก 3 หรือทางออก 6 (ห้าง Maruyama Class) แล้วเดินต่ออีก 15 นาที

หมีขั้วโลก,​ สวนสัตว์มารุยามะ โดย visit-hokkaido.jp

สวนสัตว์มารุยามะ โดย 札幌市円山動物園(公式)


สวนดอกลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ

สวนดอกลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ โดย ERI

ใครที่มาเที่ยวซัปโปโรช่วงเดือนกรกฎาคม แนะนำให้ลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เข้าไปในแพลนด้วย นั่นก็คือ สวนดอกลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden) สวนบนเนินเขาที่ปลูกดอกลาเวนเดอร์มากกว่า 8,000 ต้น เมื่อดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งจะกลายเป็นพรมสีม่วงตัดกับสีท้องฟ้าสร้างความสวยงาม บวกกับทิวทัศน์แบบมุมกว้างของเมืองซัปโปโรเบื้องหน้า ช่างเป็นภาพที่งดงามสะกดสายตา คุณจะเพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูป ทั้งยังได้สูดอากาศสดชื่นในเวลาเดียวกัน รวมถึงมีกิจกรรมตัดดอกลาเวนเดอร์ด้วยตัวเองด้วย นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกจากดอกลาเวนเดอร์จำหน่ายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหอมระเหย, น้ำมันดอกไม้, โปสการ์ด, ต้นกล้าลาเวนเดอร์ และช่อดอกลาเวนเดอร์ โดยสวนแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย เปิดเวลา 09.00 – 17.00 น. จ้าา หรือหากใครต้องการขึ้นไปชมวิวด้านบนเฉย ๆ ด้านบนสุดมีลานจอดรถชมวิว Horomi Pass ยิ่งไปตอนกลางคืนจะเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามของซัปโปโรได้ เค้าเปิดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 พฤศจิกายน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ค่าจอดรถกลางวัน 500 เยน กลางคืน 800 เยน

📍 สถานที่ : สวนดอกลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : ตลอดเดือนกรกฎาคม เวลา 09.00 – 17.00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

🌎 เว็บไซต์ : yumekoubousatou.com/lavender (ภาษาญี่ปุ่น)
🚆 การเดินทาง : Tozai Subway Line ลงสถานี Maruyama Koen เเล้วต่อเเท็กซี่จากหน้าสถานีไปยังสวน ประมาณ 1,500 เยน ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที

วิวเมืองซัปโปโร,​ สวนดอกลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ โดย 惇司

สวนดอกลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ โดย 越後屋善行(328sakura)

สวนดอกลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ โดย visit-hokkaido.jp

ช่อดอกลาเวนเดอร์, สวนดอกลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ โดย nokstalker


ภูเขาโมอิวะ

ภูเขาโมอิวะ โดย mt-moiwa.jp

จุดชมวิวขึ้นชื่อของซัปโปโร ภูเขาโมอิวะ (Moiwa Mountain) ภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซัปโปโร มีความสูง 531 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ด้านบนมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวเมืองแบบพาโนรามาได้อย่างกว้างไกล มองเห็นสถานที่เด่น ๆ ของเมืองหลายแห่งเลย อาทิ Sapporo TV Tower, Sapporo Station, JR Tower เป็นต้น ยิ่งขึ้นมาชมวิวตอนกลางคืนจะเห็นแสงไฟจากบ้านเรือน/ตึกสูง ภาพเบื้องหน้าจะมีแสงไฟระยิบระยับเสมือนดาวบนดินเลยล่ะ ทั้งยังมีระฆังแห่งความสุขและแม่กุญแจแห่งความรัก ว่ากันว่าหากคู่รักคู่ไหนมาลั่นระฆังที่นี่ชีวิตคู่จะมีแต่ความสุข ส่วนแม่กุญแจให้เขียนชื่อทั้งสองคน (เรากับแฟน) แล้วคล้องไว้ที่ราวเหล็กรอบระฆัง จะทำให้ไม่มีวันแยกจากกันไป แม่กุญแจสะดวกเตรียมมาเองก็ได้ หรือใครไม่มีซื้อได้ที่ร้านขายของฝากที่สถานี Chufuku ชมวิวถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว อย่าลืมแวะเข้าในอาคาร มี The Jewels Take-Out Corner จำหน่ายเครื่องดื่มและอาหาร แนะนำให้ชิมไอศครีมนมฮอกไกโด หอมนุ่มละมุนลิ้น ดีมากกก รวมถึงมีที่นั่งพักผ่อนอีกด้วย การขึ้นจุดชมวิวภูเขาโมอิวะ ทำได้โดยขึ้นกระเช้าจากสถานี Sanroku เมื่อเข้ามาในอาคารกดลิฟท์ไปที่ชั้น 4 เพื่อไปยังชั้นจำหน่ายตั๋ว ทำการซื้อตั๋วแบบ Round-Trip ไปกลับ ผู้ใหญ่ 2,100 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 1,050 เยน (เก็บตั๋วไว้ให้ดีเพราะต้องใช้ทั้งตอนขึ้นและลง จะมีพนักงานเจาะตั๋ว) แล้วขึ้นกระเช้าเพื่อไปยังสถานี Chufuku ที่สถานนีนี้มีร้านขายของที่ระลึกและแกลลอรี่ จากนั้นขึ้นรถรางเพื่อไปยังจุดชมวิวที่สถานี Sancho ก็ถึงแล้ว ชั้นแรกเป็นร้านขายของฝาก ให้เราเดินบันไดไปชั้น 2 ซึ่งเป็นจุดชมวิว 

📍 สถานที่ : ภูเขาโมอิวะ (Moiwa Mountain), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน Green Season เวลา 10.30 – 22.00 น. Winter Season เวลา 11.00 – 22.00 น. (จะมีช่วงปิดทำการซ่อมบำรุง โปรดเช็คบนเว็บไซต์)
🎟️ ค่าเข้าชม : แพ็คเกจกระเช้า+เคเบิลคาร์ แบบ Round-Trip ไปกลับ ผู้ใหญ่ 2,100 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 1,050 เยน

🌎 เว็บไซต์ : mt-moiwa.jp/en
🚆 การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Sapporo ขึ้น Subway Namboku Line ลงสถานี Susukino ใช้ทางออก 2 หรือ 4 แล้วข้ามถนนจะมีป้ายรถรางอยู่กลางถนน เพื่อใช้บริการของรถรางสาย Sapporo Streetcar Yamahana Line ขึ้นฝั่ง Outer Loop (ป้ายสีส้ม) โดยมาลงที่ป้าย Ropeway Iriguchi จำนวน 12 สถานี โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที ค่าใช้จ่าย 200 เยน ส่วนใครสะดวกนั่งรถรางจากสถานี Nishi Yon Chome Station ให้ขึ้นฝั่ง Inner Loop ลงที่ป้าย Ropeway Iriguchi จะนั่งแค่ 9 สถานีเท่านั้น (น้อยกว่านิดนึง) เเล้วจะมีรถบัสรับ-ส่งฟรีระหว่างป้ายเเห่งนี้กับสถานีกระเช้าด้านล่าง โดยใช้เวลาเพียงเเค่ 5 นาทีเท่านั้น เเละรถจะออกทุก ๆ 20 นาที หรือใครอยากไม่อยากรอบัส สามารถเดินไปยังกระเช้าได้เลยตามป้ายบอกทาง ระยะ 600 เมตร

ภูเขาโมอิวะ โดย mt-moiwa.jp

แม่กุญแจแห่งรัก, ภูเขาโมอิวะ โดย Shutterstock.com

วิวตอนกลางคืนสวยมาก, ภูเขาโมอิวะ โดย mt-moiwa.jp


จุดชมวิวโอคุระยาม่า

จุดชมวิวโอคุระยาม่า โดย okurayama-jump.jp

สถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาฤดูหนาวหลายรายการ กับ จุดชมวิวโอคุระยาม่า (Okurayama Ski Jump) เป็นสถานที่กระโดดสกีระดับ 90 เมตรที่มีเพียงไม่กี่แห่งในโลก จุคนได้มากกว่า 50,000 คนในระหว่างแข่งขัน พื้นที่ของสนามกีฬาแห่งนี้ประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์โอลิมปิกซัปโปโร (Sapporo Olympic Museum) พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกผ่านนิทรรศการวัตถุทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่า เช่น อุปกรณ์ที่นักกีฬาใช้จริง ทั้งยังบูธจำลองประสบการณ์กีฬาฤดูหนาวให้คุณได้สนุกสนานอีกด้วย, พิพิธภัณฑ์โอลิมปิกซัปโปโร (Sapporo Olympic Museum Annex) อาคารเสริมที่มีคาเฟ่และร้านอาหาร, เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วและร้านค้าพิพิธภัณฑ์ และ Observation Lounge จุดชมวิวที่สามารถมองทัศนียภาพของซัปโปโรแบบมุมสูงไปจนถึงที่ราบอิชิคาริซึ่งอยู่ไกลออกไป ด้านบนมีคาเฟ่ไปใช้บริการกันได้ ที่นี่สามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาลภาพวิวตรงหน้าจะสวยงามแตกต่างกันไป การขึ้นไปด้านบนจุดชมวิวจะต้องนั่งกระเช้าลิฟท์ขึ้นไป

📍 สถานที่ : จุดชมวิวโอคุรายาม่า (Okuayama Ski Jump), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน Green Season เวลา 08.30 – 18.00 น. Winter Season เวลา 09.00 – 17.00 น. ช่วงเวลากลางคืนเปิดเฉพาะวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน เวลา 18.00 – 21.00 น. (ปิดบำรุงรักษาลิฟต์ วันที่ 9 – 18 เมษายน 2024*)
🎟️ ค่าเข้าชม : ลิฟต์ แบบ Round Trip ไปกลับ 1,000 เยน เด็กชั้นประถมศึกษาหรือต่ำกว่า 500 เยน

🌎 เว็บไซต์ : okurayama-jump.jp/en
🚆 การเดินทาง : Tozai Subway Line ลงสถานี Maruyama Koen ใช้ทางออก 2 หรือ 3 จะเจอ Maruyama Bus Terminal แล้วต่อบัส Kuramaru-go ลงป้าย Okuayama Ski Jump ใช้เวลา 15 นาที

ต้องนั่งกระเช้าลิฟท์ขึ้นไป,​ จุดชมวิวโอคุระยาม่า โดย kalapangha / Shutterstock.com

จุดชมวิวโอคุระยาม่า โดย okurayama-jump.jp


ชิโรอิโคอิบิโตะพาร์ค

Sweet Illumination, ชิโรอิโคอิบิโตะพาร์ค โดย f11photo / Shutterstock.com

มาเติมความหวานกันที่ ชิโรอิโคอิบิโตะพาร์ค (Shiroi Koibito Park) หรือที่เราเรียกว่า โรงงานช็อกโกแลตฮอกไกโด ธีมพาร์คที่ดำเนินการโดยผู้ผลิตขนมญี่ปุ่นชื่อดังอย่างชิโรอิโคอิบิโตะ ของฝากขึ้นชื่อที่ใครมาญี่ปุ่นก็ต้องซื้อกลับ ก่อตั้งโดยคุณอิซาโอะ อิชิมิสึ (Isao Ishimizu) เนรมิตพื้นที่ให้เป็นสวนสไตล์อังกฤษด้วยสถาปัตยกรรมแบบทิวดอร์ ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ เพื่อต้องการถ่ายทอดความงดงามให้กับคนในท้องถิ่น ภายในมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ ทัวร์โรงงานช็อกโกแลต, คลาสทำคุกกี้และช็อกโกแลต, เรียนรู้ส่วนผสมและการทำช็อกโกแลต, เมืองจำลองจิ๋วสำหรับเด็ก ๆ เป็นต้น (มีค่าตั๋วเข้า) ส่วนด้านนอกเป็น Free Area มีสวนกุหลาบ, หอนาฬิกา, ทางรถไฟชิโรอิโคอิบิโตะ, และสนามฟุตบอลมิยาโนะซาวะ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร, ร้านเบเกอร์รี่, และร้านของฝาก ความพิเศษของที่นี่คือในทุก ๆ ปีช่วงฤดูหนาวจะมีการจัดงาน Sweet Illumination ประดับประดาไฟธีมคริสต์มาส สวยงามมาก ถ่ายรูปเพลินอย่างแน่นอน เปิดไฟเวลา 16.00 – 19.00 น.

📍 สถานที่ : ชิโรอิโคอิบิโตะพาร์ค (Shiroi Koibito Park), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 19.00 น. 
🎟️ ค่าเข้าชม : มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ อายุ 16 ปีขึ้นไป 800 เยน , เด็ก อายุ 4-15 ปี 400 เยน , เด็กอายุ 0-3 ปี เข้าชมฟรี

🌎 เว็บไซต์ : shiroikoibitopark.jp/en
🚆 การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Sapporo ขึ้น Subway Namboku Line มุ่งหน้า Makomanai ลงสถานี Odori แล้วเปลี่ยนสายรถไฟ Subway Tozai Line ลงสถานี Miyanosawa (สถานีสุดท้ายเลย) เดินเท้า 7 นาที

หอนาฬิกาและสวนกุหลาบ, ชิโรอิโคอิบิโตะพาร์ค โดย sapporo.travel

โถงจำหน่ายตั๋ว, ชิโรอิโคอิบิโตะพาร์ค โดย Kit Leong / Shutterstock.com

ดูการผลิตคุกกี้ชื่อดัง, ชิโรอิโคอิบิโตะพาร์ค โดย ArtNat / Shutterstock.com

อาคารที่มองจากภายนอก, ชิโรอิโคอิบิโตะพาร์ค โดย  Lifestyle Travel Photo / Shutterstock.com

ประดับไฟช่วงฤดูหนาว, ชิโรอิโคอิบิโตะพาร์ค โดย Peera_stockfoto / Shutterstock.com


สกีรีสอร์ท เทเนะ

สกี รีสอร์ท เทเนะ โดย sapporo-teine.com

อดีตสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เทเนะ สกี รีสอร์ท (Teine Ski Resort) สกีรีสอร์ทในซัปโปโรที่ไปง่ายมาก เหมาะกับวันเดย์ทริป อยากไปสัมผัสความเพลิดเพลินที่ลานสกี พาวเดอร์สโนว์คุณภาพเยี่ยม วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองซัปโปโรและอ่าวอิชิคาริในระดับความสูง 1,023 เมตร เหมาะกับผู้เล่นทุกระดับ ตั้งแต่ง่ายไปจนถึงยาก มี 15 เส้นทางให้เลือกเล่น แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ Highland Zone ระดับเบสิค เหมาะกับผู้เริ่มต้น ระดับปานกลาง และเด็กๆ เป็นลานสกีใหญ่ สโลปไม่ชัน มีคอร์สสอนเล่นสกี และอีกโซน Olympic Zone สามารถขึ้นไปยังโซนนี้ โดยนั่งกอนโดลาขึ้นไปด้านบน วิวอลังการมาก สวยงามสุด ๆ โซนโอลิมปิก เหมาะกับผู้เล่นมีทักษะ สโลปสูงชัน โฉบเฉี่ยว คดเคี้ยว ป่าสองข้างทาง ฝึกกระโดดไดนามิคจัมป์ใน Terrain Park รับรองว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับการเล่นสกี และสโนว์บอร์ด (ดู Trail Map) สัมผัสประสบการณ์การเล่นสกีและสโนว์บอร์ดครั้งแรกด้วยการเรียนบทเรียนขั้นพื้นฐาน กับคอร์สเรียนสกี มีทั้งระดับเริ่มต้น Beginner 7 หลักสูตร, ระดับกลาง Intermediate 4 หลักสูตร และระดับสูง Advanced 4 หลักสูตร เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับนักเล่นสกีมือใหม่ไปจนถึงนักสกีระดับสูง พร้อมกับมีบริการในการให้เช่าอุปกรณ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังมีโซนเด็ก พื้นที่ลากเลื่อน และอื่น ๆ รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ร้านอาหาร และคาเฟ่ แต่ไม่มีโรงแรมในสกีรีสอร์ทแห่งนี้นะ

อ่านเพิ่มเติม : 5 สกีรีสอร์ท ฮอกไกโด 2024 ประเทศญี่ปุ่น สวรรค์สำหรับนักสกี และสโนว์บอร์ด

📍 สถานที่ : เทเนะ สกี รีสอร์ท (Teine Ski Resort), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : วันเริ่มต้นฤดูกาลวันที่ 18 พฤศจิกายน 2023 – วันที่ 6 พฤษภาคม 2024

โซน Highland-zone

  • เปิดบริการกลางเดือนพฤศจิกายน 2023 – 6 พฤษภาคม 2024
  • สกีฤดูใบไม้ผลิ เปิดวันที่ 8 เมษายน – 6 พฤษภาคม 2024 จะเปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดอื่น ๆ ของญี่ปุ่น
  • เวลาทำการปกติ 09.00 – 16.45 น.

โซน Olympia-Zone

  • เปิดวันที่ 2 ธันวาคม 2023 – 31 มีนาคม 2024
  • เวลาทำการปกติ 09.00 – 21.00 น.
  • Night Ski เปิดบริการเวลา 16.00 – 21.00 น.
  • Night Ski Lift รอบสุดท้าย เวลา 20.45 น.
  • วันที่ 31 ธันวาคม ปิดบริการ เวลา 18.00 น.
  • วันเปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับหิมะและสภาพอากาศ

🌎 เว็บไซต์ : sapporo-teine.com
🚆 การเดินทาง : ขึ้นบัสจากซัปโปโร ใช้บริการของ BIGRUNS BUS ขึ้นรถได้ที่ Kamori Building 3 ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น มีทั้งแพ็คเกจไป-กลับ ผู้ใหญ่ 5,600 เยน เด็ก 4,400 เยน, แพ็คเกจไป-กลับ+ตั๋วนั่งเก้าอี้ลิฟท์ 8 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 7,200 เยน เด็ก 4,700 เยน และแบบเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 2,800 เยน เด็ก 2,200 เยน อีกหนึ่งทางเลือกนั่ง JR Hakodate Line จากสถานี Sapporo ลงสถานี Teine ออกประตูทางทิศใต้ แล้วต่อบัสสาย 70 ขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 3 ค่าโดยสาร 380 เยน ใช้เวลาเดินทางรวม 30 นาทีเท่านั้น

Trail Map, สกี รีสอร์ท เทเนะ โดย sapporo-teine.com

สกี รีสอร์ท เทเนะ โดย Shutterstock.com

สกี รีสอร์ท เทเนะ โดย retirementbonus / Shutterstock.com


ซัปโปโรโดม

ซัปโปโรโดม โดย Shutterstock.com

ถือเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คของซัปโปโร ซัปโปโรโดม (Sapporo Dome) สนามกีฬาในร่มขนาดยักษ์ เรียกได้ว่าเป็นสนามกีฬาที่มีความทันสมัยมากที่สุดในญี่ปุ่น ดีไซน์โดดเด่น จุคนได้มากถึง 80,000 ที่นั่ง เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร (Hokkaido Consadole Sapporo) และยังเคยเป็นบ้านของทีมเบสบอลฮอกไกโด นิปปอน-แฮม ไฟเตอร์ส (Hokkaido Nippon-Ham Fighters) ความพิเศษของที่นี่คือหลังคา สามารถเปิดปิดได้ รองรับทุกสภาพอากาศ จึงทำให้สามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้ทุกฤดูกาล อีกทั้งพื้นสนามสามารถสลับหญ้าจากสนามกีฬากลางแจ้งสำหรับฟุตบอลกับเบสบอล โดยใช้เทคโนโลยี Hovering System เคลื่อนย้ายลานฟุตบอลโดยการใช้แรงดันอากาศ นอกจากจะใช้แข่งกีฬาแล้ว ยังรองรับการจัดคอนเสิร์ตต่าง ๆ และงานแฟร์อีกด้วย ในวันไหนที่ไม่มีการแข่งกีฬา​ ซัปโปโรจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพราะภายในมีหอดูดาว, คิดส์พาร์ค และห้องออกกำลังกายเปิดบริการอีกด้วย

📍 สถานที่ : ซัปโปโรโดม (Sapporo Dome), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 17.00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม :

  • Dome Tour Ticket (ตั๋วโดมทัวร์) : ผู้ใหญ่ 1,050 เยน , เด็ก 550 เยน ***หากมีการแข่งขันจะเป็นตั๋วชมการแข่งขัน***
  • Observation Tower Ticket (ตั๋วจุดชมวิว) : ผู้ใหญ่ 1,050 เยน , เด็ก 550 เยน
  • ตั๋วรวม : ผู้ใหญ่ 1,250 เยน , เด็ก 700 เยน

🌎 เว็บไซต์ : sapporo-dome.co.jp
🚆 การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Sapporo ขึ้น Subway Toho Line ลงสถานี Fukuzumi ใช้ทางออก 3 หรือ 4 แล้วเดินเท้าต่อ 500 เมตรเท่านั้น

บรรยากาศภายในซัปโปโรโดม,​ ซัปโปโรโดม โดย sapporo-dome.co.jp

ซัปโปโรโดม โดย 札幌ドーム【公式】

หอดูดาว, ซัปโปโรโดม โดย ミヤケリョウ

วิวเมืองซัปโปโร, ซัปโปโรโดม โดย やんも


จุดชมวิวฮิสึจิงาโอกะ

จุดชมวิวฮิสึจิงาโอกะ โดย さっぽろ羊ヶ丘展望台

จุดชมวิวฮิสึจิงาโอกะ (Hitsujigaoka Observation Hill) ที่โดดเด่นด้วยรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ ดร.วิลเลียม สมิธ คล๊าก (Dr. William Smith Clark) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ดร.คล๊าก บิดาแห่งการพัฒนาฮอกไกโด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจุดชมวิวฮิสึจิงาโอกะเลยล่ะ โดยในอดีตที่นี่เป็นศูนย์วิจัยทางการเกษตรที่มีการเลี้ยงแกะ แต่เนื่องจากมีชาวเมืองมาเยี่ยมชมเยอะจนทำให้การทดลองเสียหาย จึงได้มีการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็นจุดชมวิวขึ้น บนจุดชมวิวสามารถมองเห็นซัปโปโรโดม และเมืองซัปโปโรได้แบบกว้างไกล พร้อมทั้งมีฝูงแกะเล็มหญ้า เบสช็อตสุด ๆ แนะนำให้มาเที่ยวช่วงเดือนกรกฎาคม จะมีการตัดขนแกะเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ฤดูร้อน และมีทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะมีสโนว์พาร์ค มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้คุณได้เพลิดเพลินกับการเล่นหิมะ มีมุมให้เกลือกกลิ้ง มุมสร้างตุ๊กตาหิมะ สโนว์สไลเดอร์ เลื่อนหิมะ และอีกมากมาย ทั้งยังสามารถยืมอุปกรณ์ได้โดยเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย สำหรับโสนว์พาร์คจะทมีแค่ช่วงฤดูหนาวเท่านั้นนะ นอกจากนี้บนจุดชมวิวยังมีหอจดหมายเหตุ,​ ร้านอาหาร, ร้านค้า, พิพิธภัณฑ์, และสถานที่จัดงานแต่ง ถือเป็นจุดชมวิวอีกแห่งที่น่าสนใจ ลิสต์ใส่แพลนเที่ยวของคุณกันได้

📍 สถานที่ : จุดชมวิวฮิสึจิงาโอกะ (Hitsujigaoka Observation Hill), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 300 เยน

🌎 เว็บไซต์ : hitsujigaoka.jp/en
🚆 การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Sapporo ขึ้น Subway Toho Line ลงสถานี Fukuzumi ใช้ทางออก 3 แล้วต่อบัสสาย 84 (ชานชาลา 4) ที่ Fukuzumi Bus Terminal ลงป้าย Hitsujioka Tembodai ค่าโดยสาร 210 เยน ใช้เวลา 10 นาที ***ช่วงเดือนเมษายนและพฤศจิกายน จะมีบัสเส้นทางตรงจากสถานี Sapporo เลย ขึ้นรถสาย 89 ลงป้าย Hitsujioka Tembodai ใช้เวลา 40 นาที

จุดชมวิวฮิสึจิงาโอกะ โดย beeboys / Shutterstock.com

จุดชมวิวฮิสึจิงาโอกะ โดย Suchart Boonyavech / Shutterstock.com

จุดชมวิวฮิสึจิงาโอกะ โดย Shutterstock.com


สวนโมเอะเรนุมะ

สวนสาธารณะโมเอะเรนุมะ โดย MeSamong / Shutterstock.com

สายถ่ายรูปต้องไป สวนสาธารณะโมเอะเรนุมะ (Moerenuma Park) สวนสุดล้ำแบบครบวงจร เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแปลกตามากมาย ออกแบบโดย อิซามุ โนกูจิ (Isamu Noguchi) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1982 แล้วเปิดตัวในปี ค.ศ.1998 มาในคอนเซ็ป Circular Greenbelt ตามแนวคิดทำทั้งหมดให้เป็นประติมากรรมชิ้นเดียว เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในซัปโปโร มีพื้นที่มากกว่า 1,180 ไร่ ประกอบไปด้วย พีระมิดกระจกฮิดะมาริ (Hidamari Glass Pyramid) สัญลักษณ์ประจำสวนโมเอะเรนุมะ ซึ่งถือเป็นส่วนกลางของสวนเลยล่ะ ภายในมีห้องโถงกระจกที่สามารถมองเห็นสวนแบบรอบ ๆ ได้ รวมถึงแกลลอรี่ พื้นที่อเนกประสงค์ ร้านอาหาร และร้านค้า, น้ำพุทะเล (Sea Fountain) น้ำพุใจกลางสวนสูง 25 เมตร ตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟสวยงาม, ภูเขาโมเอะเระ (Mt. Moere) ภูเขาสูง 62 เมตร ปีนขึ้นไปได้ 3 ทิศทาง บน 5 เส้นทางที่แตกต่างกัน ด้านบนจะมองเห็นวิวเมืองซัปโปโรทั้งเมือง, หาดโมเอะเระ (Moere Beach) สระน้ำตื้นที่ปูด้วยปะการัง มีน้ำผุดขึ้นมาจากช่อง สามารถสร้างระลอกคลื่นได้ ชาวเมืองนิยมมาเล่นน้ำในช่วงฤดูร้อน, ป่าต้นซากุระ (Forest of Cherry Trees) โซนสีเขียวที่มีปะติมากรรมเด็กเล่น, เนินเพลย์เมาเทน (Play Mountain) เนินเขาสูง 30 เมตร สามารถเดินเล่น ปั่นจักรยาน และชมวิวได้, เนินเตตร้า (Tetra Mound) พีระมิดทรงสามเหลี่ยมสูง 13 เมตร, อควาพลาซ่า (Aqua Plaza) น้ำไหลออกมาจากอควาพลาซ่าและไหลช้า ๆ ลงสู่คลองยาวประมาณ 150 เมตร ลำธารน้ำตื้น ทำให้สามารถห้อยเท้าและสัมผัสกับน้ำได้ สุดท้ายมิวสิค เชลล์ (Music Shell) ใช้จัดการแสดงต่าง ๆ บอกเลยว่าสวนสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล มานั่งพักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือมาช่วงหน้าหนาวจะมีกิจกรรมฤดูหนาวให้คุรได้สนุกสนานอีกด้วยนะ

📍 สถานที่ : สวนสาธารณะโมเอะเรนุมะ (Moerenuma Park), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00 – 22.00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

🌎 เว็บไซต์ : moerenumapark.jp/english
🚆 การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Sapporo ขึ้น Subway Toho Line ลงสถานี Kanjo dori higashi แล้วต่อบัส Chuo Bus มี 3 สาย คือ 79, 61, 69 โดยสาย 69 กับ 79 จะจอดประตูสวนฝั่งตะวันออก ลงป้าย Moerenuma koen higashiguchi ส่วนสาย 61 จอดประตูฝั่งตะวันตก ลงป้าย Moerenuma koen Nishiguchi

สวนสาธารณะโมเอะเรนุมะ โดย モエレ沼公園

ถ่ายรูปเก๋ ๆ กับเนินเตตร้า, สวนสาธารณะโมเอะเรนุมะ โดย 87 07

มิวสิค เชลล์ และเนินเพลย์เมาเทน, สวนสาธารณะโมเอะเรนุมะ โดย アルフレッド・オオグロ写真財団

น้ำพุทะเล ตอนกลางคืน, สวนสาธารณะโมเอะเรนุมะ โดย バースラ


รูปปั้นโมอาย

รูปปั้นโมอาย โดย llmiimll / Shutterstock.com

ก่อนจะเดินเข้าไปในเนินพระพุทธเจ้า ต้องแวะชมความสวยงามของรูปปั้นโมอายกันก่อน รูปปั้นโมอาย (Moai Statue) ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าสุสานมาโกะมาไนทาคิโนะ สูงเด่นมาแต่ไกล ตั้งเรียงกันกว่า 23 ตัว มีทั้งตัวใหญ่ตัวเล็ก สูง 6.5-9.5 เมตร หนัก 60-120 ตัน เพื่อรอต้อนรับผู้มาเยือนสุสาน โดยคำว่า โม (mo) หมายถึง อนาคต คำว่า อาย (ai) หมายถึง การมีชีวิต ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ประจักษ์พยานของทุกคนสามารถส่งต่อไปยังคนรุ่นหลังได้ตลอดไป โดยรูปปั้นสามารถเดินเข้าไปชมได้แบบใกล้ ๆ เลย มาเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ซึ่งจะให้อารมณ์แตกต่างกัน หน้าร้อนจะมีผืนหญ้าสีเขียว ส่วนหน้าหนาวจะมีเนินหิมะสีขาวโพลนสวยมาก เดินเข้าไปอีกหน่อยจะเจอกับร้านอาหารโมอาย เสิร์ฟอาหารและของหวานเข้าไปชิมกันได้ แถมภายในหลังอาคารร้านอาหารยังมีสโตนเฮนจ์จำลอง ว่ากันว่าเคยเป็นวัดสำหรับนักบวช, หอดูดาวโบราณ และสุสานสำหรับครอบครัวที่มีอำนาจ แต่สโตนเฮนจ์ในสุสานมาโกะมาไนทาคิโนะ เป็นสถานที่สวดมนต์ เข้าได้เฉพะบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่เราถ่ายรูปรอบนอกได้นะ 

📍 สถานที่ : รูปปั้นโมอาย (Moai Statue), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
🌎 เว็บไซต์ : takinoreien.com
🚆 การเดินทาง : เริ่มจากสถานี Sapporo ขึ้นรถไฟสายสีเขียว Namboku Line มุ่งหน้า Makomanai ลงสถานี Makomanai Station แล้วเดินต่อไปยังป้ายรถบัสหมายเลข 2 เพื่อขึ้นรถบัส Chuo Bus สาย 102 หรือ 108 ราคา 370 เยน ลงป้าย Takino Cemetery ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ลงป้ายสุดท้าย

ตั้งเรียงบริเวณทางเข้า, รูปปั้นโมอาย โดย Anucha Cheechang / Shutterstock.com

รูปปั้นโมอาย โดย THONGCHAI.S / Shutterstock.com

ช่วงหน้าหนาว, รูปปั้นโมอาย โดย junjunejun


เนินพระพุทธเจ้า

เนินพระพุทธเจ้า โดย Nattakit Jeerapatmaitree / Shutterstock.com

มาเที่ยวซัปโปโรไม่มาที่นี่ไม่ได้ ถือเป็นฮอตสปอตยอดนิยมที่ใครมาแล้วต้องถ่ายรูป สถานที่เดียวกับรูปปั้นโมอายเลย กับ เนินพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) ตั้งอยู่ในสุสานมาโกะมาไน ทาคิโนะ ออกแบบโดยสถาปนิกชั้นนำชาวญี่ปุ่น ทาดาโอะ อันโดะ (Tadao Ando) เป็นศาลเจ้าในพุทธศาสนา มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งตระหง่าน สูงถึง 13.5 เมตร ครอบด้วยเนินเขาเทียม โดยเราสามารถเห็นเศียรพระใหญ่โดดเด่นมาแต่ไกล เมื่อเราเดินไปยังรูปปั้นจะทำให้เราจินตนาการว่าส่วนเหลือจะมีหน้าตาเป็นยังอย่างไร เมื่อเดินมาถึงเราต้องเข้าไปยังอุโมงค์ จะเจอกับพระพุทธรูปกึ่งกลางแจ้งองค์ใหญ่ ข้าง ๆ มีตู้ค้นหาดวงชะตา 200 เยน และแผ่นไม้อธิษฐาน 800 เยน หากมาเที่ยวช่วงเดือนกรกฎาคม ดอกลาเวนเดอร์บนเนินกว่า 150,000 ต้น จะออกดอกสีม่วงบานสะพรั่ง สร้างความสวยงามยิ่งนัก แถมช่วงนี้ยังมีเส้นทางบนเนินเปิดให้เดินขึ้นไปชมรูปปั้นแบบใกล้ ๆ อีกด้วย ทั้งบริเวณทางเข้ายังมีคาเฟ่และร้านจำหน่ายของที่ระลึก สามารถเข้าไปจิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ หรือเลือกซื้อของที่ระลึกกันได้ หากมาเที่ยวช่วงหน้าหนาวก็จะได้คนละฟีลเลยล่ะ สวยไปอีกแบบ

📍 สถานที่ : เนินพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 300 เยน/คน จะมีตู้ให้ชำระด้านหน้า (แล้วแต่ศรัทธา)
🌎 เว็บไซต์ : takinoreien.com
🚆 การเดินทาง : เริ่มจากสถานี Sapporo ขึ้นรถไฟสายสีเขียว Namboku Line มุ่งหน้า Makomanai ลงสถานี Makomanai Station แล้วเดินต่อไปยังป้ายรถบัสหมายเลข 2 เพื่อขึ้นรถบัส Chuo Bus สาย 102 หรือ 108 ราคา 370 เยน ลงป้าย Takino Cemetery ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ลงป้ายสุดท้าย

เศียรพระใหญ่เด่นมาแต่ไกล, เนินพระพุทธเจ้า โดย Shutterstock.com

ดอกลาเวนเดอร์บานสวยมาก, เนินพระพุทธเจ้า โดย Tanasut Chindasuthi / Shutterstock.com

เดินลอดอุโมงค์ไปยังพระใหญ่, เนินพระพุทธเจ้า โดย Shutterstock.com

พระใหญ่สูง 13.5 เมตร, เนินพระพุทธเจ้า โดย Club4traveler / Shutterstock.com

บริเวณทางเข้า, เนินพระพุทธเจ้า โดย Shutterstock.com


โจซังเค ออนเซ็น

ใบไม้เปลี่ยนสี, โจซังเค ออนเซ็น โดย SeanPavone (envato)

แหล่งออนเซ็นในซัปโปโร โจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Onsen) เมืองน้ำพุร้อนกลางหุบเขา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ โดยอยู่บริเวณช่วงหน้าผาสูงกับแม่น้ำโทโยฮิระ บรรยากาศธรรมชาติสุด ๆ มีทั้งภูเขา ต้นไม้ และแม่น้ำ แต่ละฤดูกาลก็จะได้ฟีลที่แตกต่างกันไป แนะนำเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือดีที่สุด ทิวทัศน์ที่ได้เห็นจะงดงามมาก ใบสีเหลืองส้มแดงแต่งแต้มสีสัน นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของฮอกไกโดเลยล่ะ โจซังเคสามารถเที่ยวได้ทั้งแบบวันเดย์ทริป มาเช้าเย็นกลับ หรืออยากจะนอนค้างแช่ออนเซ็นสักคืนก็ดีเลยนะ เพราะน้ำพุร้อนของที่นี่มีแร่ธาตุหลายชนิด ดีต่อผิว และยังช่วยผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าได้ดีทีเดียว สำหรับโจซังเคมีจุดน่าสนใจหลายที่เลย เด่น ๆ เลย คือ สะพานฟุตะมิสึริ (Futamitsuri Bridge) สะพานแดงที่ใครมาก็ต้องถ่ายรูป แถมยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่ออีกต่างหาก ทั้งในช่วงฤดูร้อนจะมีการจัดงาน Jozankei Nature Luminarie การแสดงแสงไฟและการฉายภาพบนเส้นทางเดินธรรมชาติอีกด้วย, สวนฟุตะมิสึริ สวนริมแม่น้ำโทโยฮิระ มีรูปปั้นกัปปะ สัญลักษณ์ของโจซังเคออนเซ็น, สวนโจซังเคเก็นเซ็น (Jozankei Gensen Park) สวนที่มีบ่อออนเซ็นเท้า และเขื่อนโฮเฮเคียว (Hoheikyo Dam) 1 ใน 100 เขื่อนสวยของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้รอบ ๆ จะเปลี่ยนสีสวยงามเกิดเป็นทิวทัศน์ที่น่าประทับใจ

📍 สถานที่ : โจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Onsen), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน
🎟️ ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
🌎 เว็บไซต์ : jozankei.jp/en
🚆 การเดินทาง : ขึ้นรถบัสด่วนพิเศษ Kappa Line จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ซื้อตั๋วที่ชานชาลา 12 คนละประมาณ 790 เยน (รถบัสหมายเลข 7 หรือ 8) รถออกชั่วโมงละ 2-3 คัน ใช้เวลาในการเดินทางมายังโจซังเคออนเซ็น 60 นาที

สะพานฟุตะมิสึริ, โจซังเค ออนเซ็น โดย Shutterstock.com

รูปปั้นกัปปะ, โจซังเค ออนเซ็น โดย BoonritP / Shutterstock.com

ช่วงฤดูหนาว, โจซังเค ออนเซ็น โดย Shutterstock.com

เขื่อนโฮเฮเคียว, โจซังเค ออนเซ็น โดย Shutterstock.com


หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด

บรรยากาศหมู่บ้าน, หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด โดย Shutterstock.com

สถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด (Historical Village of Hokkaido) ตั้งอยู่ในบริเวณสวนป่าโนปโปโระ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งฮอกไกโด เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์จากหลายพื้นที่ ซึ่งได้ทำการย้ายมารวมไว้ที่นี่และมีการบูรณะซ่อมแซม โดยบอกเล่าเรื่องราวของฮอกไกโดตั้งแต่ยุคเมจิจนถึงยุคโชวะ เพื่อรักษาทรัพย์สินทางวัฒนธรรมไว้สำหรับคนรุ่นต่อไป ประกอบไปด้วยอาคาร 52 หลัง แบ่งเป็น 4 โซน คือ ตัวเมือง, หมู่บ้านชาวประมง, หมู่บ้านเกษตร, และหมู่บ้านภูเขา ซึ่งอาคารแต่ละหลังมีความโบราณมาก บอกเลยว่าเหมือนกลับไปอยู่ในยุคอดีตเลย หากไปเที่ยวช่วงฤดูร้อนจะมีรถรางเลื่อนเทียมให้นั่งชม ส่วนช่วงฤดูหนาวจะเป็นสกีเทียม ทั้งคู่ลากโดยน้องม้า ซึ่งให้บรรยากาศย้อนยุคได้ดีทีเดียว ใครที่ชอบเที่ยวแนวนี้ไม่วรพลาดเลย

📍 สถานที่ : พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านฮอกไกโด (Historical Village of Hokkaido), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เดือนพฤษภาคม-กันยายน เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น. และเดือนตุลาคม-เมษายน เปิดบริการ เวลา 09.00 – 16.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
🎟️ ค่าเข้าชม : มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 800 เยน นักเรียน ม.ปลาย

🌎 เว็บไซต์ : kaitaku.or.jp/en
🚆 การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Sapporo ขึ้น JR Hakodate Line ลงสถานี Shinrinkoen แล้วต่อบัสสาย 22 ลงป้ายสุดท้าย Kaitaku-no-mura

หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด โดย MEAREENA TRAYRER / Shutterstock.com

รถรางเลื่อนเทียม, หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด โดย Andreas H / Shutterstock.com

หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด โดย shikema / Shutterstock.com

หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด โดยAndreas H / Shutterstock.com


สวนป่าโนปโปโระ

สวนป่าโนปโปะโระ โดย 青木高洋

ปิดท้ายด้วย สวนป่าโนปโปโระ (Nopporo Forest Park) สวนธรรมชาติประจำจังหวัดฮอกไกโด ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์การบุกเบิกของฮอกไกโด เป็นป่าที่ราบขนาดใหญ่ในเขตชานเมือง ปกคลุมพื้นที่ถึง 3 เมือง คือ ซัปโปโร, อีเบทสึ และคิตะฮิโรชิมะ  มีสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย รวมถึงป่าธรรมชาติ, ทุ่งหญ้า, ลำธาร, และสระน้ำที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติตามฤดูกาล มีเหล่านกป่า สัตว์ แมลง และดอกไม้นานาพันธุ์ เราสามารถเดินเล่นชมธรรมชาติ มองหาหลุมนกหัวขวาน ดูรอยเท้าสัตว์ในช่วงฤดูหนาว ดูไข่กบและซาลาแมนเดอร์ในแอ่งน้ำและลำธาร ให้ธรรมชาติเชียวเยียวยาจิตใจ นอกจากนี้บริเวณสวนป่ายังมีหมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด, ศูนย์แลกเปลี่ยนธรรมชาติ และหมู่บ้านผู้บุกเบิกอีกด้วย

📍 สถานที่ : สวนป่าโนปโปโระ (Nopporo Forest Park), ซัปโปโร, ฮอกไกโด
⏱️ เวลาทำกา : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น. (ปิดช่วงฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนเมษายน)
🎟️ ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

🌎 เว็บไซต์ : pref.hokkaido.lg.jp
🚆 การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Sapporo ขึ้น JR Hakodate Line ลงสถานี Shinrinkoen ใช้ทางออก East แล้วต่อบัสสาย 22 ลงป้าย Nopporo Forest Park

สวนป่าโนปโปะโระ โดย ・たくしさん

สวนป่าโนปโปะโระ โดย Shutterstock.com

นกฮูก, สวนป่าโนปโปะโระ โดย 虎徹

แผนที่สวน, สวนป่าโนปโปะโระ โดย 佐藤文彦


เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด เที่ยวแค่เมืองนี้เมืองเดียวก็เล่นเอาเหนื่อยเลยเนอะ แต่มันก็คุ้มนะ ได้ใช้เวลาดีๆ กับผู้ร่วมทริป ได้พักผ่อนหย่อนใจ เรียกได้ว่า ไปเที่ยวเมืองซัปโปโรที่เดียว ได้เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ทั้งไหว้พระ ชมธรรมชาติ เล่นสกี ทานอาหารทะเลสดๆ เดินเล่นในสวนสาธารณะ ชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ สัมผัสอากาศหนาว ชมความสวยงามของเทศกาลหิมะ อันนี้ต้องไปให้ตรงช่วงนะคะ ต้องดำเนินการจองล่วงหน้าเยอะๆ หน่อยนะคะ เพราะในช่วงนั้นนักท่องเที่ยวจะเยอะมาก แล้วค่าที่พัก ค่าตั๋วอะไรต่างๆ ก็จะมีราคาเพิ่มขึ้นด้วย คราวหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่เมืองไหนของญี่ปุ่น ก็รอติดตามกันดูนะคะ

สามารถกดติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ : CheckInChill คอยติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก กับเช็คอินชิลล์กันด้วยนะคะ ขอบคุณค่า 💗

โพสต์นี้มีประโยชน์มากน้อยเพียงใด?

กดที่ดาวเพื่อให้คะแนน 🔻

คะแนนเฉลี่ย / 5. จำนวนโหวต:

คุณเป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้?

ขออภัย! หากหัวข้อนี้ไม่ถูกใจคุณ

ช่วยบอกเราได้ไหมว่ามีส่วนไหนที่ต้องแก้ไข

แสดงความคิดเห็น

Klook.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า