15 ที่เที่ยวฮอกไกโด 2025 เก็บทุกจุดแลนด์มาร์ค บรรยากาศฟิ้นฟิน

ฮอกไกโด จังหวัดยอดฮิตของใครหลาย ๆ คนที่อยากมาเที่ยวในญี่ปุ่น เป็นเกาะที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย สามารถเที่ยวได้ทุกเมืองไม่ว่าจะเป็น ซัปโปโรเมืองที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด อาซาฮิคาวะเมืองที่โด่งดังมาจากการเดินพาเหรดของนกเพนกวินสุดน่ารัก และยิ่งมาในช่วงฤดูหนาวล่ะก็… บอกได้คำเดียวเลยว่า ฟิน จนไม่อยากจะกลับ! ไม่ว่าจะอยู่ในอุณหภูมิที่ติดลบ หรือ หิมะตกโปรยปราย แต่เห็นที่เที่ยวแล้ว หนาวแค่ไหนก็พร้อมสู้ค่ะ สวรรค์ของชาวเมืองร้อนอย่างคนไทยชัด ๆ วันนี้พวกเรา CheckInChill จึงอยากพาทุกท่านมาเที่ยวชม 15 ที่เที่ยวฮอกไกโด เก็บทุกจุดแลนด์มาร์ค บรรยากาศฟิน ๆ

สถานีรถไฟซัปโปโร (Sapporo Station)

มาเริ่มกันที่แรกที่ สถานีรถไฟซัปโปโร (Sapporo Station) ตั้งอยู่ในเขตคิตะ ถือว่าเป็นสถานีรถไฟที่มีความเก่าเเก่ เเละเป็นอาคารหลังเเรก ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองซัปโปโร เนื่องจากเป็นจุดที่รถไฟเชื่อมต่อมาจากเกาะใหญ่ฮอนชู สิ้นสุดที่นี่ในยุคนั้น เเละเป็นเส้นทางในการขนวัสดุก่อสร้างเมืองซัปโปโรต่าง ๆ มาที่นี่ โดยตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรในปัจจุบัน โอบล้อมไปด้วยอาคารสูงมากมาย เคยมีการซ่อมเเซมตัวสถานีล่าสุดเมื่อปี ค.ศ.2003 เเละมีการสร้างตัวอาคารสถานีใหม่เเต่ก็ยังคงอาคารสมัยปี ค.ศ. 1800 เอาไว้อีกด้วย เเละกลายเป็นเเหล่งช็อปปิ้งที่สำคัญในปัจจุบันชื่อ Daimaru ที่มีทั้งของแบรนด์เนม รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และในชั้นล่างสุดใครที่เป็นสาวกขนมหวานทั้งหลายต้องถูกใจสิ่งนี้ ที่นี่มีขนมให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะกินเองหรือซื้อฝาก คนได้รับเป็นยิ้มแน่นอนค่ะ ขนมที่ต่อแถวกันยาว ๆ หรือหายาก ๆ ที่ไดมารุขนมาหมด และห้าง Sapporo Stellar Place เดินช้อปปิ้งกันให้เพลินๆเลือกซื้อเสื้อผ้า มีทั้งแบรนด์โลคอลไปจนถึงแบรนด์ระดับโลก เดินเลือกกันให้ขาหลุดได้เลยค่ะ ของลดราคาเยอะมาก และที่สำคัญทั้งสองห้างนี้สามารถทำเรื่อง Tax Free สำหรับนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย ใครที่แวะมาเปลี่ยนสถานีที่นี่ แนะนำให้มาเดินเล่นที่ทั้งสองห้างนี้ก่อนนะคะ

📍 ชื่อสถานที่ : สถานีรถไฟซัปโปโร เขตคิตะ ซัปโปโร ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น 
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 05.00 – 24.00 น.
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +81112226131
🔎 เว็บไซต์ : jrhokkaido.co.jp
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/DyCnh52x5BZKZuqy7

ย่านซูซูกิโนะ (Susukino)

หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นรูปผ่าน ๆ ตา แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน ภาพมันดูสวยครบเครื่องเหมือนแต่งภาพเหลือนเกิน โดดเด่นเห็นทุกที่ด้วยป้ายวิสกี้ Nikka มุมไฮไลท์โดดเด่นของย่านนี้ ใครไปใครมาก็จะต้องถ่ายรูปคู่กับป้ายแห่งนี้ ย่านซูซูกิโนะ (Susukino) ถือว่าเป็นศูนย์รวมความบันเทิงขนาดใหญ่ในทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ มาปล่อยจอย ปล่อยใจสัมผัสบรรยากาศการสังสรรค์สไตล์คนญี่ปุ่นและช้อปปิ้งให้ล้นมือกันที่ตลาดทานูกิโคจิ (Tanukikoji) จะเข้าผับ บาร์ ร้านอาหาร ร้องคาราโอเกะ รวมไปถึงร้านที่เต็มไปด้วยตู้คีบตุ๊กตา ที่จ้องจะกินเหรียญในกระเป๋าตังค์คุณอยู่ทุกเมื่อ ส่วนใครที่ปาร์ตี้หรือเดินช้อปปิ้งจนเหนื่อย แวะทานอาหารกันก่อน ย่านนี้ก็มีร้านอาหารให้เลือกทานเยอะมาก ๆ มีทั้งร้านทาโกยากิ ที่ได้กินตอนทำมาใหม่ ๆ คืออร่อยลวกปากแบบสุด ๆ ไปเลย หรือ จะเป็นราเมงร้านดังที่คนรอต่อแถวยาวอย่างกับหางว่าว ถ้าได้ลองแล้วจะบอกเลยว่าสมกับที่รอคอย ส่วนใครที่ไม่อยากรอก็ยังมีร้านอาหารอื่น ๆ ที่ทั้งราคาถูกและไม่ต้องรอคิวนานอยู่อีกหลายร้าน เลือกทานได้ตามใจชอบได้เลย ถ้ามาในช่วงหน้าหนาว พื้นที่ในย่านซูซูกิโนะแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลน้ำแข็งอีกด้วยนะ อยากชมประติมากรรมน้ำแข็งแบบสวย ๆ ก็ที่นี่เลยค่ะ บอกเลยว่าช่วงเทศกาลบริเวณนี้จะคึกคักเป็นพิเศษ บรรยากาศครื้นเครงน่าสรุกสุด ๆ เลย 

📍 ชื่อสถานที่ : ย่านซูซูกิโนะ เขตชูโอ ซัปโปโร ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/1khnDiHGtGW6neuD8

ภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa)

ภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa) เป็นภูเขาที่มีความสวยงาม ถึงเเม้ว่าจะมีขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จากใจกลางเมืองซัปโปโร เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งจากบรรดาชาวเมืองซัปโปโรเเละนักท่องเที่ยว ในการมาชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเเห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินนั้นถือเป็นช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมในการมาเที่ยวชมมากที่สุด การขึ้นมายังภูเขาโมอิวะ สามารถใช้บริการของกระเช้าซึ่งจะขึ้นไปที่ความสูง 3 ใน 4 ของความสูงภูเขา จากนั้นนักท่องเที่ยวต้องมาเปลี่ยนใช้บริการมินิเคเบิ้ลคาร์ เพื่อขึ้นไปยังสถานีบนยอดเขา ซึ่งบริเวณยอดเขานั้นจะมีดาดฟ้าสำหรับชมวิวทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรได้อย่างสวยงามเต็มตาอีกด้วย พร้อมทั้งยังมีร้านอาหาร ร้านไอศกรีมไว้พร้อมบริการ ทำให้เป็นอีกจุดที่มีนักท่องเที่ยวเเละชาวเมืองซัปโปโรขึ้นมาดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้เเล้วก็ยังมี อาคารที่เป็นท้องฟ้าจำลองเเละเป็นที่ตั้งของโรงละครอีกด้วยนะคะ นับว่ามีหลายจุดที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ถ้ามีโอกาสหรือเวลาว่างขึ้นมาเถอะค่ะ สวยงามคุ้มกับการแวะเที่ยวแน่นอน

📍 ชื่อสถานที่ : ภูเขาโมอิวะ เขตมินามิ ซัปโปโร ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 10.30 – 22.00 น.
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +81115618177
🔎 เว็บไซต์ : mt-moiwa.jp
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/4kn43FugGpxeu52C8

ตลาดนิโจ (Nijo Market)

ตลาดนิโจ (Nijo Market) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เเละเป็นอีกหนึ่งเเหล่งท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจเเละน่ามาเดินเล่นเที่ยวชม โดยมีอาณาบริเวณครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 บล็อค เเละมีสินค้ามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เเล้วจะเป็นอาหารทะเลที่มีหลากหลายชนิดให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเลือกหากัน โดยตลาดเเเห่งนี้มีความพิเศษตรงมันเป็นตลาดที่ชาวเมืองซัปโปโรใช้บริการจับจ่ายใช้สอยอาหารทะเลต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของวิถีชีวิตประจำวันของชาวเมืองซัปโปโร นับว่าเป็นอีกหนึ่งในตลาดท้องถิ่นที่มีมนต์เสน่ห์เเละน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ตลาดนิโจนั้นก่อตั้งมาตั้งเเต่ปี ค.ศ. 1903 มีความเก่าเเก่ เเละมีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมในสมัยเมจิอย่างมากมาย โดยมีสินค้าทางทะเลเป็นอาหารทะเลสดๆ ที่มีความน่าสนใจอย่าง หอยเม่นทะเล, ไข่ปลาแซลมอน, ปู เเละปลาทะเลสดๆ นานาชนิด ถึงเเม้ว่าคุณจะไม่สามารถซื้อกลับไปได้ เเต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ หากจะมาสัมผัสกับความคึกคักของตลาดเเห่งนี้ เเละเป็นอีกจุดที่สามารถมาชมวิถีชีวิตปกติของชาวญี่ปุ่นได้อีกด้วย ตลาดนิโจเปิดบริการ เวลา 07.00 – 18.00 น. ร้านอาหารเปิด เวลา 07.00 – 21.00 น. โดยเวลาเปิดปิดของเเต่ละร้านนั้นก็จะมีความเเตกต่างกันออกไป เเละที่น่าสนใจก็คือมีร้านอาหารอยู่หลายร้านที่มีเมนูเป็นอาหารทะเล จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในการมาลิ้มลองรสชาติ โดยจะอยู่บริเวณตรอกเเคบ ๆ ที่ชื่อว่า ‘Noren Yokocho’ โดยมีร้านตั้งเรียงรายกันอยู่อย่างมากมายหลายร้าน เเละมีเมนูที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างยิ่ง คือ Uni ikura donburi ซึ่งจะมีลักษณะเป็นข้าวที่เสิร์ฟมาพร้อมกับหอยเม่นทะเลและไข่ปลาแซลมอน รสชาติอูมามิ อร่อยแสงออกปากมาก ใครสายปลาสด ๆ หวาน ๆ ต้องห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาด 

📍 ชื่อสถานที่ : ตลาดนิโจ
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 07.00 – 17.00 น.
📞 เบอร์โทรศัพท์ : 011-222-5308
🔎 เว็บไซต์ : nijomarket.com
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/at48j1rfVyHM7dM2A

โมอาย ฮอกไกโด (Makomonai Takino)

ไม่ต้องไปถึงชิลี เพราะฮอกไกโดก็มีโมอายเหมือนกัน โมอาย ฮอกไกโด (Makomonai Takino) อย่างที่ทราบกันดีว่าในประเทศชิลี โมอายเป็นรูปปั้นคนทำมาจากหินศักดิ์สิทธิ์ที่มีวางกระจายอยู่ทั่วเกาะอีสเตอร์ ด้วยเหตุนี้เองที่โมอายได้ถูกนำมาวางเรียงกันที่สุสานชื่อดังแห่งนี้ โดยพื้นที่รอบ ๆ ของโมอายฮอกไกโด จะเป็นพื้นที่ของสุสานทั้งหมด แต่ไม่ได้ดูน่ากลัวอย่างที่คิดเป็นสุสานที่สวยงามมาก ในหน้าร้อนและหน้าฝน บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่โล่งมีหญ้าสีเขียวที่อุดมสมบูรณ์ จะเห็นรูปปั้นโมอายทั้ง 33 ตัว ยืนเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ถ่ายรูปออกมาแล้วภาพส้วยสวย ทั้งแสงที่ส่องลงมาทั้งสภาพแวดล้อมรอบด้าน รับกันไปหมด แต่ถ้ามาในช่วงหน้าหนาวจะได้อีกฟีลหนึ่ง เป็นแบบหิมะสีขาวปกคลุมทั่วทุกพื้นที่โล่งขาวโพลน เหมือนอยู่ในโลกของหิมะ ส่วนหัวและไหล่ทั้งสองข้างของโมอาย จะเต็มไปด้วยหิมะที่เกาะอยู่ เป็นบรรยากาศที่สวยไปคนละแบบกับฤดูอื่นเลย ด้านหลังของโมอายยังมีหินจำลองของ Stonehenge ประติมากรรมก้อนหินที่เหมือนของจริงที่ประเทศอังกฤษมาก ๆ อีกด้วยนะคะ เรียกว่า มาที่เดียวเหมือนได้เที่ยวตั้ง 2 ที่ดังเลยแหนะ

📍 ชื่อสถานที่ : โมอาย เขตมินามิ ซัปโปโร ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น 
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 09.00 – 16.00 น.
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +81115921223
🔗 Facebook : 真駒内滝野霊園 
🔎 เว็บไซต์ : takinoreien.com
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/PNdd7Qzca9b297Eg6

เนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha)

หันหลังจากโมอาย ฮอกไกโด มาสักนิดจะพบกับ เนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) เนินเขาสูงล้อมรอบองค์พระพุทธเจ้า ปกคลุมไปด้วยทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงเหลือไว้เพียงแต่เศียรให้มองเห็นจากภายนอกเท่านั้น ในบริเวณนี้ก็เป็นพื้นที่ของสุสานเช่นกัน แต่เป็นบรรยากาศของสุสานที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ ได้ฟีลวิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์อย่างที่คนชอบพูดกัน ของจริงมันเป็นแบบนี้นี่เอง จังหวะนี้แหละเก็บภาพกันก่อน ที่จะเดินเข้าด้านใน ในทางเข้าด้านหน้าจะพบกับกล่องบริจาค เพื่อเป็นคนบำรุงรักษา ตามกำลังศรัทธาได้เลยค่ะ เดินเข้ามาด้านในต้องตะลึงกับพระพุทธรูปขนาดใหญ่ สูง 13.5 เมตร ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อดังระดับโลกอย่าง Tadao Ando ที่เน้นความมินิมอลและความเรียบง่าย แต่บอกเลยว่าของจริงสวยจึ้งตาแตก ด้านข้างของพระพุทธรูปจะมีจุดเสี่ยงเซียมซี เพียงแค่หยอดเหรียญ 200 เยน แล้วใช้มือหยิบกระดาษเซียมซีขึ้นมาได้เลย ในกระดาษนี้จะมีทั้งภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น และจีน ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวเป็นที่สุด ถ้าใครหยิบมาแล้วรู้สึกว่าไม่โอเคกับตัวเองเลย เขามีจุดที่สำหรับฝากเซียมซีไว้ที่นี่นะเอามาแขวนกันได้เลยจ้า ก่อนกลับแวะคาเฟ่ด้านหน้ากันสักหน่อย กลิ่นกาแฟหอมมาแต่ไกล นั่งพักชิลล์ ๆ พร้อมทานขนมก่อนที่จะเดินกลับไปขึ้นรถบัสกันสักนิด มาช่วงฤดูร้อนได้ฟีลนึง มาช่วงฤดูหนาวก็ได้อีกฟีลหนึ่ง

📍 ชื่อสถานที่ : เนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า เขตมินามิ ซัปโปโร ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 09.00 – 16.00 น.
📞 เบอร์โทรศัพท์ : 011-592-1223
🔗 Facebook : 真駒内滝野霊園 
🔎 เว็บไซต์ : takinoreien.com
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/oi3TqFr4syJZoW1G8

นิเซโกะ สกีรีสอร์ท (Niseko Village Ski Resort)

นิเซโกะ วิลเลจ สกี รีสอร์ท (Niseko Village Ski Resort) สกีรีสอร์ทในนิเซโกะ สวรรค์ของผู้รักกิจกรรมกลางแจ้ง ชื่นชอบธรรมชาติ ได้รับการยอมรับในสากล มาพร้อมวิวที่งดงามของภูเขา Yotei ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า พื้นที่เล่นสกีกว่า 2,191 เอเคอร์ มีเนินที่กว้างใหญ่ พาวเดอร์สโนว์ที่ขึ้นชื่อ เส้นทางที่ยาวกว่า 47 กิโลเมตร และถูกตกแต่งอย่างดี ซึ่งเหมาะกับผู้เล่นทุกระดับ ตั้งแต่ระดับง่าย ไปจนถึงยาก บางจุดมีความลาดชัน เหมาะกับผู้มีทักษะ ส่วนระดับเริ่มต้น บริเวณตีนเขา มีสโลปที่นุ่มนวล ซึ่งเหมาะกับผู้เล่นบีกินเนอร์ (ดู Trail Map Niseko Village) มีบริการกระเช้าลิฟต์ และกอนโดลา เพื่อขึ้นไปถึงยอดเขา Annupuri โดยนิเซโกะวิลเลจถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ สำหรับนักสกี มีโรงเรียนสอนสกี ทิวทัศน์ที่สวยงาม และบรรยากาศน่ารื่นรมย์ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมหน้าหนาวอื่น ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ทั้งนั่งสโนว์โมบิล, นั่งลากเลื่อนกวางเรนเดียร์ และอีกมากมาย อีกทั้งที่ยังเป็นหนึ่งในสกีรีสอร์ทของ Niseko United (ดู Trail Map Niseko United) จึงสามารถไปยัง Niseko Grand Hirafu ได้โดย Niseko Gondola ส่วน Niseko Annupuri สามารถไปได้โดย Wonderland Chair Lift

📍 ชื่อสถานที่ : นิเซโกะ วิลเลจ สกี รีสอร์ท เมืองนิเซโกะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น 
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 08.00 – 16.30
🔗 Facebook : Niseko Village 
🔎 เว็บไซต์ : niseko-village.com
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/RBTsrDV5z44DgU2w7

ทะเลสาปชิโกสึ (Lake Shikotsu)

ทะเลสาปชิโกสึ (Lake Shikotsu) อยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโกสึโทย่า ขับรถออกมาเพียงแค่ 40 นาทีจากซัปโปโร สามารถไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริปได้ ก็จะได้สัมผัสความสวยงามของทะเลสาป น้ำใส มีแบรคกราวด์เป็นภูเขาเป็นภูเขาไฟชื่อทารูเมะ ที่เกิดการปะทุครั้งล่าสุดเมื่อปีค.ศ.1981 ตัดกับแสงพระอาทิตย์ตรงกลาง เหมือนกับภาพวาดในตอนเด็กอย่างใดอย่างนั้น ถ่ายรูปออกมานึกว่าภาพตัดแปะ เพราะวิวมันสวยเกินกว่าที่จะเป็นของจริง กิจกรรมที่ทะเลสาปยังมีให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพายเรือแคนู เรือคายัค เดินป่ารอบทะเลสาป แช่บ่อน้ำพุร้อน ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวระหว่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ที่นี่จะจัดงาน Snow Festival โดยการเอาน้ำจากทะเลสาปมาสร้างเป็นประติมากรรมน้ำแข็งไว้มากมาย หลายรูปแบบให้เราถ่ายรูปสวย ๆ ค่าบริการคนละ 500 เยน ในตอนกลางคืนก็จะเปิดไฟเล่นสีสันสวยงาม และมีการจุดพลุไฟถึง 300 ดอก และรอบ ๆ ยังมีร้านค้าที่ขายของที่ระลึก ร้านอาหาร แวะทานทาโกยากิร้อน ๆ ก่อนกลับสักหน่อย ฟินแน่ ขากลับแนะนำให้ขับรถกลับเรียบแนวทะเลสาปนะคะ จะได้วิวที่สวย แบบส๊วยย! ตะโกน จนต้องหยุดรถถ่ายรูป มาในช่วงเย็น ๆ แล้วขับรถกลับตอนพระอาทิตย์กำลังตก แสงโรแมนติกกระทบตา สวยแบบลืมหายใจได้เลยแม่ เป็นประสบการ์เที่ยวทะเลสาปชิโกสึที่อบอุ่นและสวยงามมาก แม้อากาศจะหนาวแค่ไหน ก็เหมาะที่จะมา

📍 ชื่อสถานที่ : ทะเลสาปชิโกสึ เมืองชิโตเซะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 07.00 – 17.00 น.
🔎 เว็บไซต์ : shikotsu-ship.co
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/JriUKvuLJHxJPhwRA

คลองโอตารุ (Otaru)

คลองโอตารุ (Otaru) สถานที่โด่งดังที่สามารถเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แลนด์มาร์คยอดนิยมของฮอกไกโดที่ใครมาแล้วจะต้องห้ามพลาด ประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 แต่ก่อนเป็นท่าเรือที่ใช้สำหรับขนถ่ายสินค้า และได้รับการบูรณะให้สวยงามและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน โกดังที่อยู่ริมคลองก็ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์, ที่จอดรถ, ร้านค้า, ร้านอาหาร เหมาะกับการมาเดินเล่นชิลล์ ๆ หาของทานเล่น มาตามรอยหนังกันสักหน่อย อย่าลืมแวะพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีชื่อดังที่ถ่ายทำภาพยนต์แฟนเดย์ ถ่ายรูปคู่กับคลองโอตารุบนสะพานเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต มุมฮอต ผู้คนจะพลุกพลานในช่วงตอนเย็นจนไปถึงกลางคืน และไฮไลท์ของที่นี่คือการนั่งเรือล่องไปตามคลองโอตารุ ชมความสวยงามของสองข้างทาง โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ส่วนใครที่อยากทานอาหารทะเลญี่ปุ่นแบบสด ๆ ก็แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ มีหลากลายร้านให้เลือกสรรค์ ร้านเด่น ร้านดังมาหมด ฤดูไหนก็แนะนำ อีกหนึ่งสถานที่ที่มาฮอกไกโดแล้วไม่ควรพลาดเลยค่ะ 

📍 ชื่อสถานที่ : คลองโอตารุ เขตโยอิจิ ซัปโปโร ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
🔎 เว็บไซต์ : visit-hokkaido.jp
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/jx9c16QaXoPeGzc5A

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ (Otaru Aquarium)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ (Otaru Aquarium) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเก่าแก่ในเมืองโอตารุที่สร้างตั้งแต่ปี 2502 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมสตว์น้ำทะเล ไว้มากถึง 5000 ชนิด ใน 250 สายพันธุ์ ที่นี่เป็นที่เดียวในประเทศญี่ปุ่นที่มีการแสดงโชว์ปลาโลมาแสนรู้ ที่จะทำให้ทุกคนตะลึงไปกับความสามารถของน้อง ๆ ที่ทำได้ทั้งกระโดดหมุนตัวกลางอากาศ โบกครีบบ๊ายบาย ส่งเสียง โชว์ปลาโลมาจบก็พบกับโชว์ของเจ้าแมวน้ำอุ๋ง ๆ สุดน่ารัก เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากผู้ชมได้ไม่น้อยเลย พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ยังมีการแสดงโชว์เดินพาเหรดของเหล่าเพนกวิน ที่นี่จะมีทางเดินเล็ก ๆ สำหรับเหล่าเพนกวินให้เดินเป็นแถว สามารถชมได้อย่างใกล้ชิด ถ่ายรูป ถ่ายวีดิโอได้ แต่ห้ามจับตัวน้อง ๆ นะ เป็นการแสดงโชว์ที่ได้เสียงตอบรับจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะว่า น้อยมากที่จะได้ใกล้ชิดกับเจ้านกเพนกวินได้ใกล้ขนาดนี้ น่ารักนุ้บนิบมาก น้องพาหันเดินเป็นระเบียบสุด ๆ 

📍 ชื่อสถานที่ : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ โอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 09.00 – 17.00 น.
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +81-134-33-1400
🔎 เว็บไซต์ : otaru-aq.jp
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/EcQhKyRcgojXaVUu6

หุบเขานรก (Jigokudani Noboribetsu)

หุบเขานรก (Jigokudani Noboribetsu) หุบเขาชื่อดัง วิวสวยเต็มสิบ เข้ามาในเขตโนโบริเบทสึก็เริ่มขนลุกด้วยการต้อนรับจากยักษ์ตัวใหญ่สีแดง ยืนต้อนรับอยู่หน้าทางเข้า บวกกับกลิ่นของกำมะถันที่ยิ่งใกล้ยิ่งชัดขึ้นมาเรื่อย ๆ แสดงให้เราได้รู้ว่าเรามาถึงแล้วหุบเขานรก ที่มีความยาวกว่า 450 เมตร ในพื้นที่ 24 ตารางกิโลเมตร รายล้อมไปด้วยกลุ่มควันที่โพยพุ่งออกมา พร้อมความสวยงามของธรรมชาติที่ต้องมาสัมผัสด้วยตาของตัวเอง ถึงชื่อจะดูน่ากลัว แต่บรรยากาศตรงข้ามกันมาก ๆ มองไปทางไหนก็มีแต่ความธรรมชาติพร้อมกลุ่มควันที่ลอยตัวอยู่บาง ๆ ที่นี่จะมีทางเดินให้ชมความสวยงามแบบทอดยาว ถ้าเดินไปด้านล่างจะพบกับบ่อน้ำพุร้อนศักดิ์สิทธิ์ แต่ถ้าเดินขึ้นไปด้านบน จะพบกับวิวภูเขาอีกมุมมองหนึ่งก็สวยไม่แพ้กัน แหล่งรวมแร่ธาตุ ช่องทางไอน้ำ และธารกำมะถันแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ทำให้เกิดสถานที่แช่น้ำออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ “เท็นชิจิออนเซ็น” เป็นบ่อน้ำพุร้อนหายากที่ผสมผสานองค์ประกอบทั้ง 7 ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและผิวพรรณ ถ้าใครอยากสัมผัสกลิ่นกำมะถัน หรือแช่บ่อน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่หุบเขานรกแห่งนี้ ยังมีโรงแรม ห้องพัก และร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว แนะนำให้ไปทานราเมงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากยักษ์สีแดงมีความเผ็ดร้อนระดับนรกกันเลยทีเดียว ส่วนในช่วงฤดูหนาวี่รายล้อมไปด้วยหิมะปุกปุยรอบบ่อ คือสวยงามมาก แต่ทางเดินก็อาจจะลื่นสักหน่อย แนะนำถ้าไปช่วงนี้ให้เดินดี ๆ ระมัดระวังให้มากที่สุดก่อน จะได้ไม่อันตราย ถ้าทำตามที่แนะนำได้บอกเลยว่า มาเถอะ อากาศเย็นเดินสบายสวยคุ้มค่าแน่นอน 

📍 ชื่อสถานที่ : หุบเขานรก (Jigokudani Noboribetsu)
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +81143843311
🔎 เว็บไซต์ : noboribetsu-spa.jp
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/HoL3kXDi2HazU8nE9

น้ำตกชิโรฮิเงะ (Shirohige Waterfall)

เดินทางมาต่อกันที่เมือง บิเอะ (Biei) กันบ้าง แล้วมาแวะกันที่ น้ำตกชิโรฮิเงะ (Shirohige Waterfall) ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ของฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งคำว่า ชิโรฮิเงะ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าหนวดขาว เพราะน้ำตกที่ไหลลงมา มีลักษณะคล้ายกับหนวดสีขาว แต่น้ำของที่นี่จะมีสีฟ้าเหมือนกับน้ำในสระว่ายน้ำ เพราะเกิดจากมีแร่ธาตุของอลูมีเนียมอยู่เป็นจำนวนมาก มีความสวยติดอันดับ 1 ใน 5 น้ำตกที่สวยที่สุดในฮอกไกโด น้ำตกสีฟ้าที่ค่อย ๆ ไหลลงมาผ่านหน้าผาสีดำ มีความสูงราว ๆ 30 เมตร ได้ยืนมองจากสะพานเหล็กที่เป็นทางเดินทอดยาว มองน้ำไหลผ่านไปช้า ๆ ท่ามกลางอากาศหนาว ๆ แบบนี้ก็ฟินไปอีกแบบนะ ห่างจากน้ำตกไม่เท่าไรก็ยังมีเหล่าต้นไม้เซเลปที่โด่งดังจากโลกออนไลน์ ที่ยืนเหงา ๆ ตามจุดรอให้ทุกคนไปถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็น Ken & Marry Tree, Seven Stars Tree, Parents And Child Tree, Mild Seven Hill และ Christmas Tree ถ้ามีโอกาสมาแล้ว อยากให้ทุกคนเก็บให้หมดทุกต้นเลย เพราะมันสวยงามมาก 

📍 ชื่อสถานที่ : น้ำตกชิโรฮิเงะ เมืองบิเอะ เขตคามิกาวะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +81166924321
🔎 เว็บไซต์ : town.biei.hokkaido.jp
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/BGtZXhjQRqRrdpTQ9

หมู่บ้านเทพนิยาย (Ningle Terrance)

หมู่บ้านเทพนิยาย (Ningle Terrance) ตั้งอยู่ที่เมือง Furano ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโรงแรม New Prince เป็นที่พักแบบสกีรีสอร์ท ถึงไม่ได้เข้าพักที่สกีรีสอร์ทแห่งนี้ ก็สามารถเดินชมในหมู่บ้านเทพนิยายได้ เข้าชมฟรี ไม่มีค่าบริการ นิเกิลเทอร์เรซ เป็นหมู่บ้านกระท่อมไม้หลังเล็ก ๆ ปกคลุมไปด้วยหิมะ ที่มีป่าสนรอบล้อม บ้านทุกหลังจะถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันด้วยสะพานไม้ บ้านแต่ละหลังที่เราเห็นจะเป็นร้านขายของ ร้านกาแฟ และของที่ระลึกต่าง ๆ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากเจ้าของร้านเอง หรือที่เรียกกันว่าของแฮนด์เมด ส่วนมากจะเป็นงานฝีมือที่น่าสะสม ใครชอบอะไรแบบนี้ เราแนะนำให้มาช่วงเย็น ๆ ที่นี่จะเปิดไฟตามทางเดินและบ้าน ทำให้ถ่ายภพออกมาสวยมาก เหมือนเราได้เดินอยู่ในหมู่บ้านแห่งเทพนิยายจริง ๆ สวยมากอย่างกับเทพสร้าง เข้ามาแล้วจะต้องถูกมนต์สะกดให้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดชัตเตอร์กันรัว ๆ อย่างแน่นอน

📍 ชื่อสถานที่ : หมู่บ้านเทพนิยาย เมืองฟุราโนะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 11.00 – 20.30 น.
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +81167221111
🔎 เว็บไซต์ : princehotels.co.jp
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/cPKDfNqQc3Yu6roj9

สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)

สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) สวนสัตว์ที่อยู่ทางเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น ชื่อเสียงโด่งดังในฮอกไกโด มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาชมความน่ารักและสัมผัสไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคนต่อปี สวนสัตว์อาซาฮิยามะ มีสัตว์ต่าง ๆ มากกว่า 700 ชนิด จาก 150 สายพันธุ์ แถมยังมีปลาคราฟกว่า 200 ตัวอีกด้วย และส่วนใหญ่สัตว์ที่นี่จะเป็นสัตว์ที่อยู่ในอากาศหนาว เช่น แมวน้ำ, แพนด้าแดง, หมีขาว, เพนกวิน ฯลฯ มาเปิดประสบการณ์ชมหมีขาวที่หาดูได้ยาก น้องหมีขาวจะโชว์ว่ายน้ำและเล่นของเล่นให้ทุกคนได้ดู ไม่ต้องไปไกลถึงขั้วโลกเหนือก็มีหมีขาวให้ดูกันที่นี่เลย หรือจะเป็นคาปิบารา หรือ หมามะพร้าวที่คนไทยชอบเรียกกัน ที่นี่ก็มีนะ และพลาดไม่ได้กับไฮไลท์ของสวนสัตว์อาซาฮิยามะแห่งนี้ คือ การชมขบวนพาเหรดของน้อง ๆ เพนกวินจักพรรดิอย่างใกล้ชิดแบบไม่มีที่กั้น แนะนำให้เช็ครอบให้ดีนะคะ ไม่งั้นมาแล้วเสียเที่ยวไม่ได้เจอน้อง ๆ จะเสียดายเอาน้า นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์ที่ไว้สำหรับชมสัตว์น้ำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินลอดอุโมงค์และชมปลาว่ายไปมาแบบเพลินตาสุด ๆ เลย

📍 ชื่อสถานที่ : สวนสัตว์อาซาฮิยามะ เขตอะซะฮิกะวะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 09.30 – 17.00 น.
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +81166361104
🔎 เว็บไซต์ : city.asahikawa.hokkaido.jp
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/NCEy9ce2VwhJzvmAA

ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine)

ปิดท้ายด้วยสายมู เราไปกันที่ ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม มีประวัติอันยาวนานและความเก่าแก่มาก ๆ ในฮอกไกโด เพราะถูกสร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1871 มีการอันเชิญเทพเจ้าเข้ามาประทับในศาลไว้ทั้งหมด 4 องค์กันเลย สายมูจะต้องร้องว้าว บรรยากาศภายในศาลเจ้าฮอกไกโดจะร่มเย็นไปด้วยต้นไม้โดยรอบ โอบล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสามด้าน พื้นที่ของศาลเจ้ายังเชื่อมต่อกับสวนมารุยามะสามารถเดินถึงกันได้ เป็นจุดชมวิวทีเด็ดแห่งหนึ่งของเมืองเลยค่ะ เข้าไปขอพรศักการะองค์เทพเจ้าทั้ง 4 เสร็จแล้วก็อย่าลืมเขียนแผ่นป้ายเอะมะ หรือแผ่นป้ายอฐิษฐานขอพร พร้อมทั้งตามเก็บเครื่องราง เป็นของฝาก ศาลเจ้าแห่งนี้มีเครื่องรางกว่า 30 อัน แต่ละสีก็จะเสริมดวงในเรื่องที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น การงาน โชคลาภ สุขภาพ และความรัก ได้ของฝากเป็นเครื่องรางให้กับคนที่คุณรัก บอกเลยว่าปังไปพร้อม ๆ กันแน่นอนค่ะ

📍 ชื่อสถานที่ : ศาลเจ้าฮอกไกโด เขตซูโอ ซัปโปโร ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⌚ เวลาทำการ : เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
📞 เบอร์โทรศัพท์ : +81112211084
🔎 เว็บไซต์ : tongusan.jp
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/SFtZ31Ys58MuMtzo9

โอ้โหววววว ที่เที่ยวสวย ๆ และน่าไปเต็มไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ภูเขา หรือในเมือง ก็น่าเดินเที่ยวไปซะหมดทุกที่ แถมอาหารทะเลที่นี่ยังสดใหม่น่าทานอีก แบบนี้ต้องห้ามพลาดซะแล้ว รับรองว่ามาแล้วจะต้องได้รูปสวย ๆ วิวปัง ๆ ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่น่าจดจำกลับไปแน่นอนค่ะ แล้วทริปหน้าพวกเราจะพาไปที่ไหน อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ