30 ที่เที่ยวญี่ปุ่น ยอดนิยม 2023 เมืองไหนดี น่าเที่ยวแค่ไหน มาดูกันเลย

หากใครมีแพลนจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก หรือกำลังเกิดคำถามในใจว่า ทริปไปเที่ยว ประเทศญี่ปุ่นของเราในครั้งนี้ จะไปเมืองไหนดี และสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่บรรดานักเที่ยวเที่ยวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไหน ๆ ก็ไปเหยียบดินแดนปลาดิบแล้ว งั้นต้องไปจุดถ่ายรูปใหญ่ ตามหัวเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่นกันดีกว่า ทริปพาเที่ยวทั่วประเทศญี่ปุ่นนี้ พวกเราจะไปทุกท่านไปทั้ง 10 หัวเมือง น่าเที่ยว ทั้งในเมืองหลวงและตามเมืองรอง ที่มาพร้อมกับความหลากหลายของผู้คนและวัฒนธรรม งั้นไม่ต้องเสียเวลาเกริ่นนานเนอะ ไปเที่ยวหัวเมือง ทั้ง 10 เมืองของประเทศญี่ปุ่น พร้อม ๆ กันเลยนะคะ

(สารบัญ) 30 ที่เที่ยวญี่ปุ่น ยอดนิยม 2566 แต่ละเมือง น่าเที่ยวแค่ไหน มาดูกันเลย ซ่อน

โตเกียว 

บรรยากาศกรุงโตเกียว, โตเกียว โดย Shutterstock.com

มาเริ่มกันที่เมืองแรกกันเลย กับ Tokyo – โตเกียว เมืองใหญ่ยอดฮิต และเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น มีความรุ่งเรืองทั้งทางประวัติศาสตร์และวัตนธรรม หากถามว่าไปโตเกียว เที่ยวไหนดี บอกเลยว่าเยอะมาก มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งทางวัฒนธรรม, ทางประวัติศาสตร์, ทางธรรมชาติ รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารแสนอร่อยเพียบ ที่คุณสามารถเที่ยวได้แบบครบรสชาติ ทั้งยังเดินทางสะดวกมาก เพราะมีสายรถไฟทั่วถึงทั้งเมือง ทำให้เดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย สำหรับที่เที่ยวขึ้นชื่อของกรุงโตเกียวก็จะมีตั้งแต่ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) ไปขอพรพระโพธิสัตว์กวนอิม, เที่ยว Tokyo Disneyland & Tokyo DisneySea ,ถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่ teamLab Planets Tokyo, แวะช้อปปิ้งที่ย่าน ชิบูย่า (Shibuya) และกินซ่า (Ginza), หมุนกาชาปอง ซื้อฟิกเกอร์โมเดลที่ อากิฮาบาระ (Akihabara), สาวกจิบลิต้องแวะ Studio Ghibli Museum ปิดท้ายด้วยชมวิวเมืองยามค่ำคืนที่ Tokyo Tower หรือ Tokyo Skytree หรือหากอยากเที่ยวสไตล์ธรรมชาติก็มีหลายแห่งให้ได้ชม แนะนำเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสี อาทิ ชมซากุระที่สวนอุเอโนะ (Ueno Park), ดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ ภูเขาทาคาโอะ (Mount Takao), สวนโชวะคิเนน (Showa Kinen Park) ชมทุ่งดอกไม้และใบแป๊ะก๊วยสีเหลืองทอง เป็นต้น ต้องการทราบสถานที่ท่องเที่ยว, การเดินทาง, เทศกาล, และอื่น ๆ สามารถคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ด้านล่างเลย มีภาษาไทยจ้า อยากมาเที่ยวญี่ปุ่น แต่ไม่รู้ไปเมืองไหนดี ขอแนะนำเมืองเบสิคอย่างกรุงโตเกียวเลย ครบจบมาก

อ่านเพิ่มเติม :

การเดินทาง : นั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินนาริตะ (NRT / Narita International Airport) นั่งรถไฟเข้าโตเกียวประมาณ 50 นาที  หรือสนามบินฮาเนดะ (HND / Haneda Airport) สนามบินนี้อยู่ใกล้กับโตเกียวมากที่สุด นั่งรถไฟประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้ว

📍 Address : Tokyo, Japan
🌎 Website : https://www.gotokyo.org/th/index.html

🗺 Google Maps : https://maps.app.goo.gl/qJwJUGF25uxK4GBh6

วัดเซ็นโซจิ,โตเกียว โดย Shutterstock.com.

ย่านอากิฮาบาระ, โตเกียว โดย Sean Pavone / Shutterstock.com

Studio Ghibli Museum, โตเกียว โดย cowardlion / Shutterstock.com

อุโมค์แปะก๊วย ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่สวนโชวะคิเนน, โตเกียว โดย ShutterStock

รถรางขึ้นภูเขาทาคาโอะ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี, โตเกียว โดย Marvin Tenepre / Shutterstock.com


โอซาก้า

บรรยากาศรอบ ๆ ปราสาทโอซาก้า, โอซาก้า โดย Shutterstock.com

มาต่อกันเลยที่เมืองสุดฮิตอย่าง Osaka – โอซากะ หรือคนไทยจะออกเสียงเป็นโอซาก้า เป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญอันดับต้น ๆ หากนึกไม่ออกว่าเที่ยวเมืองไหนดีในประเทศญี่ปุ่น โอซาก้าถือเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ เลยล่ะ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก เดินทางง่าย อาหารอร่อย แหล่งช็อปปิ้งเยอะ ทั้งยังมีธีมพาร์คระดับโลกรอให้เราไปเยือนนั่นก็คือ Universal Studios Japan ที่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างเทใจให้เป็นสถานที่ชาร์จพลัง ใส่คาดผมตัวการ์ตูนย้อนวัยแบบไม่ต้องอายใคร พร้อมเครื่องเล่นแสนสนุกมากมาย ต่อมาคือแลนมาร์คแห่งเมืองโอซาก้า ปราสาทโอซะกะ (Osaka Castle) จุดเช็คอินที่ต้องไปเยือนเมื่อมาโอซาก้า และที่เที่ยวที่โด่งดังไม่แพ้กันคือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN), ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ย่านดังที่มีป้ายกูลิโกะเป็นไอคอนของย่าน ใครมาต้องชูมือถ่ายรูปเช็คอิน ชิมทาโกะยากิเจ้าดัง กินขนมเหรียญ 10 เยนชีสยืด แถมย่านโดทงโบริยังยู่ติดกับย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) แหล่งช็อปปิ้งใจกลางโอซาก้าที่มีทั้งร้านรองเท้า, ร้านเสื้อผ้า, ร้านเครื่องสำอางค์, และร้านขายยาเพียบ บอกเลยว่ากระเป๋าฉีกแน่นอน และอีกหนึ่งย่านห้ามพลาด ย่านชินเซไก (Shinsekai) ย่านย้อนยุคสไตล์เรโทร โดดเด่นด้วยหอคอยทสึเทงคาคุ (Tsutenkaku Tower) ด้านบนมีจุดชมวิว เสียค่าเข้า บริเวณหอคอยมีร้านค้าร้านอาหารมากมาย มีป้ายและโคมไฟขนาดใหญ่ดึงดูดสายตา ยิ่งตอนกลางคืนเปิดไฟ คือสวยงามได้บรรยากาศมาก แนะนำแวะกินของทอดร้านดังอย่างร้านคุชิคัตสึ ดารุมะ (Kushikatsu Daruma) ด้วยนะ เป็นของทอดเสียบไม้กรุบกรอบ พร้อมจิบเบียร์เย็น ๆ โอ้ฟิน หากใครอยากไปเห็นด้วยสายตาตัวเองละก็ รีบจัดทริปแล้วบินไปกันเลย หากบินมาที่โอซาก้าแล้ว เรายังสามารถนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองใกล้ ๆ อย่างเกียวโต, นารา และโกเบ ได้ในระยะไม่ไกลอีกด้วย นั่งรถไฟราว ๆ 1 ชั่วโมงเท่านั้น บางที่ไม่ถึงชั่วโมง เรียกได้ว่ามาเมืองเดียวเที่ยวได้หลายเมือง ถือว่าคุ้มค่าตั๋วสุด ๆ

อ่านเพิ่มเติม :

การเดินทาง : นั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินคันไซ (KIX / Kansai Airport) นั่งรถไฟเข้าโอซาก้าประมาณ 40-50 นาที มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งรถไฟด่วนและรถไฟปกติ

📍 Address : Osaka, Japan
🌎 Website : https://osaka-info.jp/th/
🗺 Google Maps : https://maps.app.goo.gl/DjXvkjFsCLrEfxP28

Universal Studios Japan, โอซาก้า โดย Lifestyle Travel Photo / Shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง, โอซาก้า โดย MosayMay / Shutterstock.com

ย่านโดทงโบริ, โอซาก้า โดย f11photo / Shutterstock.com

ย่านชินไซบาชิ, โอซาก้า โดย Marco Fine / Shutterstock.com

ย่านชินเซไก, โอซาก้า โดย Richie Chan / Shutterstock.com


เกียวโต

วัดคิโยมิซุเดะระ (วัดน้ำใส) ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี, เกียวโต โดย Shutterstock.com

อีกหนึ่งเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นมาก่อน ใกล้กันกับโอซาก้าเลย กับ Kyoto – เกียวโต เมืองที่โดดเด่นไปด้วยธรรมชาติอันแสนสวยงาม และวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบด้ังเดิม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวนานาประเทศได้เป็นอย่างดี ทั้งตึกรามบ้านช่อง วัดวาอาราม ของใช้ เสื้อผ้า ไปจนถึงอาหารพื้นเมือง สำหรับสถานที่สำคัญที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ วัดคิโยมิซุเดะระ (Kiyomizu-dera Temple) หรืออีกชื่อคือ วัดน้ำใส เป็นวัดดังหนึ่งในสมบัติประชาติญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี ทั้งยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ แนะนำไปเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะได้เห็นซากุระบานสะพรั่งสวยงามมาก หรือจะไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ก็ได้อีกฟีล โรแมนติกที่สุด, สะกดสายตาไปกับปราสาทที่พำนักของโชกุน วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) ที่เราเรียกกันว่า วัดทอง แลนมาร์คสำคัญของเกียวโต ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้เช่นกัน, ต่อกันที่ศาลเจ้าเทพจิ้งจอก ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha) ศาลเจ้าเก่าแก่อายุ 1,000 ปี ถ้ายังไม่ อ๋อ ให้นึกภาพเสาแดงโทริอิเรียงกันเป็นทางยาว ด้านบนมีจุดชมวิว ถือเป็นศาลเจ้าที่ต้องมาเที่ยวดูสักครั้ง และป่าไผ่อาราชิยาม่า (Arashiyama Bamboo Grove) ต้นไผ่สูงเสียดฟ้า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติขึ้นชื่อในเกียวโต เป็นจุดฮอตสปอทที่ถ่ายรูปยอดนิยมที่ใครมาเกียวโตต้องแวะ ไม่งั้นจะเรียกว่ามาไม่ถึง เดินชมไปเรื่อย ๆ จะเจอวัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) 1 ใน 5 วัดสำคัญของนิกายเซน เดินมาอีกจะผ่านสวนคาเมยามะ (Kameyama Park) มีจุดชมวิว และสามารถทะลุไปยังแม่น้ำคัตสึระ (Katsura River) น้ำใสมาก เห็นวิวเป็นภูเขา และสะพานไม้เก่าแก่อายุ 400 ปี สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) ยิ่งมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี คือสวยมากกก แม่น้ำไหลผ่านภูเขา วิวเบื้องหลังเป็นต้นไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงสีเหลือง ปลดล็อคสกิลตาทองคำเลย ที่สำคัญอย่าลืมแวะร้านกาแฟ % ARABICA Kyoto Arashiyama เป็นร้านเล็ก ๆ แต่วิวอลัง จิบกาแฟพร้อมชมวิวแม่น้ำคือฟิน ใครที่ชื่นชอบความเจแปนนีสจ๋า ๆ ขอแนะนำเมืองเกียวโตเลย เที่ยวแบบสัมผัสมนตร์เสน่ห์ ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นย้อนยุค แล้วคุณจะหลงรักอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม :

การเดินทาง : นั่งเครื่องบินไปลงโอซาก้า สนามบินคันไซ (KIX / Kansai Airport) แล้วต่อรถไฟไปยังเกียวโต วิธีที่เร็วที่สุด คือ ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ JR Haruka Airport Express ไปลงเกียวโตเลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีเท่านั้น

📍 Address : Kyoto, Japan
🌎 Website : japan.travel/th/destinations/kansai/kyoto
🗺 Google Maps : https://maps.app.goo.gl/MuPZkjhivCtt1mgf8

ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ช่วงฤดูใบไม้ผลิ, เกียวโต โดย Shutterstock.com

เสาแดงโทริอิ, ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ, เกียวโต โดย Shutterstock.com

วัดคินคะคุจิ (วัดทอง), เกียวโต โดย Shutterstock.com

ป่าไผ่อาราชิยาม่า, เกียวโต โดย Shutterstock.com

สะพานโทเก็ตสึเคียว ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี, เกียวโต โดย Shutterstock.com


Klook.com


นารา

ภูเขาโยชิโนะ, นารา โดย Shutterstock.com

Nara – นารา อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวสำคัญในแถบภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น แถมยังเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ในอดีตเป็นเมืองหลวงเก่าเมื่อสามพันปีก่อน จึงทำให้มีสิ่งปลูกสร้างโบราณมากมาย ทั้งวัด ศาลเจ้า และโบราณสถานต่าง ๆ จนทำให้นครนาระ เมืองหลวงของนารา ได้รับจดทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาระโบราณในฐานะมรดกโลก นอกจากจะมีศาลเจ้าและวัดเก่าแก่มากมายแล้ว ยังมีสัตว์โลกน่ารักอย่างน้องกวางสุดเชื่องกว่า 1,000 ตัว พบน้อง ๆ ได้ที่สวนกวางนารา (Nara Park) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมาก ๆ ที่ใครมาเที่ยวนาราจะต้องแวะไปให้ขนมเซมเบ้น้อง ๆ ติดกันกับสวนกวางมีวัดเก่าแก่ชื่อว่า วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) เป็นวัดที่มีวิหารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุตสึ สร้างจากสำริด สูงถึง 15 เมตร องค์ใหญ่และสวยงามมาก แล้วอย่าลืมชมประตูหลักของวัดไทไดจิกับ ประตูนันไดมง (Nandaimon Gate) ประตูขนาดใหญ่ยักษ์ที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยล่ะ สายวินเทจโบราณขอแนะนำอีกหนึ่งสถานที่นั่นก็คือ วัดโฮริวจิ (Horyu-ji Temple) พาคุณสัมผัสประวัติศาสตร์กว่า 14 ทษวรรษ ชมวิหารคนโด อาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเจดีย์ห้าชั้น ซึ่งเป็นโครงสร้างไม้เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ และที่พลาดไม่ได้อีกแห่งสำหรับสายธรรมชาติ กับ ภูเขาโยชิโนะ (Yoshinoyama) เป็นภูเขาชื่อดังที่มีต้นซากุระมากกว่า 30,000 ต้น ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซากุระจะออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งภูเขา จนเกิดเป็นภาพที่งดงามมาก ส่วนช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยงามเช่นกัน มีใบไม้สีแดงสีส้มสีเหลืองสลับสีทั่วภูเขาได้ฟีลคนละแบบ นอกจากนี้ด้านบนภูเขายังมีศาลเจ้าและวัด โดยเฉพาะวัดคินปุเซ็นจิ (Kinpusenji Temple) และศาลเจ้าในตำนานอย่าง ศาลเจ้าโยชิมิสึ (Yoshimizu Shrine) ซึ่งเป็นพื้นที่มรดกโลกขององค์กรยูเนสโก นาราเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่และมีธรรมชาติที่สวยงาม ใครที่ยังไม่เคยไปเมืองนี้ เราอยากให้คุณลองไปเที่ยวดูสักครั้ง คุณจะประทับใจอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม :

การเดินทาง : นั่งเครื่องบินไปลงโอซาก้า สนามบินคันไซ (KIX / Kansai Airport) แล้วต่อรถไฟไปยังเกียวโต วิธีที่เร็วที่สุด คือ ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ JR Haruka Airport Express ลงสถานีเท็นโนจิ (Tennoji Station) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้วเปลี่ยนสายรถไฟ JR Yamatoji Line ลงสถานีนารา (Nara Station) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที รวม ๆ เดินทางจากสนามบินคันไซไปนารา ราว ๆ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

📍 Address : Nara, Japan
🌎 Website : japan.travel/th/destinations/kansai/nara
🗺 Google Maps : https://maps.app.goo.gl/Gw6E8YbTdYyWUdf37

สวนกวางนารา, นารา โดย Shutterstock.com

วัดโทไดจิ, นารา โดย Luciano Mortula – LGM / Shutterstock.com

พระพุทธรูปไดบุตสึ วัดโทไดจิ, นารา โดย Shutterstock.com

วัดโฮริวจิ, นารา โดย Shutterstock.com

วัดคินปุเซ็นจิ, นารา โดย NavinTar / Shutterstock.com


โกเบ

โกเบ พอร์ต ทาวเวอร์, โกเบ โดย Shutterstock.com

เมืองท่าแสนสวยใกล้โอซาก้า Kobe – โคเบะ หรือที่คนไทยเรียก โกเบ เมืองหลวงของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ในภูมิภาคคันไซ เป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับ 5 ของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากอยู่ใกล้กับโอซาก้า ห่างกันประมาณ 35 กิโลเมตรเท่านั้น จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งเมืองยอดนิยม นักท่องเที่ยวมักจะหาวันว่าง 1 วันมาเยือน โดยโกเบขึ้นชื่อในเรื่องของเนื้อวัวรสเลิศ ที่ใครมาต้องลองทาน เนื้อนุ่มละมุนลิ้น มีไขมันแทรก ละลายในปาก แถมยังมีกลิ่นหอม น้ำลายไหลเลย แนะนำร้าน Steakland เดินจากสถานีรถไฟซันโนะมิยะ (Sannomiya Station) เพียง 1 นาที มากันที่สถานที่ท่องเที่ยวบ้าง เมืองท่าสำคัญแบบนี้ต้องขึ้นจุดชมวิวที่ โกเบ พอร์ต ทาววอร์ (Kobe Port Tower) หอชมเมืองสูง 108 เมตร ตั้งอยู่ริมทะเล สามารถมองเห็นเมืองโกเบและท้องทะเลญี่ปุ่นได้แบบกว้างไกล นับว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองโกเบก็ว่าได้ ติดกันเป็นพิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์โกเบ (Kobe Maritime Museum) ที่มีรูปทรงอาคารแปลกตา ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยมาก ภายในมีนิทรรศการเน้นไปทางประวัติศาสตร์ทางทะเลของโกเบ ต่อด้วยข้างกัน โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland) แหล่งความบันเทิงและช็อปปิ้ง รวมไปถึงร้านอาหารมากมาย มีพิพิธภัณฑ์เด็กอันปังแมน (Kobe Anpanman Children’s Museum & Mall) และชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ Mosaic Big Ferris Wheel สามารถไปเดินเล่น ช็อปปิ้ง ชมวิวเมืองกันได้ หรือจะไปที่ย่านโกเบ ไชน่าทาวน์ (Chinatown Kobe) ไชน่าทาวน์เก่าแก่ เรียกว่า นันคินมาจิ เป็น 1 ใน 3 ย่านไชน่าทาวน์ของประเทศญี่ปุ่น ชิมอาหารจีนแท้ ๆ จากร้านริมถนน ดูดชานมไข่มุกที่มีร้านให้เลือกเยอะมาก เสร็จแล้วไปเดินชมเขตเมืองเก่าสไตล์ตะวันตกบนเนินเขากันที่ย่านคิตาโนะ อิจินคัง (Kitano Ijinkan) ถือเป็นอีกหนึ่งย่านไฮไลท์ของเมืองโกเบ อาคารบ้านพักของชาวต่างชาติในอดีต ปัจจุบันถูกอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี บางหลังมีนิทรรศการภายใน จัดเป็นย่านที่เข้าไปแล้วเหมือนอยู่ยุโรป ถ่ายรูปสวย ยิ่งไปช่วงปลายปีจะมีการตกแต่งธีมคริสต์มาส มีซานต้าตามมุมต่าง ๆ ได้ฟีลเชียวล่ะ ในย่านมีศาลเจ้าคิตาโนะ (Kitano Tenman Shrine) ด้านบนมีจุดชมวิวสามารถมองเห็นย่านคิตาโนะ อิจินคังแบบมุมสูง ไปจนถึงโกเบ พอร์ต ทาววอร์เลย หากมาช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่งสร้างสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก และที่พลาดไม่ได้อีกแห่งคือ สวนสมุนไพรนุโนะบิกิ (Kobe Nunobiki Herb Gardens) ที่ต้องขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อไปยังสวนด้านบน มีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองโกเบ ที่สามารถมองเห็นภาพมุมสูงได้ถึงเมืองโอซาก้าเลยล่ะ

การเดินทาง : นั่งเครื่องบินไปลงโอซาก้า สนามบินคันไซ (KIX / Kansai Airport) เมื่อผ่าน ตม. แล้ว ออกประตูทิศเหนือ มุ่งไปยังประตู A มองหาป้าย High Speed Boat for Kobe (เว็บไซต์ kobe-access.jp/eng) เพื่อซื้อตั๋ว Shuttle Ferry ราคา 1,880 เยน ตอนนี้มีโปรโมชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจ่ายเพียง 500 เยนเท่านั้น (โปรโมชั่นถึง 31 มีนาคม 2024) แล้วต่อรถบัสที่ป้ายหมายเลข 12 เพื่อไปยังท่าเรือ ขึ้นเรือมุ่งหน้าไปยังโกเบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ถึงสนามบินโกเบ (Kobe Airport) แล้วต่อรถไฟ Port Liner ไปยังกลางเมืองโกเบ ลงที่สถานีซันโนะมิยะ (Sannomiya Station) ซึ่งเป็นสถานีหลัก วิธีนี้เป็นวิธีที่เร็วที่สุด อีกหนึ่งวิธีคือ นั่งรถไฟจากสนามบินคันไซไปลงโอซาก้า แล้วต่อรถไฟจากโอซาก้าไปยังโกเบ ซึ่งจะค่อนข้างอ้อม

📍 Address : Kobe City, Hyogo, Japan
🌎 Website : japan.travel/th/destinations/kansai/kobe
🗺 Google Maps : https://maps.app.goo.gl/m83Qaj4sTY6tk4Jz8

โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์, โกเบ โดย beeboys / Shutterstock.com

Kobe Anpanman Children’s Museum & Mall, โกเบ โดย Supachita Krerkkaiwan / Shutterstock.com

โกเบ ไชน่าทาวน์ , โกเบ โดย Sean Pavone / Shutterstock.com

ย่านคิตาโนะ อิจินคัง, โกเบ โดย Shawn.ccf / Shutterstock.com

กระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปยังสวนสมุนไพรนุโนะบิกิ, โกเบ โดย Blanscape / Shutterstock.com


นาโกย่า

ปราสาทนาโกย่า, นาโกย่า โดย Shutterstock.com

เมืองใหญ่อันดับ 4 ของญี่ปุ่นในภูมิภาคชูบุ Nagoya – นาโงยะ หรือที่เราเรียกว่า นาโกย่า เป็นเมืองหลวงของจังหวัดไอจิ (Aichi) ทั้งยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและขนส่งขนาดใหญ่ เพราะตำแหน่งของเมืองอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่นเลย เป็นบ้านของโตโยต้ามอเตอร์ แถมยังเป็นบ้านเกิดของนักรบซามูไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย ถือเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดดเด่นไปด้วยปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) สัญลักษณ์ประจำเมืองนาโงยะ เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในยุคเอโดะ แค่ถูกเพลิงไหม้เสียหายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปราสาทในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่และมีการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก และบนยอดหลังคาปราสาทยังมีสัตว์ในตำนานอย่าง ชาจิโฮโกะ หัวเป็นเสือ ร่างเป็นปลาคาร์ฟที่ปกคลุมไปด้วยหนามพิษ โดยเชื่อกันว่าชาจิโฮโกะดลบันดาลฝนตกได้ จึงได้มีการประดับด้วยรูปปั้นชาจิโฮโกะ เพื่อให้เป็นเทพพิทักษ์ช่วยดับไฟเวลาเกิดเพลิงไหม้ ต่อด้วยศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่อายุกว่า 2,000 ปี เป็นพื้นที่เก็บดาบเทพเจ้าในตำนานโคจิกิ ชื่อว่า ดาบคูซานางิ รวมถึงมีตำนานต่าง ๆ และมรดกตกทอดมากมายจนเกิดเป็นพิพิธภัณฑ์สมบัติล้ำค่า ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลายล้านคนต่อปีเลยล่ะ ผ่อนคลายย้อนวัยกับสถานที่สุดฮิตอย่างเลโก้แลนด์ เจแปน (Legoland Japan) สวนสนุกระดับโลกที่มีเครื่องเล่นมากกว่า 40 ชนิด สนุกสนานกันได้ทั้งครอบครัว ใกล้กันมีพิพิธภัณฑ์การรถไฟ นาโกย่า (SCMAGLEV and Railway Park) จัดแสดงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงผ่านนิทรรศรถไฟ ตั้งแต่รถไฟท้องถิ่นไปจนถึงรถไฟแม็กเลฟ ตื่นตาตื่นใจไปกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่า (Nagoya City Science Museum) ชมกาแลคซีและท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันนี้บอกเลยว่าไม่ควรพลาด และอีกสถานที่แนะนำใจกลางนาโกย่า สวนสาธารณะฮิซายะโอโดริ (Hisaya-odori Park) สวนขนาดใหญ่กลางเมือง มีหอคอยเหล็กแลนมาร์คประจำเมือง ชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ มิไร ทาวเวอร์ (Chubu Electric Power Mirai Tower) หอส่งสัญญาสูง 180 เมตร ด้านบนมีจุดชมวิวแบบ 360 องศา ข้าง ๆ สวนมีโอเอซิส 21 (Oasis 21) สะดุดตาไปกับหลังคาแก้วขนาดใหญ่ที่สามารถเดินเล่นกลางอากาศได้ ชั้นใต้ดินมีร้านค้าร้านอาหาร ช่วงกลางคืนเปิดไฟสวยงาม ติดกันเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะไอจิ (Aichi Arts Center) ไปเดินเล่นชมผลงานศิลปะกันได้ มาเที่ยวนาโกย่าเที่ยวคุ้มอย่างแน่นอน เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ขนาดยกตัวอย่างมาแบบคร่าว ๆ ยังเยอะขนาดนี้ ใครที่มีแพลนไปเที่ยวนาโกย่าสามารถจัดแพลนเที่ยวได้แบบเพลิน ๆ เลยล่ะ

การเดินทาง : นั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินนาโกย่า ชูบุเซ็นแทรร์ (Nagoya Chubu Centrair Airport) หรือหากใครอยู่โอซาก้า สามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นมาลงที่นาโกย่าในระยะเวลาเพียง 50 นาที ส่วนถ้ามาจากโตเกียวใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาทีเท่านั้น

📍 Address : Nagoya, Aichi, Japan
🌎 Website : nagoya-info.jp/th
🗺 Google Maps : https://maps.app.goo.gl/RMJrAitjfZex8hL3A

ศาลเจ้าอัตสึตะ, นาโกย่า โดย AMMLERY / Shutterstock.com

Legoland Japan, นาโกย่า โดย Julian Krakowiak / Shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่า, นาโกย่า โดย cowardlion / Shutterstock.com

ภายในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่า, นาโกย่า โดย lowpower225 / Shutterstock.com

ชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ มิไร ทาวเวอร์ & โอเอซิส 21, นาโกย่า โดย Shutterstock.com


ชิซุโอกะ

วิวฟูจิจากที่ราบนิฮงไดระ, ชิซุโอกะ โดย Shutterstock.com

ไม่พูดถึงเมืองนี้ไม่ได้ Shizuoka – ชิซุโอกะ พิกัดเมืองชาเขียวและเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟอันสวยงามสัญลักษณ์ประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น นั่นก็คือ ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain) โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศไร่ชาสีเขียวสุดลูกหูลูกตา และยังมีชายหาด มีท้องทะเล มีป่า มีภูเขา เลยทำให้ชิซุโอกะเป็นสถานที่พักผ่อนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะครบจบมาก แถมชิซุโอกะยังตั้งอยู่ระหว่างโตเกียวและนาโกย่าอีกด้วย การเดินทางมาเที่ยวจึงสะดวกสุด ๆ ในส่วนของที่เที่ยวไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพียบบ ขึ้นกระเช้านิฮงไดระพาร์กเวย์ มุ่งสู่ที่ราบนิฮงไดระ (Nihondaira Ropeway) เนินเขาสูง 307 เมตร ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ  1 ของสถานที่ท่องเที่ยว 100 แห่งในประเทศญี่ปุ่น มายก้อด ก็ทิวทัศน์เค้าสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเหนือไร่ชา, อ่าวชิมิสึ (Shimizu) ในตัวเมืองชิซุโอกะ, คาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula) ที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใสดุจคริสตัล และอุทยานแห่งชาติมินามิแอลป์ (Minami Alps) แบบมุมกว้าง งดงามสะกดสายตาสุด ๆ แวะไหว้พระที่ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างในสมัยเอโดะ ศาลเจ้าคุโนซังโทโชกุ (Kunozan Toshogu Shrine) มีวิหารหลักเป็นมรดกแห่งชาติ เติมความสดชื่นชมสิ่งที่น่าสนใจที่น้ำตกชิราอิโตะ (Shiraito Waterfall) ดินแดนสวรรค์บนดินมองเห็นสายน้ำเป็นเส้นเล็ก ๆ ตกลงมาบวกกับมองวิวป่าสีเขียวชะอุ่ม หากมาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะงดงามมากเป็นพิเศษเลยล่ะ หรือหากใครอยากนั่งรถไฟสัมผัสธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ขอแนะนำนั่งรถไฟโลคอลแบบวินเทจสาย Oigawa Railway-Ikawa Line โดยรถไฟจะผ่านทิวเขาและแม่น้ำอันงดงาม ข้ามสะพานสีแดงซึ่งตรงกลางจะมีสถานีโอคุโออิโกะโจ (Okuoikojo Station) ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อท่องเที่ยวโดยเฉพาะ โดยโอบล้อมไปด้วยหุบเขา แม่น้ำโออิกาวะ และทะเลสาบสีมรกต สวยเว่อร์ รถไฟต้องจองล่วงหน้า ระหว่างรถไฟสายเมน ซึ่งเป็นรถจักรไอน้ำ กับรถไฟท่องเที่ยวจะต้องนั่งบัสต่อ เพื่อเปลี่ยนรถไฟลากไฟฟ้า เนื่องจากทางลาดชัน และควรเช็คเวลาไปกลับให้ดี เพราะเป็นรถไฟโลคอล โดยรถไฟ Oigawa จะมีหัวรถไฟจากการ์ตูนเรื่อง Thomas & Friends วิ่งระหว่างสถานี Shin-Kanaya และสถานี Ieyama ใครอยากสานฝันวัยเด็ก นั่งรถไฟโทมัส ลองหาวิธีกันดูบนเว็บไซต์ daitetsu.jp/en , daitetsu.jp/day-out-with-thomas-2023 (ภาษาญี่ปุ่น) อีกทั้งระหว่างทางรถไฟสาย Oigawa Railway-Ikawa Line ยังมีแหล่งออนเซ็นขึ้นชื่อ แวะแช่น้ำชมวิวก็ฟินอยู่นะ เพียงแค่ลองมานั่งมองให้ธรรมชาติเหล่านี้บำบัด รับรองว่าทั้งมาเที่ยวและมาพักผ่อนให้หายเหนื่อยในเวลาเดียวกัน ชิซุโอกะถือเป็นเมืองที่ช่วยฮีลใจฮีลร่างกายได้ดี ต้องลองมาเที่ยวกันแล้วล่ะ

อ่านเพิ่มเติม :

การเดินทาง : โดยคนนิยมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินนาริตะ (NRT / Narita International Airport) นั่งรถไฟเข้าโตเกียวประมาณ 50 นาที แล้วต่อชินคันเซ็น JR Tokaido Shinkansen อีก 60 นาที ถึงสถานีชิซุโอกะ (Shizuoka Station)

📍 Address : Shizuoka, Japan
🌎 Website : visit-shizuoka.com/th , japan.travel/th/tokai/shizuoka
🗺 Google Maps : https://maps.app.goo.gl/jnDqUNkZKGa3TrjBA

กระเช้าขึ้นนิฮงไดระ, ชิซุโอกะ โดย Shutterstock.com

ศาลเจ้าคุโนซังโทโชกุ, ชิซุโอกะ โดย Shutterstock.com

น้ำตกชิราอิโตะ , ชิซุโอกะ โดย Photo Spirit / Shutterstock.com

สถานีโอคุโออิโกะโจ กลางแม่น้ำโออิกาวะ, ชิซุโอกะ โดย Shutterstock.com

รถไฟโทมัส, ชิซุโอกะ โดย 大井川鐵道株式会社


ฮิโรชิม่า

อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า, ฮิโรชิม่า โดย Shutterstock.com

ภาพจำในประวัติศาสตร์ที่ชาวญี่ปุ่นและทั่วโลกต่างสะเทือนใจเวลาเอ่ยชื่อเมืองนี้ Hiroshima – ฮิโรชิมะ คนไทยเรียก ฮิโรชิม่า โศกนาฏกรรมในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์จนพังพินาศ แต่ใครจะไปรู้ว่าในเวลานี้ เมืองฮิโรชิม่าเต็มไปด้วยความคึกคัก มีชีวิตชีวา กวางเดินทั่วเมือง มีรถรางขนาดเล็ก และสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมาย เริ่มด้วยอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Peace Memorial Park Hiroshma) พื้นที่ครอบคลุมกว่าแสนสองหมื่นตารางเมตร ชมโครงสร้างที่เหลือรอดจากระเบิด มีอนุสรณ์สถานและอนุสาวรีย์มากมาย รวมถึงสุสานรำลึกเหยื่อระเบิดปรมาณู (Hiroshima Victims Memorial Cenotaph) และพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum) ติดกันเป็นฮิโรชิม่า โอริซุรุ ทาวเวอร์ (Hiroshima Orizuru Tower) ด้านล่างมีคาเฟ่ ด้านบนชั้น 13 มีจุดชมวิวที่คุณสามารชมทิวทัศน์ของเมืองแบบพื้นที่โล่งกว้างและปลอดโปร่ง เดินไปอีกหน่อยใกล้ ๆ กันมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮิโรชิม่า (Hiroshima Art Museum) และปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) ภายในปราสาทมีพิพิธภัณฑ์บันทึกประวัติศาสตร์ของเมืองก่อนการเกิดระเบิดปรมาณู และอย่าลืมชมต้นไม้ 3 ต้นที่รอดจากแรงระเบิดภายในกำแพงปราสาทจนกลายเป็นสัญลักษณ์ความแข็งแกร่งของเมือง ปิดท้ายที่การเดินทางข้ามทะเลไปยังเกาะมิยาจิม่า (Miyajima Island) ด้วยเรือเฟอร์รี่ข้ามฟาก (ขึ้นเรือที่ท่ามิยะจิมะกูชิ) ที่ว่ากันว่าเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ มีน้องกวางเดินเล่น ตื่นตาไปกับประตูโทริอิขนาดใหญ่ ในศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ ซึ่งเป็นมรดกโลกโดดเด่นอยู่กลางทะเลและทิวทัศน์ที่งดงาม เป็นจุดฮอตสปอทสำคัญที่ใครมาต้องถ่ายรูป นอกจากศาลเจ้าแล้ว ยังมีวัดไดโชอิน (Daishoin Temple) ภายในมีเจดีย์สีแดงโกจูโนโตะ และสามารถขึ้นกระเช้าเพื่อไปยังจุดชมวิวบนภูเขามิเซนได้ ไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือดีมาก นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวจะเยอะแล้ว ฮิโรชิม่ายังขึ้นในเรื่องของอาหารการกิน เด่น ๆ เลยคือ โอโคนามิยากิ (สไตล์ฮิโรชิม่า) หรือที่รู้จักกันในชื่อ พิซซ่าญี่ปุ่น ให้ไปทานที่ย่านโอโคโนมิมูระ (Okonomimura) ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 25 ร้าน โดยแต่ละร้านจะมีสไตล์การปรุงและส่วนผสมที่ต่างกัน และหอยนางรมทั้งแบบดิบและสุก เป็นอาหารเลิศรสของท้องถิ่นในฮิโรชิม่า ที่บอกเลยว่าเนื้อหวานฉ่ำไม่คาวเลย ต้องไปลองกันแล้วว

การเดินทาง : นั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินฟุกุโอกะ (FUK / Fukuoka Airport) แล้วต่อชินคันเซ็น Tokaido-Sanyo Shinkansen จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ไปลงสถานีฮิโรชิม่า (Hiroshima Station) ใช้เวลาประมาณ 70 นาที และอีกหนึ่งวิธีคือ นั่งเครื่องบินไปลงที่โอซาก้า สนามบินคันไซ (KIX / Kansai Airport) นั่งรถไฟด่วนพิเศษ Haruka จากสนามบินคันไซไปยังสถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka Station) แล้วต่อชินคันเซ็น สาย Tokaido-Sanyo Shinkansen ไปลงที่สถานีฮิโรชิม่า ใช้เวลาประมาณ 90 นาที สำหรับค่าโดยสารชินคันเซ็นจะอยู่ที่ราว ๆ 9,000 – 10,000 เยน หากไปเที่ยวหลายเมือง ซื้อพาสจะคุ้มกว่ามาก สายนี้ใช้ Sanyo Pass หรือ JR (all) pass เที่ยวยาว ๆ ได้ตั้งแต่โอซาก้าไปจนถึงฟุกุโอกะเลยล่ะ

📍 Address : Hiroshima, Japan
🌎 Website : japan.travel/th/chugoku/hiroshima
🗺 Google Maps : https://maps.app.goo.gl/zFJDhtzF4MN1ajocA

จุดชมวิวชั้น 13 บนฮิโรชิม่า โอริซุรุ ทาวเวอร์, ฮิโรชิม่า โดย Thongden Studio / Shutterstock.com

ปราสาทฮิโรชิม่า, ฮิโรชิม่า โดย Shutterstock.com

รถรางในนครฮิโรชิม่า, ฮิโรชิม่า โดย Mirko Kuzmanovic / Shutterstock.com

น้องกวาง และประตูโทริอิ ในศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ ไฮไลท์ของเกาะมิยาจิม่า, ฮิโรชิม่า โดย Shutterstock.com

เสาโอโทริยักษ์ และเจดีย์วัดไดโชอิน บนเกาะมิยาจิม่า, ฮิโรชิม่า โดย Shutterstock.com


ฟุกุโอกะ

สวนสาธารณะไมซูรุ, ฟุกุโอกะ โดย Shutterstock.com

อีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวที่ตั้งอยู่บนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น Fukuoka – ฟุกุโอกะ ท่องเที่ยวแนวชายฝั่งอันแสนสวย ถูกจัดอันดับว่าเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 12 ของโลก ในเขตตัวเมืองมีพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศของเมืองดีมาก สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ทั้งฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาพักผ่อนตากอากาศ โดดเด่นไปกับฟุกุโอกะ ทาวเวอร์ (Fukuoka Tower) หอคอยริมทะเลที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น สูงถึง 234 เมตร ตั้งอยู่ในย่านโมโมจิฮามะ ด้วยความสูงนี้ทำให้มีจุดชมวิวถึง 3 ระดับ ด้านบนมองเห็นวิวเมืองและท้องทะเลได้แบบ 360 องศาเลยล่ะ ชมศาลเจ้าโบราณแห่งฟุกุโอกะ ศาลเจ้าดะไซฟุ เทมมังกู (Dazaifu Tenmagu Shrine) เสน่ห์ของศาลเจ้าแห่งนี้คือความเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ ช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี ต้นบ๊วยกว่า 6,000 ต้นในพื้นที่ศาลเจ้าจะออกดอกสวยงาม เหมาะแก่การมาชมดอกไม้ และชาวญี่ปุ่นนิยมมาขอพรเพื่อขอให้สอบผ่าน มาต่อกันที่ปราสาทฟุกุโอกะ (Fukuoka Castle) สร้างขึ้นในสมัยยุคต้นเอโดะ มีต้นซากุระหลายร้อยต้น ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะบานสวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ในสวนสาธารณะไมซูรุ (Maizuru Park) แถมอยู่ติดกันกับสวนโอโฮริ (Ohori Park) ที่มีทะเลสาบขนาดใหญ่อีกด้วย สามารถเดินเล่นชมธรรมชาติได้แบบชิล ๆ เลย และอีกหนึ่งจุดเช็คอินห้ามพลาดวัดสวย วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) ตระการตากับพระนอนองค์ใหญ่กลางขุนเขา อย่าลืมจับเชือกอธิษฐานเพื่อให้พรสมหวัง หากมาเที่ยวในช่วงปลายเดือนเมษายน-ต้นพฤษภาคม (โกลเดนวีคของญี่ปุ่น) ให้มาเที่ยวสวนคาวาจิฟูจิเอ็น (Kawachi Fuji Garden) ในเมืองคิตะคิวชู มีอุโมงค์ดอกวิสทีห้อยระย้ายาว 100 เมตรให้คุณได้ชมความงดงาม หรือหากมาไม่ทันจะบานอีกทีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแล้ว เราก็อยากจะพาเพื่อน ๆ ไปลิ้มลองรสชาติอาหารขึ้นชื่อพื้นเมืองอย่าง ทงคตสึราเม็ง หรือราเม็งในน้ำซุปกระดูกหมูสุดเข้มข้น, หม้อไฟมตสึนาเบะ หรือไข่ปลาเมนไทกะ ที่บอกเลยว่า หากใครมาเมืองนี้แล้ว พลาดไม่ได้เลยนะคะ

การเดินทาง : นั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินฟุกุโอกะ (FUK / Fukuoka Airport)

📍 Address : Fukuoka, Japan
🌎 Website : japan.travel/th/kyushu/fukuoka
🗺 Google Maps : https://maps.app.goo.gl/YRN5krh119uj7grw7

ศาลเจ้าดะไซฟุ เทมมังกู, ฟุกุโอกะ โดย kuremo / Shutterstock.com

ปราสาทฟุกุโอกะ, ฟุกุโอกะ โดย Jarung H / Shutterstock.com

พระนอนองค์ใหญ่ที่วัดนันโซอิน, ฟุกุโอกะ โดย cowardlion / Shutterstock.com

สวนคาวาจิฟูจิเอ็น, ฟุกุโอกะ โดย Shutterstock.com

ฟุกุโอกะ ทาวเวอร์, ฟุกุโอกะ โดย Shutterstock.com


ซัปโปโร

ซัปโปทีวี ทาววอร์, ซัปโปโร โดย Takashi Images / Shutterstock.com

ปิดท้ายที่ดินแดนเมืองหนาวที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยือน สะท้านโลกันต์รับลมหนาวแบบหน้าสั่นกันที่ Sapporo – ซัปโปโร เมืองหลวงของจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) มีผังเมืองที่น่าสนใจออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ โดดเด่นมากในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ปลายปีไปจนถึงต้นปี นักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสอากาศหนาว ดูหิมะ เล่นสกี/สโนว์บอร์ด ทานอาหารท้องถิ่นอย่างซุปแกงกะหรี่ แถมซัปโปโรยังเป็นขุมทรัพย์แห่งซูชิและอาหารทะเล บอกเลยว่าสดใหม่ ไม่คาว อร่อยแสงออกปาก สามารถหาทานได้ที่ตลาดนิโจเลย (Nijo Market) มีให้เลือกหลายร้าน ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวในซัปโปโรนั้น มีเยอะมาก เริ่มด้วยสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) แลนมาร์คของฮอกไกโด ตั้งอยู่กลางเมือง สะดุดตากับ ซัปโปทีวี ทาววอร์ (Sapporo TV Tower) หอคอยสูง 147.2 เมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร ด้านบนมีจุดชมวิว ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยงาม ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ในปี 2024 จัดขึ้นวันที่ 4-11 กุมภาพันธ์ จัดแสดงประติมากรรมหิมะและงานแกะสลักน้ำแข็งยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่าสองล้านคนในทุก ๆ ปี ต่อมาเป็นสถานที่ยอดฮิตอย่างหอนาฬิกาซัปโป (Sapporo Clock Tower) หอนาฬิกาเก่าแก่ ภายในมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดง ถือเป็นสถานที่ที่ต้องปักหมุดมาเมื่อมาเที่ยวซัปโปโรครั้งแรก และพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) ที่สายคอน้ำเก๊กฮวยมีฟอง บอกเลยว่าไม่ควรพลาด ชิมเบียร์หลากรสชาติพร้อมทานเนื้อย่างเจงกิสข่าน อีกหนึ่งที่เที่ยวที่น่าไปต้องนั่งรถบัสจากใจกลางซัปโปโรไปทางทิศตะวันตก โจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Onsen) แหล่งน้ำพุร้อนสุดโรแมนติกด้วยบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา และมีแม่น้ำโทโยฮิระไหลผ่าน ยิ่งมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีวิวคือสะกดสายตามาก อย่าลืมขอพรจากสัตว์ในตำนานอย่างกัปปะด้วยนะ ปิดท้ายด้วยการเดินเที่ยวย่านซูซุกิโนะ (Susukino) แหล่งรวมความบันเทิงยามค่ำคืนที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด หรือถ้าหากใครอยากเล่นสกี แนะนำ ซัปโปโรเทเนะสกีรีสอร์ท (Sapporo Teine Ski Resort) วิวด้านบนสวยมาก มองเห็นมหาสมุทรแบบมุมกว้าง อลังเว่อร์ นอกจากหน้าหนาวจะมีกิจกรรมให้ทำเยอะแล้ว ช่วงหน้าร้อนก็สวยงามไม่แพ้กัน อุณหภูมิจะอยู่ที่ราว ๆ 10 องศาขึ้นไป เย็นสบายกำลังดี เหมาะแก่การชมดอกไม้ ดูซากุระที่ศาลเจ้าฮอกไกโด จิงกู (Hokkaido Shrine) สถานที่รวมใจของชาวซัปโปโร มีเทพปกปักษ์ถึง 4 องค์ อย่าลืมเขียนคำขอพรลงบนแผ่นไม้ แล้วซื้อเครื่องรางกลับบ้านกันด้วยนะ ซัปโปโรถือเป็นเมืองอันดับต้น ๆ ที่คนไทยเลือกมาเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งแรก โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว เพราะอยากมาสัมผัสหิมะสักครั้งในชีวิต

อ่านเพิ่มเติม :

การเดินทาง : นั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินนิวชิโตเซะ (CTS / New Chitose Airport) แล้วต่อรถไฟไปยังซัปโปโร (เป็นวิธีที่เร็วที่สุด) ขึ้น JR New Chitose Airport อยู่บริเวณชั้นใต้ดิน (B1) ในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ไปยังสถานี JR Sapporo ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที หรือจะนั่งรถบัส/แท็กซี่ก็ได้เช่นกัน

📍 Address : Sapporo, Hokkaido, Japan
🌎 Website : sapporo.travel/thjapan.travel/th/hokkaido/sapporo
🗺 Google Maps : https://maps.app.goo.gl/Cqamm2fM1uMZnB8N9

ศาลเจ้าฮอกไกโด จิงกู, ซัปโปโร โดย Shutterstock.com

โจซังเค ออนเซ็น, ซัปโปโร โดย Shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร, ซัปโปโร โดย Sean Pavone / Shutterstock.com

ย่านซูซุกิโนะ, ซัปโปโร โดย Sean Pavone / Shutterstock.com

สวนสาธารณะโอโดริ ถ่ายจากบนซัปโปทีวี ทาววอร์, ซัปโปโร โดย JoeyPhoto / Shutterstock.com


เลือกกันไม่ถูกเลยใช่มั้ยคะ ว่าทริปประเทศญี่ปุ่นของเราในปีล่าสุดนี้ จะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างดี เอาเป็นว่าถ้าคอนเทนต์นี้ยังไม่จุใจ เพื่อน ๆ สามารถคลิกเข้าไปดูในแต่ละเมืองกันแบบอินไซต์ได้เลยนะคะ บทความนี้แค่น้ำจิ้ม ใครอยากตามไปอ่านดูคลิกบทความที่ทีมงานแปะไว้ข้างล่างได้เลย ไว้คอนเทนต์หน้าเราจะพาไปไหนต่อจะเป็นที่พัก ที่กิน หรือที่เที่ยว สามารถอัปเดตกันได้ที่เว็บไซต์ checkinchill.com และทาง Facebook Fanpage : Checkinchill – ที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ทุกที่ทั่วโลก กันได้นะคะ เจอกันค่ะ 😚

Klook.com

โพสต์นี้มีประโยชน์มากน้อยเพียงใด?

กดที่ดาวเพื่อให้คะแนน 🔻

คะแนนเฉลี่ย / 5. จำนวนโหวต:

คุณเป็นคนแรกที่ให้คะแนนโพสต์นี้?

ขออภัย! หากหัวข้อนี้ไม่ถูกใจคุณ

ช่วยบอกเราได้ไหมว่ามีส่วนไหนที่ต้องแก้ไข

แสดงความคิดเห็น

Klook.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า