10 ที่เที่ยวอิตาลี 2025 เมืองแห่งงานฝีมือ เลื่องลือเครื่องหนัง สถาปัตยกรรมโบราณ และธรรมชาติอันสวยงาม

10 ที่เที่ยวอิตาลี 2025 เมืองแห่งงานฝีมือ เลื่องลือเครื่องหนัง สถาปัตยกรรมโบราณ และธรรมชาติอันสวยงาม

Italy-travel-cover

"อิตาลี (Italy)" เมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามที่น่าอิจฉา ทั้งสถาปัตยกรรม ศิลปะและวัฒนธรรมโรมันโบราณ แหล่งรวมมรดกโลก ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทรงคุณค่าสุด ๆ แถมยังเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์เครื่องหนังต่าง ๆ อย่าง Gucci, Prada, Fendi, Valentino ฯลฯ สายชอปปิงมาก็เหมาะ หากคุณได้มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวยุโรป นี่เป็นประเทศหนึ่งที่เราจะแนะนำให้คุณมาแบบสุด ๆ เพราะมันจะเป็นการเดินทางที่คุ้มค่ามากครั้งหนึ่งเลยล่ะ ถ้าเน้นเที่ยวตามเมืองหลัก ๆ ส่วนใหญ่ก็ใช้ภาษาอังกฤษกัน ส่วนพวกเมืองเล็ก ๆ ก็อาจจะต้องภาษาท้องถิ่น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของคนอยากเที่ยวหรอกนะ แอพฯภาษาพอช่วยได้อยู่ เอาล่ะถ้าอยากรู้ว่าจะมีที่ไหนเป็นจุดหมายของเราได้บ้าง ตาม เช็คอินชิลล์ เรามาดูกัน กับ 10 ที่เที่ยวอิตาลี 2025 เมืองแห่งงานฝีมือ เลื่องลือเครื่องหนัง สถาปัตยกรรมโบราณ และธรรมชาติสวยงาม อย่างไม่ควรพลาด ยื่นวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) แล้วเก็บกระเป๋ามาเที่ยวกันเถอะ


italy-travel

เทือกเขาโดโลไมต์ (Dolomites)

unnamed (6)
ความสวยงามช่วงใบไม้เปลี่ยนสี, เทือกเขาโดโลไมต์ โดย Ghost Beast

ที่สุดของธรรมชาติแห่งอิตาลีเหนือ คงต้องยกให้ เทือกเขาโดโลไมต์ (Dolomites) ภูเขาสูงใหญ่เสียดฟ้ารูปร่างแปลกตาโดดเด่น หน้าผาสูงชัน ช่องแคบลึก เป็นหนึ่งในพื้นที่ของเทือกเขาแอลป์ สวยงามไปด้วยภูเขาหิมะด้านหลังทับซ้อนต่อไปจากป่าภูเขาที่เขียวขจี มีทะเลสาบสีฟ้าใส มีกิจกรรมมากมายท่ามกลางความเงียบสงบที่อุดมสมบูรณ์นี้ กระเช้ารอยฟ้าลงจากเทือกเขา, เดินป่า, ปิกนิกชมธรรมชาติ, พายเรือที่ทะเลสาบเบรียส (Lake Braies) ชมวิวแสนอลังการ และหมู่บ้านแอลป์ดิซูสซิ (Alpe di Siusi) ที่เป็นดังไฮไลต์และจุดหมายของใครหลาย ๆ คน ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่สูงที่สุดในยุโรป สวยงามตราตรึงใจได้อย่างลงตัวจึงได้กลายมาเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2009 หรือ จะหมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา(Santa Maddalena) ที่มีโบสถ์เป็นสัญลักษณ์ท่ามกลางวิวที่สวยดังภาพวาด อีกทั้งยังมีจุดชมวิวยอดฮิตอย่าง Seceda ที่เป็นทุ่งดอกไม้ลาดเอียงบนเนินผา โอโห้ บอกเลยว่า มุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก ธรรมชาติเต็มร้อย ความสวยงามเทพนิยายเต็มล้าน มาแล้วไม่มีผิดหวัง ที่นี่อาจจะต้องกลายเป็นที่หนึ่งในใจของสายธรรมชาติป่าเขาหลาย ๆ คนได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน 

🌎 การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลง Bolzano จากนั้นนั่งรถบัสสาย 350 ใช้เวลา 50 นาที มาลงที่ Ortisei ลงป้าย St.Ulrich,Sarteur จากจุดนี้จะมีกระเช้าให้เลือกใช้บริการถึง 3 จุด คือ seceda cable car, Ortisei – Alpe di Siusi  และ Seilbahn Raschotz สามารถเลือกจุดที่เราชอบที่สุดได้เลย / อีกหนึ่งวิธีที่นักท่องเที่ยวนิยม คือ ขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง

📍 ที่อยู่ : ร็อคก้า ปิเอโตเร จังหวัดเบลลูโน ประเทศอิตาลี
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/HMacZUQiEfxn1qbe7

unnamed (1)-1
เทือกเขาโดโลไมต์ โดย or chano
unnamed (2)
เทือกเขาโดโลไมต์ โดย CHIARA GUO
unnamed
เทือกเขาโดโลไมต์ โดย נחמיה בלוך
unnamed (4)
เทือกเขาโดโลไมต์ โดย 高矩
unnamed (3)-1
เทือกเขาโดโลไมต์ โดย santiago aguilera

italy-travel

เวนิส (Venice)

unnamed (1)-1
เวนิส โดย Zameer Dalvi

เมืองแห่งน้ำชื่อดังของอิตาลี เวนิส (Venice) สถานที่ท่องเที่ยวที่เน้นการเดินทางโดยใช้เท้าและเรือเท่านั้น เพราะนี่คือเมืองที่มีคลองน้ำใสเยอะที่สุดในโลก ท่ามกลางความน่ารักของตึกราบ้านช่องที่มีความคลาสสิกเป็นเอกลักษณ์ เกาะนับร้อยที่รวมกันจนเป็นเมืองใหญ่โดยใช้สะพานเชื่อมบนทะเลเอเดรียติก มีจัตุรัสซานมาร์โค ลานกว้างที่เป็นดั่งศูนย์กลางใจกลางเมือง สามารถพบเห็นผู้คนสัญจรไปมาทางเรืออย่างเป็นปกติ ราวกับเป็นเมืองเทพนิยายสุดโรแมนติกของโรมัน สมแล้วที่ได้ฉายาว่าเป็นนครแห่งความรัก โด่งดังจนคนทั่วโลกเห็นแล้วก็อยากมาเที่ยว ไม่แปลกใจเลยที่ยูเนสโก้จะยกให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ ค.ศ. 1987 เวนิสเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มาก ๆ ความสวยงามเก่าแก่เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากที่ไหน อีกทั้งเนื่องจากเวนิสเป็นเมืองกลางทะเลที่มีอายุมาเนิ่นนมนาน ด้วยกระบวนการสร้างและอะไรหลาย ๆ อย่าง จึงทำให้ปัจจุบันค่อย ๆ จมลงทุกปีอย่างละนิดแล้ว ถ้าไม่อยากพลาดเวนิสตอนที่ยังสวยงามที่สุดอยู่นี้ ต้องรีบหาโอกาสมาให้ได้แล้วค่ะ 

🌎 การเดินทาง : นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบิน Marco Polo จากนั้นต่อรถบัส เรือ หรือรถไฟไปยังสถานีรถไฟ Venezia Santa Lucia หรือสถานี Mestre แล้วนั่งรถไฟข้ามมายังเกาะเวนิส

📍 ที่อยู่ : เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/tR1yKXzVfh7GfQDN7

unnamed
เวนิส โดย Gerlof Hoogeveen
unnamed (2)
เวนิส โดย Olaf Auspurg
unnamed (3)-1
เวนิส โดย Miriam
unnamed (4)
เวนิส โดย Vijayakumar Srinivasan

italy-travel

ทะเลสาบโคโม (Lake Como)

unnamed (6)
Lake Como โดย Florian GIRARD

โคโม (Lake Como) ทะเลสาบที่อยู่ติดกับชายแดนประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ความสวยงามที่ถูกค้นพบแล้วกลายมาเป็นเมืองหนึ่งที่นักท่องเที่ยวในปัจจุบันนิยมเดินทางมามากเป็นอันดับต้น ๆ บ้านเมืองสวยงามเรียงรายอยู่ริมทะเลสาบกว้าง ตระการตาไปด้วยเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง วิวภูเขาน้อยใหญ่สลับทับซ้อนไปสุดสายตา ด้วยอาคารโทนสีอบอุ่นมองดูแล้วสบายตาตามสไตล์โรมันช่างตัดกับสีฟ้าของน้ำและสีเขียวของภูเขาได้อย่างลงตัวจริง ๆ สมแล้วที่เป็นเมืองตากอากาศที่ดีที่สุดที่คนรวยและราชวงศ์ใช้พักผ่อนมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันก็เป็นเมืองตากอากาศที่สวยที่สุดที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเลือกมาพักผ่อนเช่นกัน มากไปด้วยวิลล่าและโรงแรมมากมายท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามดังภาพวาดนี้ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยเมืองต่าง ๆ หลายเมือง โดดเด่นที่สุดและนักท่องเที่ยวเยอะที่สุด ก็ต้องยกให้ โคโม่ เมืองชื่อเดียวกับทะเลสาบที่มากไปด้วยแหล่งรวมงานศิลปะโรมันโบราณ ธรรมชาติอันซีน และความสงบสบาย สามารถลงเล่นน้ำในทะเลสาบได้แบบชิลล์ ๆ รู้แบบนี้แล้วจะยังไม่รีบตัดสินใจมากันอีกหรอ

🌎 การเดินทาง : สามารถเดินทางมาได้สะดวกที่สุด คือ จากมินลาน นั่งรถไฟ จากสถานี Milano Centrale มาลงที่สถานี Como San Giovanni หรือ Varenna-Esino ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็เป็นอันถึงแล้ว 

📍 ที่อยู่ : จังหวัดโคโม่ แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/DWst9BxkJpvmtTB5A

unnamed (3)-1
Lake Como โดย Nige Emms
unnamed (5)
Lake Como โดย EMA _
unnamed (4)
Lake Como โดย Ranjeet Sawant
unnamed (1)-1
Lake Como โดย Shlomo Kandel
185456
Lake Como โดย Simone Zoccarato

italy-travel

มิลาน (Milan)

unnamed (2)
Piazza Del Duomo, มิลาน โดย Daniele Rozzoni

เมืองแห่งแฟชั่น ศิลปะ และวัฒนธรรม สถานที่จัดงาน มิลานแฟชั่นวีค สุดโด่งดัง มิลาน (Milan) หรือ มิลาโน ในภาษาอิตาลี เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของอิตาลี ศูนย์กลางเศรษฐกิจ แหล่งรวมทางด้านการค้า ย่านแฮงค์เอาท์ ย่านชอปปิง แหล่งโบราณสถาน งานศิลปะ และร้านอาหารมากมาย มีครบทุกอย่างที่เราต้องการ เดินทางทั่วถึงสะดวกด้วยรถไฟใต้ดินและรถราง มีสนามบินใหญ่บินตรงจากได้ไทยเที่ยวเดียวถึง เหมาะกับเป็นเมืองเริ่มต้นเมืองแรกสุด ๆ ห้ามพลาดเลยคือ จัตุรัสดูโอโม (Piazza Del Duomo) จัตุรัสที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณสไตล์โรมันที่สวยงามทรงคุณค่า ลานหน้าอาสนวิหารปิซา ที่ใครก็ต่างอยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง ไหนจะวิหารและสุสาน สุดวิจิตรศิลป์จนกลายเป็นอีกหนึ่งมรดกโลกที่อิตาลีได้รับ, Galleria Vittorio emanuele ห้างสรรพสินค้ากลางเมืองที่เก่าแก่ที่สุด ห้างที่ด้านในเป็นที่ตั้งของโรงแรม 5 ดาว, Castello Sforzesco ปราสาทโบราณอายุหลายร้อยปีที่พำนักของดยุกมิลาน ด้านในมี Museum of Ancient Art ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจเอามาก ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ หนุ่ม ๆ สายแฟ สายศิลป์ บอกเลยว่า คุณอาจตกหลุมรักความธรรมดาแสนพิเศษของมิลานได้แบบไม่รู้ตัวเลยล่ะ 

🌎 การเดินทาง : บินตรงจากไทยมาลงที่สนามบินมิลานมัลเปนซา (Milan Malpensa Airport) แล้วเลือกเที่ยวได้เลยว่าจะเริ่มจากที่ไหนก่อน 

📍 ที่อยู่ : เมืองมิลาน แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/oRwFJyZqxGynKQo89

unnamed (5)
มิลาน โดย Đức Nguyễn
unnamed-1
มิลาน โดย Miran Mh
unnamed (6)
มิลาน โดย Reali Claudia
unnamed (1)-1
Castello Sforzesco, มิลาน โดย Maricescu Andrei
unnamed (3)-1
Galleria Vittorio emanuele, มิลาน โดย Ralf Setecki
unnamed (4)
Teatro alla Scala, มิลาน โดย Nick Stefani

italy-travel

โรม (Rome)

unnamed-1
จัตุรัสนาโวนา, โรม โดย Rider On Foot

โรม (Rome) เมืองหลวงของอิตาลี อายุเก่าแก่นับ 2,800 ปี ที่เป็นดังเมืองในฝันของใครหลาย ๆ คน นี่ล่ะต้นกำเนิดของสุภาษิตที่คนชอบพูดติดปากเป็นข้อคิดกันว่า “กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว” เพราะมันหมายถึง ความสำเร็จและยิ่งใหญ่ไม่สามารถสร้างได้ในระยะสั้นหรอกนะ ดังกรุงโรมนี่ไงที่เริ่มจากเมืองเล็ก ๆ ก่อนจะกลายมาเป็นเมืองสุดยิ่งใหญ่อย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้ ที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมาย ทั้ง 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก อย่าง “คอลอสเซียม” อดีตสนามกีฬายักษ์ใหญ่ที่จุได้ 5 หมื่นกว่าคน สัญลักษณ์ที่ใครเห็นก็รู้ว่าที่ไหน, นครรัฐวาติกัน รัฐอิสระที่เล็กที่สุดในโลกที่ซุกซ่อนอยู่ใจกลางโรม, สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก วิหารเซนต์ปีเตอร์ กับโบสถ์ซิสทีน ที่นักศิลปะแนะนำว่าให้พกกล้องส่องทางไกลมาด้วย, ประตูชัยคอนสแตนติน อนุสรณ์แห่งชัยชนะคอนสแตนในปี 312, สะพานข้ามแม่น้ำ ponte Umberto I , จัตุรัสนาโวนา, วิหารเพนเธออน และน้ำพุเทรวี่ เป็นต้น แต่ละสถานที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและมีเสน่ห์ในตัวของมันมาก ๆ อาจะดูคล้ายกันบ้างแต่เชื่อเถอะว่าแต่ละที่ไม่เหมือนกัน หากอิตาลีเป็นจุดหมายในการเลือกเดินทางสักประเทศแล้ว ให้โรมลองเป็นตัวเลือกในการเที่ยวครั้งนั้นดูนะคะ 

🌎 การเดินทาง : สามารถบินตรงมาลงที่สนามบินฟูมิชิโน (FCO) ได้เลย 

📍 ที่อยู่ : เมืองโรม แคว้นลัตซีโย ประเทศอิตาลี
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/64AN6CZJr6ZVKme98

5897498656
โรม โดย Michał Kusiak
unnamed (2)
โรม โดย Edda Maria Ojeda Enriotti
unnamed (4)
คอลอสเซียม, โรม โดย Adriano Monopoli
unnamed (3)-1
โรม โดย Pietro Merlo
unnamed (1)-1
โรม โดย Sharni R. Gaskins
unnamed (6)
ponte Umberto I, โรม โดย João Chaves

italy-travel

ฟลอเรนซ์ (Florence)

unnamed (6)
ฟลอเรนซ์ โดย Gianni Vaccaro

ฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองศูนย์กลางทางด้านศิลปะ จุดเริ่มต้นของเรเนซองซ์ หรือ ยุคสมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยา จากยุคเก่ามาเป็นยุคใหม่ช่วงทศตวรรษที่ 14 - 16 นั่นเอง เมืองเล็กแสนอบอุ่นที่มีแม่น้ำอาร์โนตัดผ่าน บรรยากาศเรียบง่ายท่ามกลางความสวยงามของศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ อันยาวนาน ที่สุดของมรดกโลกทางวัฒนธรรมของอิตาลีจริง ๆ เพลิดเพลินไปกับนักท่องเที่ยวที่ผสมผสานไปกับคนพื้นเมือง มีทั้งแหล่งชอปปิ้งมากมาย ร้านค้า ร้านอาหาร ดนตรีสดชิลล์ ๆ เพียบ สวรรค์ของคนรักอิสระปะล่ะ สมกับที่เคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลีช่วงปี ค.ศ. 1865 จนถึง 1871 เดินไปทางไหนก็เต็มไปด้วยตึกและพิพิธภัณฑ์ที่สวยงามมีเอกลักษณ์ความเป็นโรมันราวกับมีชีวิตชีวา ทุกพิพิธภัณฑ์ล้วนแล้วแต่ไม่มีค่าใช้จ่าย เราว่าเหมาะมากกับการมาเดินเที่ยวชมศิลปะที่ต่างออกไปจากเรา รับรองว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับคุณอย่างแน่นอน

🌎 การเดินทาง : หากเดินทางมาจากโรม สามารถนั่งรถไฟมายังฟลอเรนซ์ได้เลย ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยค่าใช้จ่าย 20 - 30 ยูโร เท่านั้น ก็เป็นอันถึงแล้ว

📍 ที่อยู่ : เมืองฟรอเรนซ์ แคว้นทอสคานา ประเทศอิตาลี 
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/xqcbjTk6S5TUvuvc9

unnamed (3)-1
ฟลอเรนซ์ โดย Balázs Pintér
unnamed (4)
ฟลอเรนซ์ โดย Pawel Wagner
unnamed (5)
ฟลอเรนซ์ โดย JerJer B (Jeremy)
unnamed (2)
ฟลอเรนซ์ โดย Michele Zinna
unnamed-1
ฟลอเรนซ์ โดย Rosy Enea
unnamed (1)-1
ฟลอเรนซ์ โดย Markus Chima

italy-travel

ชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi)

unnamed-1
ชายฝั่งอามาลฟี โดย chamindu lakshan

ชายฝั่งทางตอนใต้ของอิตาลี หนึ่งในมรดกโลกที่ UNESCO ยอมรับ ชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi) สถานที่พักผ่อนที่นักท่องเที่ยวและชาวอิตาเลียนนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวสุด ๆ บรรยากาศชิลล์ ๆ สบาย ๆ สามารถล่องเรือ นอนอาบแดด เดินชมวิถีชีวิตชาวเมือง เพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมและศิลปะ เหมาะกับคนที่ชอบความสโลว์ไลฟ์เป็นชีวิตจิตใจ โดดเด่นด้วยอาคารตึกหมู่บ้านสีสัน สดใส หลากหลาย อยู่ตามแนวหน้าผาริมชายฝั่งที่เรียงรายลงมาจากเนินเขาลงมายังชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างสวยงาม มากไปด้วยหมู่บ้านเล็ก ๆ แสนน่ารัก ที่เด่น ๆ อย่าง อามาลฟี มีสถาปัตกรรมเก่าแก่และสวยงาม, โพสิตาโน ตึกสีเหลือง-น้ำตาลสุดน่ารัก แหล่งรวมศูนย์การค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก, ราเวลโล เมืองริมผา สูง 365 เมตร ที่พบเห็นได้จากโปสการ์ดบ่อย ๆ, ปราอิอาโน เมืองที่สงบและมีความเป็นส่วนตัวที่สุดในย่านนี้ ฯลฯ อามาลฟีเต็มไปด้วยความสวยงามสมกับที่เป็นหนึ่งในชายฝั่งทะเลที่สวยที่สุดในยุโรปมาก ๆ ถ้าคุณคือคนที่อยากลองใช้ชีวิตในช้าลงในยุโรป ดื่มด่ำกับบรรยากาศให้เต็มที่ดูบ้าง เราแนะนำว่าให้ชายฝั่งอมาลฟีในอิตาลีลองเป็นตัวเลือกแรกของคุณดูค่ะ แล้วคุณอาจจะหลงรักเมืองนี้ไปโดยปริยายเลยล่ะ

🌎 การเดินทาง : สามารถนั่งเครื่องบินมาลงสนามบินที่ใกล้ชายฝั่งที่สุด อย่าง สนามบินเนเปิลส์ (Naples International Airport) จากนั้นนั่งรถบัสมายังชายฝั่งอามาลฟีได้เลย หรือ จะเช่ารถขับเองจากที่สนามบินเลยก็ได้น้า 

📍 ที่อยู่ : จังหวัดซาแลร์โน แคว้นคัมปาเนีย ประเทศอิตาลี
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/Kv59r8ZpKL9ZU6MU7

unnamed (5)
ชายฝั่งอามาลฟี โดย Claudio Moschini
unnamed (4)
ชายฝั่งอามาลฟี โดย Marina Pashchuk
unnamed (3)-1
ชายฝั่งอามาลฟี โดย Andres Hernandez
unnamed (2)
ชายฝั่งอามาลฟี โดย alex Run-skate

italy-travel

เวโรนา (Verona)

unnamed (8)
เวโรนา โดย Antonino Mattina

เมืองสุดโรแมนติก ที่มีการเล่าขานว่า นี่คือ “เมืองบ้านเกิดของโรมิโอ แอนด์ จูเลียต” ตำนานความรักสุดยิ่งใหญ่ยุคโรมันของ วิลเลียม เชกสเปียร์ พบกับ เวโรนา (Verona) เป็นเมืองสุดคลาสสิกที่ให้ความสำคัญกับศิลปะและวัฒนธรรมมาเป็นอันดับหนึ่ง ที่สุดแห่งการอนุรักษ์อนุสรณ์สถานไว้ตั้งแต่โบราณ ยุคเก่า ยุคกลาง จนมาถึงยุคปัจจุบัน เห็นได้จากการที่มีงานนิทรรศการประจำปีอยู่บ่อย ๆ , โรงละครกลางแจ้งแบบโรมัน, โบสถ์, มหาวิหาร ที่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้ง่าย ๆ หากมาเดินเที่ยวในเมือง มีสถานที่น่าสนใจมากมาย อาทิ หน้าร้านอมานี่ในปัจจุบัน คือบ้านจูเลียต ที่มีมุมหน้าต่างระเบียงเล็ก ๆ ที่โรมิโอมักมาคอยเฝ้าอยู่ด้านล่าง ในบริเวณมีรูปปั้นจูเลียตตั้งอยู่ ผู้คนเชื่อกันว่าหากอยากสมหวังในความรักให้มาจับหน้าอกจูเลียตแล้วขอพรก็จะสมหวัง, เวโรนา อรีน่า ลานมหรสพโรมันโบราณขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดแสดงโอเปร่า, จัตุรัส Piazza delle Erbe ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีชีวิตชีวา, giusti garden สวนสวยแห่งยุคเรเนซองซ์, Ponte Pietra สะพานโบราณเก่าแก่ริมแม่น้ำ เป็นต้น แน่นอนว่านี่ก็คือหนึ่งในมรดกโลกที่ยูเนสโกมอบให้อิตาลีอีกเช่นกัน ทั้งสวยงามและทรงคุณค่า เสน่ห์สุดเอกลักษณ์ที่ถือว่าเป็นอีกเมืองที่น่าแวะมาก ๆ ยิ่งคุณมาเที่ยวเวนิส, โรม, โบโลญญา หรือฟลอเรนซ์อยู่แล้ว แนะนำเลยค่ะว่าให้ลองเปิดใจแวะมาเที่ยวที่เวโรนาดู คุณอาจจะหลงรักเมืองนี้เพิ่มขึ้นอีกเมืองก็เป็นได้

🌎 การเดินทาง : สามารถเดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสนั่งยิงยาวจากเมืองฟลอเรนซ์, เวนิส, โรม หรือโบโลญญา มาลงที่เวโรนาได้เลย แต่ละเมืองต้นทางก็จะใช้เวลาต่างกันไป อยู่ในช่วง 1 - 3 ชั่วโมง ก็เป็นอันถึง

📍 ที่อยู่ : เมืองเวโรนา แคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี 
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/Q9XXadA73UGKq5Vj9

unnamed (4)
เวโรนา โดย Josef Engber
unnamed (7)
เวโรนา โดย Ariel Morales Beltran
unnamed (3)-1
ponte pietra, เวโรนา โดย Petr Medveď
unnamed (6)
เวโรนา โดย Malek Al jindi
unnamed (1)-2
giusti garden, เวโรนา โดย Gabriela Perozzi
unnamed (2)
giusti garden, เวโรนา โดย Michael Rutz

italy-travel

หมู่บ้านบันโญเรจิโอ (Civita di Bagnoregio)

unnamed (1)-2
หมู่บ้านบันโญเรจิโอ โดย Chih An

หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความสวยงามของสถาปัตกรรม ทัศนียภาพ และประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง หมู่บ้านบันโญเรจิโอ (Civita di Bagnoregio) เมืองเล็ก ๆ สวยงามจนได้รับฉายาว่า “เมืองในท้องฟ้า” ที่ตั้งโดดเด่นสูงชันอยู่บนเนินเขาอันโดดเดี่ยวมีเพียงสะพานแคบที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างเมืองอื่น เหมือนตั้งตระหง่านอยู่กลางท้องฟ้าจริง ๆ เพราะพื้นผิวดินบริเวณโดยรอบถูกลมและน้ำกัดเซาะ แล้วค่อย ๆ ยุบหายไปเรื่อย ๆ ปัจจุบันก็ยังโดนเซาะอยู่ทุกปี จนเหลือเป็นดังเมืองบนหน้าผาหินทัฟฟ์ จนมีคนกล่าวว่า นี่คือเมืองที่กำลังจะตาย วันหนึ่งเมืองนี้อาจจะถล่มแล้วหายไปทั้งเมืองเลยก็ได้ จากหลักฐานที่พบและการสันนิษฐานคาดว่ามีอายุและพื้นโดยรอบถูกกัดเซาะมานานถึง 2,500 ปีมาแล้วนั่นเอง ปัจจุบันมีคนอาศัยอยู่ประมาณ 100 คนเท่านั้น ซึ่งสำหรับเรานี่เป็นอีกเมืองที่น่าสนใจเอามาก ๆ ดูมีมนต์ขลังและเสน่ห์เฉพาะตัว สามารถมาเดินชมความโบราณในแบบของโรมันได้ มีร้านอาหาร และโรงแรมคอยให้บริการอยู่เล็กน้อย จริง ๆ สามารถมาเที่ยวเช้าเย็นกลับไปพักที่โรมต่อก็ยังได้ หากท่านขับรถมาจะต้องจอดไว้ที่เมืองใหม่ด้านล่างแล้วเดินสะพานหินที่ทอดตัวยาวขึ้นไปยังเมือง บรรยากาศอบอวนไปด้วยความสวยงามที่มาพร้อมความอบอุ่นและเงียบสงบ

🌎 การเดินทาง : ห่างจากกรุงโรมไม่ถึง 100 กิโลเมตร สามารถใช้บริการรถประจำทางจาก มาเที่ยวที่นี่ได้เลย  

📍 ที่อยู่ : ภูมิภาคคลาสิโอ ประเทศอิตาลี
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/5Y4F1TNp2BcHMSst8

unnamed (2)
หมู่บ้านบันโญเรจิโอ โดย Riccardo Iacobucci
unnamed-1
หมู่บ้านบันโญเรจิโอ โดย Emanuela Gobbini
unnamed (4)
หมู่บ้านบันโญเรจิโอ โดย Alex Dihenes
unnamed (5)
หมู่บ้านบันโญเรจิโอ โดย Tiziana mezza
unnamed (6)
หมู่บ้านบันโญเรจิโอ โดย Paolo Fiorenzo

italy-travel

อุทยานโบราณคดีปอมเปอี (Pompeii Archaeological Park)

unnamed (4)
อุทยานโบราณคดีปอมเปอี โดย Alex T. Pisapia

นครแห่งความตาย อุทยานโบราณคดีปอมเปอี (Pompeii Archaeological Park) สถานที่จริงที่เกิดมหาภัยพิบัติจนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมแสนสลดที่สุดของประวัติศาสตร์ เมื่อ 2,000 ปีก่อน ราว ๆ ค.ศ 79 ที่เกิดเหตุภูเขาไฟวิสุเวียส (Mount Vesuvius) เกิดการปะทุระเบิด ทั่วบริเวณคละคลุ้งไปด้วยขี้เถ้าและก๊าซที่เป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ ลาวาร้อน ๆ แผดเผาทำลายทุกสิ่งกลืนกินจนไม่เหลือ ผู้คนและหมู่บ้านถูกฝังอยู่ ณ บริเวณตรงนั้นทันที ผ่านมาหลายศตวรรษกว่าจะมีผู้คนมาค้นพบว่าบริเวณนี้เคยเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างถูกฝังลึกลงไปกว่า 25 เมตร สิ่งที่น่าสนใจคือ นักสำรวจในสมัยนั้นใช้วิธีหยอดปูนปาสเตอร์ไปตามร่องพื้นดิน เพื่อให้มันห่อหุ้นกระดูกมนุษย์ที่ถูกฝัง แล้วเราจะได้ศึกษาเห็นลักษณะที่ชัดขึ้นว่า ณ ขณะนั้นแต่ละคนทำอะไรกันอยู่ ซึ่งบางส่วนก็ถูกน้ำมาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมและเรียนรู้อยู่ที่นี่ และบางส่วนจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติเนเปิลส์ อีกทั้งสิ่งของ, เครื่องใช้, เครื่องประดับ, ภาชนะดินเผา, ทองสัมฤทธิ์, อาคารบ้านเรือน ทุกอย่างกลับอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ทั้งที่ถูกฝังมานานนับพัน ๆ ปี แล้ว นี่จึงเป็นสาเหตุที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจและเดินทางมาชมสถานที่จริงด้วยตาตัวเองกัน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังและความเวทนาในเวลาเดียวกัน มันชวนให้คิดได้ว่า ถ้าวันนั้นภูเขาไฟไม่ระเบิด ปัจจุบันเมืองนี้จะยิ่งใหญ่เพียงใดกันนะ

🌎 การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Circumvesuviana จากสถานี Napoli Garibaldi จากเมืองเนเปิลส์ มาลงยัง สถานี Pompei Scavi - Villa dei Misteri แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อยก็เป็นอันถึงจุดหมายแล้ว

📍 ที่อยู่ : ปอมเปย์ เขตมหานครนาโปลี แคว้นคัมปาเนีย ประเทศอิตาลี
🌐 Wepsite : pompeiisites.org
🗺 Google Map : https://maps.app.goo.gl/581mQo2tkTFBGgrT7

unnamed (1)-2
อุทยานโบราณคดีปอมเปอี โดย Miriam Gutierrez
unnamed (5)
อุทยานโบราณคดีปอมเปอี โดย SUIN Lee
unnamed-1
อุทยานโบราณคดีปอมเปอี โดย jietuo wang
unnamed (2)
อุทยานโบราณคดีปอมเปอี โดย Donte Barber
unnamed (3)-1
อุทยานโบราณคดีปอมเปอี โดย Alex T. Pisapia

เป็นยังไงบ้างคะ จากการทำรีเสิร์จมาคือเราประทับใจมาก เรียกได้ว่าอิ่มเอมใจไม่ว่าคุณจะเป็นสายไหน สายช้อปก็มีเครื่องหนังแบรนด์ดัง สายศิลป์ก็มีสถาปัตยกรรมระดับโลก หรือจะสายธรรมชาติ บางเมืองก็มีทัศนียภาพที่สวยงามดังเทพนิยาย ถ้าสวิตเซอร์แลนด์คือประเทศที่หนึ่งในใจคุณ ร้อยทั้งร้อยอิตาลีจะต้องเป็นประเทศที่รองลงมาแน่นอน หรือบางคนได้ลองมาแล้วยกให้เป็นที่หนึ่งในใจแทนก็มี ฉะนั้นแล้ว เก็บเงิน เก็บกระเป๋า ทำวีซ่าเชงเก้นแล้วมาตะลุยเที่ยวยุโรปกันนนน


Share:


Your experience on this site will be improved by allowing cookies Cookie Policy