10 ที่เที่ยวฮาโกดาเตะ เมืองท่าวิวสวยติดอันดับโลก ชมความงามสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปในแบบของคนญี่ปุ่น

10 ที่เที่ยวฮาโกดาเตะ เมืองท่าวิวสวยติดอันดับโลก ชมความงามสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปในแบบของคนญี่ปุ่น


Hakodate-travel-cover

“ฮาโกดาเตะ” เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของโอะชิมะ และใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของจังหวัดฮอกไกโด อยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ใจกลางคาบสมุทรคาเมเดะ มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมาก เพราะเป็นเมืองท่าเมืองแรกของญี่ปุ่น สิ่งที่สะดุดตาในฮาโกดาเตะ นั่นก็คือ สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ที่มีความสวยงามมาก ๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวยามค่ำคืนชวนน่าหลงไหล อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย เลยทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางไปเที่ยวเมืองนี้อย่างไม่ขาดสาย เมืองแห่งวิวกลางคืนที่ดีที่สุดที่หนึ่งของประเทศ สามารถเข้าถึงได้โดยการนั่งเคเบิ้ลคาร์ ทางเท้า หรือรถยนต์ก็ได้ เช็คอินชิลล์ จึงอยากแนะนำ 10 ที่เที่ยวฮาโกดาเตะ เมืองท่าวิวสวยติดอันดับโลก ชมความงามสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปในแบบของคนญี่ปุ่น เที่ยวเมืองนี้สามารถมองเห็น ภูเขาฮาโกดาเตะได้อย่างสวยงามเลยน้า แถมที่นี่ยังเป็นที่รู้จักกันดีด้านอาหารทะเลมากมาย มีอาหารจานเด็ดที่มีชื่อเรียกว่า Dancing Squid ที่ภัตตาคารสุดมีชื่อเสียง Ikkatei Tabiji (อิคคาเทอิ ทาบิจิ) เอาล่ะถ้าใครไม่อยากพลาดความสนุกและอาหารรสเด็ดต้องตามเรามาดูกันแล้วค่ะ ว่าจะมีตรงไหนน่าสนใจบ้างน้าาา


sakura

ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)

ฮาโกดาเตะ-18-1024x564
ภูเขาฮาโกดาเตะ โดย Shutterstock.com

ภูเขาฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่บริเวณป่าทางตอนใต้ของปลายคาบสมุทรฮอกไกโด ซึ่งเป็นจุดใต้สุดของภูมิภาคฮอกไกโด และอยู่บริเวณใจกลางเมืองฮาโกดาเตะ โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามมากที่สุดของญี่ปุ่น 1 ใน 3 เลยก็ว่าได้ ทำให้ในเเต่ละวันนั้นจะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจในการมาเที่ยวชมกันอย่างมากมายเลยทีเดียว มีความสูงมากกว่า 334 เมตร ทำให้จุดชมวิวทิวทัศน์ด้านบนนั้นมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งทั้งในเวลากลางวันเเละในเวลากลางคืน โดยเฉพาะในวันที่มีอากาศสดใสนั้นสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล จนบางครั้งสามารถมองเห็นปลายสุดของเกาะฮอนชูในอาโอโมริได้อีกด้วย ส่วนในยามค่ำคืนนั้นก็สามารถมองเห็นเเสงไฟที่มีความสวยงามของตัวเมืองฮาโกดาเตะ นับว่าเป็นอีกจุดที่น่าสนใจมาเที่ยวชม โดยที่ด้านบนตรงบริเวณจุดชมวิวนั้นจะมีร้านคาเฟ่กาเเฟที่สามารถมานั่งเล่นชิลล์ ๆ ได้อีกด้วย รวมทั้งยังมีร้านอาหารที่เป็นสไตล์โรงอาหารเปิดให้บริการเเละมีร้านขายของที่ระลึกอีกด้วย

การเดินทางไปภูเขาฮาโกดาเตะ :

  • กระเช้า เป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุด โดยขึ้นกระเช้าสถานีด้านล่างในย่านโมโตะมาจิ สามารถเดินมาจากสถานีรถราง Jujigai เพียงเเค่ 10 นาที ก็ถึง โดยมีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการกระเช้าอยู่ที่ 1,200 เยนสำหรับการไป - กลับ ส่วนราคาเที่ยวเดียวจะอยู่ที่ 660 เยน เเละกระเช้าจะออกทุก ๆ 5-10 นาที โดยเปิดให้บริการตั้งเเต่ เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 22.00 น. ของทุกวัน
  • รถบัสประจำทาง มีบริการเฉพาะในช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที เสียค่าบริการต่อเที่ยว 400 เยน / คน
  • รถยนต์ สามารถขับรถยนต์ขึ้นมาได้ด้วยเช่นกัน เเต่จะเปิดเส้นทางถึง เวลา 17.00 น. เท่านั้น

📍 ที่อยู่ : ภูเขาฮาโกดาเตะ เมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⏱️ เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.
🌏 Google Map : https://maps.app.goo.gl/Dt9DEgR9EwGrqVzM8

unnamed (1)
ภูเขาฮาโกดาเตะ โดย Thomas Kim

1-17-1024x645

ฮาโกดาเตะ-24
บรรยากาศยามเย็น, ภูเขาฮาโกดาเตะ โดย Shutterstock.com
unnamed
ภูเขาฮาโกดาเตะ โดย 傅文斌
25469645654
ภูเขาฮาโกดาเตะ โดย Giovanni Brusetti

sakura

ย่านโมโตมาจิ (Motomachi District)

ย่านโมโตมาชิ-24-1024x676
ย่านโมโตมาจิ โดย Shutterstock.com

ย่านโมโตมาจิ เป็นอีกหนึ่งในย่านเมืองเก่าของเมืองฮาโกดาเตะที่มีความสวยงาม และเต็มไปด้วยบรรยากาศที่วินเทจเป็นอย่างมาก โดยบริเวณเเห่งนี้เป็นย่านเเรก ๆ ของเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1854 เเละมีการติดต่อค้าขายกับหลายประเทศทั้งจีน รัสเซีย เเละชาติตะวันตกอื่น ๆ โดยเป็นย่านที่ตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาฮาโกดาเตะ ความสวยงามของอาคารเก่าเเก่หลายหลังยังคงตั้งอยู่ในย่านเเห่งนี้อย่างมีเอกลักษณ์ มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายต่อหลายจุดด้วยกัน ทั้งในส่วนของห้องโถงอนุสรณ์จีน โดยเป็นอาคาร 2 ชั้นที่เป็นอดีตที่ทำการเก่าของรัฐบาลฮอกไกโด ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 200 เยน จุดถัดมาก็คือ ศาลาประชาคมฮาโกดาเตะ ซึ่งเป็นห้องรับรอบแขก เเละจัดกิจกรรมต่าง โดยเปิดให้เข้าชมในเวลา 9.00 น. จนถึงเวลา 19.00 น. เสียค่าเข้าชม 300 เยน / คน ส่วนทางด้านของ โบสถ์รัสเซียออโธด็อกซ์ ก็นับว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองฮาโกดาเตะ ที่มีความสวยงามเเละสร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1916 ตั้งเเต่ที่ชาวรัสเซียเข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายออโธด็อกซ์ให้แก่ชาวญี่ปุ่น โดยเปิดให้เข้าชมเวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 17.00 น. เสียค่าเข้าชม 200 เยน / คน ส่วนทางด้านของอาคารสถานกงสุลอังกฤษเก่า ก็มีความสวยงามเเละปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านกาเเฟ เเละร้านอาหารต่าง ๆ โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน เเละเสียค่าเข้าชม 300 เยน / คน ฉะนั้นจะเที่ยวที่ไหนก่อน ที่ไหนหลัง ดูเวลาแล้วเลือกได้ตามสะดวกเลยนะคะ

การเดินทางไปย่านโมโตมาจิ :

  • รถไฟ โดยนั่งมาลงที่สถานีรถไฟ JR Hakodate Station จากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้บริการของรถราง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ก็จะเข้าสู่ย่านเเห่งนี้เเล้ว

📍 ที่อยู่ : ย่านโมโตมาจิเมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⏱️ เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
🌏 Google Map : https://maps.app.goo.gl/LshPv9SBDU5VgbHz8

unnamed (1)
ย่านโมโตมาจิ โดย carl hong

ฮาโกดาเตะ-26-1024x688

ย่านโมโตมาชิ-18-1024x682
ย่านโมโตมาจิ โดย Shutterstock.com

sakura

เนินฮาจิมันซากะ (Hachiman-Zaka Slope)

เนินฮาจิมันซากะ-1-1024x576
บรรยากาศบามเย็น, เนินฮาจิมันซากะ โดย Shutterstock.com

เนินฮาจิมันซากะ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของฮาโกดาเตะอย่างยิ่ง ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองท่าที่สำคัญเเห่งนี้ เป็นที่รู้จักเเละมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในฐานะของจุดชมวิวที่มีความสวยงามในทุกฤดูกาลเลยทีเดียว จึงกลายเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเเห่งนี้ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเองเเละชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก มักมาชมวิวทิวทัศน์ที่เเสนจะสวยงามแบบไม่ขาดสาย โดยที่วิวทิวทัศน์ที่มองจากเนินฮาจิมันซากะนั้น จะสามารถมองเห็นวิวของท่าเรือฮาโกดาเตะได้อย่างชัดเจนเเละเลยไปจนถึงท้องทะเลอีกด้วย อีกทั้งสามารถเห็นวิวที่เเสนจะสวยงามของภูเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน ทั้งสองข้างทางของถนนเส้นที่ทอดยาวจากเนินเเห่งนี้ลงไปด้านล่างก็เต็มไปด้วยต้นไม้ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่บริเวณเเห่งนี้จะกลายเป็นจุดยอดนิยมในการมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวฮาโกดาเตะ ส่วนในฤดูหนาวนั้นก็มีความสวยงามไปอีกเเบบด้วยการประดับประดาไฟอย่างสวยงาม แถมยังได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดที่สามารถมาชมความสวยงามของเทศกาล ฮาโกดาะเตะ ไลฟต์ อัพ ได้อย่างชดเจนเเละสวยงามอีกด้วยนะคะ 

การเดินทางไปเนินฮาจิมันซากะ :

  • รถราง นั่งมาลงที่สถานีรถราง Suehirocho Station จากนั้นก็เดินต่อไปทางสถานี Jujigai Station ด้วยระยะทางอีกประมาณ 180 เมตร เเล้วเมื่อพบกับสี่เเยกใหญ่เเล้วก็ให้คุณเลี้ยวขวาเเล้วเดินขึ้นมาทางลาด โดยคุณจะสามารถมองเห็นท่าเรือฮาโกดาเตะ ชมวิวอันสวยงามได้อย่างชัดเจน

📍 ที่อยู่ : เมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⏱️ เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
🌏 Google Map : https://maps.app.goo.gl/kYUjLPRgAEq1HzYK8

unnamed
ย่านโมโตมาจิโดย 原田紀
548465465
เนินฮาจิมันซากะ โดย Hubbygal Ong
58965965
เนินฮาจิมันซากะ โดย K T (torute)
เนินฮาจิมันซากะ-6-1024x681
เนินฮาจิมันซากะ โดย Shutterstock.com



 

sakura

แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ (Tachimachi-Misaki)

แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ-8-1024x768
แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ โดย Shutterstock.com

แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ เป็นอีกหนึ่งในจุดชมวิวที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งเเละตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองฮาโกดาเตะเท่าใดนัก สวยงามจากการที่มีลักษณะเป็นภูมิประเทศที่ยื่นออกไปในกลางทะเล ทำให้สามารถมองเห็นวิวในมุมกว้างของท้องทะเลได้อย่างชัดเจน เเละในวันที่มีอากาศเเจ่มใส สถานที่เเห่งนี้จะได้รับความนิยมจากชาวเมืองอาโกดาเตะในการมาชมความสวยงามเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ มองเห็นวิวทิวทัศน์ในมุมที่กว้างถึง 270 องศา พร้อมกับชมวิถีชีวิตของชาวประมงญี่ปุ่นได้ในคราเดียว นอกจากนี้เเล้วบริเวณเเห่งนี้ยังสามารถมองเห็นเมืองมุทสึซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอาโอโมริ บนเกาะฮอนชู ในวันที่อากาศเเจ่มใสได้อย่างชัดเจนอีกด้วย จึงทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างมากยามที่มาเที่ยวเมืองอาโกดาเตะ บรรยากาศบริเวณแหลมทาชิมาชิ-มิซากิ เป็นที่โล่งเเจ้ง สามารถรับลมทะเลได้แบบชิลล์ ๆ ทั้งในฤดูร้อนเเละฤดูหนาว ช่างสวยงามเเปลกตาเหลือเกิน เเถมยังเงียบสงบ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรมากมายนัก ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้เป็นอย่างดีมาก ๆ เลยค่ะ

การเดินทางไปแหลมทาชิมาชิ-มิซากิ :

  • รถราง ใช้บริการของรถรางมาลงที่สถานี Yachigashira Station จากนั้นให้เดินเลี้ยวซ้ายที่บริเวณสี่เเยกเเรกที่พบ เเละเดินต่อไปจนสุดทางเดินก็ให้คุณเลี้ยวขวาเเละเดินลัดเลาะไปตามถนนที่จะขนานไปกับทะเล หรือจะลงไปเดินที่ชายหาดก็ได้ โดยเดินไปอีกเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงเเหลมเเห่งนี้เเล้ว

📍 ที่อยู่ : ซูมิโยชิ เมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⏱️ เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง 
🌐 Website : hakobura.jp
🌏 Google Map : https://maps.app.goo.gl/amhPXzkYPEV4jY6r7

แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ-2

แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ-7-1024x681

แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ-6-1024x579
ภาพบรรยากาศรวม, แหลมทาชิมาชิ-มิซากิ โดย Shutterstock.com

sakura

โกดังอิฐแดง (Red Brick Warehouses)

โกดังอิฐแดง-6-1024x574
โกดังอิฐแดง โดย shutterstock.com

โกดังอิฐแดง เป็นอีกหนึ่งในเเลนด์มาร์คของฮาโกดาเตะเลยทีเดียว โดยตั้งอยู่ริมแม่น้ำของอ่าวฮาโกดาเตะ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ช็อปปิ้งและเเหล่งแฮงเอ้าท์ขึ้นชื่อของเมืองเเห่งนี้เป็นอย่างมาก เป็นเเหล่งรวมสถานบันเทิงเเบบฮิปสเตอร์ในยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียง บรรยากาศเเนววินเทจสุดประทับใจ มากไปด้วยศูนย์รวมของเเหล่งช็อปปิ้งที่มีทั้งร้านค้าเสื้อผ้าเเนวเเฟชั่นมากมายหลายร้าน ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเเบรนด์ญี่ปุ่นเเท้ ๆ หรือจะเป็นร้านอาหารต่าง ๆ ที่มีความน่าสนใจเเละมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เน่านั่งสุด ๆ พร้อมกับสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่เหมาะกับการมานั่งชิลล์ ๆ ดื่มด่ำสัมผัสกับบรรยากาศริมอ่าวฮาโกดาเตะ นอกจากนี้เเล้วในส่วนของร้านขนมก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อย นอกจากเเหล่งช็อปปิ้งเเล้วก็ยังมีในส่วนของโบสถ์เก่าที่ยังใช้ในการจัดพิธีเเต่งงานอยู่ มีบริการในการล่องเรือเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่มีความสวยงามของอ่าวฮาโกดาเตะได้อีกด้วย เเละนอกจากนี้ในช่วงของฤดูหนาวในวันที่ 1 - 25 ธันวาคม นั้นจะมีการจัดงาน Hakodate Christmas Fantasy ที่บริเวณเเห่งนี้อีกด้วย โดนมีการประดับประดาต้นคริสมาสต์ขนาดยักษ์ พร้อมกับมีขบวนซานตาครอสมาสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้น

การเดินทางไปโกดังอิฐแดง :

  • รถไฟ ใช้บริการของรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ Hakodate Station ก็ให้เดินต่อไปอีกประมาณ 15-20 นาที ก็จะถึงเเล้ว
  • รถราง หากใช้บริการของรถรางก็สามารถมาลงที่ป้าย Jujigai tram stop เเล้วให้เดินไปทางชายทะเลอีกประมาณ 5 นาทีก็จะถึงเเล้ว

📍 ที่อยู่ : ซุเอะฮิโระ-โจ เมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⏱️ เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.30 - 19.00 น.
🌐 Website : hakodate-kanemori.com
🌏 Google Map : https://maps.app.goo.gl/Wm7YRsEchq9YF8Yq8

โกดังอิฐแดง-4-1024x683

โกดังอิฐแดง-1-1024x682

โกดังอิฐแดง-2-1024x682

โกดังอิฐแดง-8-1024x682
ภาพบรรยากาศรวม, โกดังอิฐแดง โดย shutterstock.com

sakura

พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ (Mashu-Mashu Ship Museum)

พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ-10-1024x653
พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ โดย Shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์ลอยน้ำที่ตั้งอยู่ในอ่าวอาโกดาเตะ โดยเป็นการนำเรือเฟอร์รี่เก่าที่เเล่นข้ามฟากระหว่างเมืองอาโอโมริบนเกาะฮอนชู กับเมืองฮาโกดาเตะในฮอกไกโด มาปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร เเต่เดิมการเดินทางข้ามช่องแคบสึงารุนั้น ต้องอาศัยเรือเฟอร์รี่ในการเดินทางเท่านั้น โดยพิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครอบรอบ 80 ปีของท่าเรือเฟอร์รี่ที่เดินทางผ่านช่องเเคบเเห่งนี้ โดยปัจจุบันนั้นก็ยังมีการเเล่นกันอยู่ ทำให้พิพิธภัณฑ์เเห่งนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ภายในตัวพิพิธภัณฑ์มีการจัดเเสดงเรื่องราวของการเดินเรือข้ามฟากตั้งเเต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน โดยมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมในส่วนของหอบังคับการเรือหรือสะพานเดินเรือ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นสภาพที่ชัดเจนของเรือลำนี้ รวมไปถึงในส่วนของห้องวิทยุ ที่ยังคงรักษาสภาพเดิมเอาไว้เป็นอย่างดี ส่วนทางด้านของห้องโดยสารนั้นก็มีให้ชมทั้งในส่วนของห้องโดยสารชั้นหนึ่ง เเละห้องโดยสารชั้นสอง พร้อมกับมีการจัดเเสดงเครื่องเเบบกัปตัน-ลูกเรืออีกด้วย อีกทั้งยังมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิดีโอเกี่ยวกับเรือข้ามฟากในสมัยก่อน, มีโมเดลในการเเสดงระบบโหลดรถไฟลงในเรือ และมีการจัดเเสดงกลไกการขับเคลื่อนของเรื่องต่าง ๆ ให้ได้ชมกันอย่างจุใจอีกด้วยน้า

การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ :

  • รถไฟ ใช้บริการของรถไฟเจอาร์มาลงที่สถานีรถไฟ JR Hakodate เเล้วหลังจากนั้นก็ให้คุณเดินต่อมาเเล้วเลี้ยวซ้ายลงมาเดินต่อที่ถนนเลียบทางเดินริมทะเล โดยเดินต่อไประยะทางประมาณ 300 เมตรก็จะถึงเเล้ว

📍 ที่อยู่ : ย่านวากามัตสึ เมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⏱️ เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 17.00 น. 
🌐 Website : mashumaru.com
🌏 Google Map : https://maps.app.goo.gl/Qt4HuiZ5xHhW2JyB9

Wing White
พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ โดย Shutterstock.com
INUK AWAZ
พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ โดย INUK AWAZ
unnamed
พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ โดย K B
165486564156
พิพิธภัณฑ์เรือมาชู-มารุ โดย 七面鳥放浪記

sakura

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market)

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ-1-1024x683
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ โดย Shutterstock.com

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองฮาโกดาเตะ เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวฮาโกดาเตะ โดยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 4 ช่วงตึก เเละเป็นจุดที่มีความคึกคักเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลาเช้า เเละเป็นจุดที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในการมาเที่ยวชม มีสีสันเเละความคึกคักมาก เพราะเป็นตลาดเช้าประจำเมือง โดยจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารทะเลสด ๆ ทั้งในส่วนของ หอยเม่นทะเล ที่มีความสดใหม่เเละมีรสชติอร่อย รวมทั้งมีปูคานิ สุดน่าสนใจ รวมไปถึงไข่ปลาแซลม่อน ซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยมอย่างมาก นอกจากนี้เเล้วก็ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารอีกหลายร้านที่เปิดจำหน่ายกันตั้งเเต่เช้ามืด โดยมีเมนูเด็ดที่ได้รับการเเนะนำกันเป็นอย่างมากก็คือ Uni-Ikura Domburi ซึ่งมีลักษณะเป็นข้าวเสิร์ฟพร้อมกับหอยเม่นทะเลและไข่ปลาแซลม่อน ซึ่งเป็นเมนูเด็ดของฮอกไกโดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยว โดยตลาดเเห่งนี้จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งเเต่เวลา 5.00 น. จนถึงเวลา 12.00 น. ส่วนในฤดูหนาวนั้นจะเปิดในเวลา 6.00 น. แนะนำว่าให้มาเดินกันในช่วงเช้าจะได้ซึมซับกับบรรยากาศได้อย่างเต็มที่

การเดินทางไปตลาดเช้าฮาโกดาเตะ :

  • รถไฟ ใช้บริการของรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ JR Hakodate Station หลังจากนั้นก็ให้คุณเดินไปทางขวาของสถานี เเล้วข้ามถนนไปอีก 1 บล็อกก็จะถึงเเล้ว

📍 ที่อยู่ : ย่านวากามัตสึ เมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⏱️ เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 05.00 - 14.00 น.
🌐 Website : asaichi-ekini.com
🌏 Google Map : https://maps.app.goo.gl/m7uMcn16KmcQpJTK9

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ-4-1024x516

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ-8-1024x509

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ-2-1024x670
ภาพบรรยากาศ, ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ โดย Shutterstock.com
unnamed
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ โดย Michael Wu PhD

sakura

ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku)

ป้อมโงเรียวกาคุ-1-1024x683
ป้อมโงเรียวกาคุ โดย Shutterstock.com

ป้อมโงเรียวกาคุ ถูกสร้างขึ้นมาตั้งเเต่ช่วงปลายสมัยเอโดะ เเต่หลังจากชัยชนะของกองทัพรัฐบาลเมจิเเล้ว ก็เปลี่ยนป้อมเเห่งนี้มาเป็นสวนสาธารณะในปี ค.ศ.1910 โดยมีการปลูกต้นซากุระเอาไว้จำนวนมากหลายร้อยต้นบริเวณริมคูน้ำ ทำให้เกิดภาพที่มีความสวยงามเป็นอย่างมากในฤดูใบไม้ผลิ จนกลายเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ชมซากุระบานที่สำคัญแห่งหนึ่งของฮอกไกโด ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คอีกเเห่งของฮาโกดาเตะเเละฮอกไกโดที่มีความสวยงามเเละสำคัญมาก ทั้งเชิงการท่องเที่ยวเเละประวัติศาสตร์ โดยป้อมเเห่งนี้มีอีกชื่อเรียกอีกอย่างว่า ป้อมดาว 5 แฉก โดยที่เป็นรูปดาวห้าเเฉกนั้นเพราะได้รับอิทธิพลในการสร้างป้อมปราการลักษณะนี้มาจากตะวันตกอย่าง ฝรั่งเศส เพื่อใช้เป็นฐานในการตั้งปืนใหญ่ปกป้องญี่ปุ่นจากชาติตะวันตกในเวลานั้น และที่แห่งนี้กลับกลายเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดเเห่งสุดท้ายในช่วงของการปฏิรูปเมจิอีกด้วย จุดที่สำคัญอีกจุดของป้อมโงเรียวกาคุ คือ หอคอยโงเรียวกาคุ ที่มีความสูงกว่า 107 เมตร ซึ่งเป็นรูปเเบบห้าเหลี่ยม โดยตั้งอยู่ทางทิศใต้ของป้อม เป็นจุดชมวิวเเบบ 360 องศาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถชมตัวป้อมได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถเห็นลักษณะของดาวห้าเเฉกได้อย่างงดงาม จึงเป็นที่นิมอย่างมากของนักท่องเที่ยว โดยหอคอยเเห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันในเวลา 8.00 น. - 19.00 น. โดยต้องเสียค่าเข้าชมในส่วนนี้ ส่วนทางด้านของการเข้าชมป้อมนั้นสามารถเข้าชมได้ฟรีทุกวันเลยนะคะ

การเดินทางไปป้อมโงเรียวกาคุ :

  • รถไฟ ใช้บริการของรถไฟมาลงที่สถานี Hakodate Station ก็ให้คุณใช้บริการของรถรางสาย 2 หรือสาย 5 ก็ได้ โดยมาลงที่ป้าย Goryokaku Koen Mae หลังจากนั้นก็ให้เดินต่อไปทางด้านทิศเหนือเป็นระยะทางประมาณ 750 เมตร ก็จะถึงเเล้ว
  • ชัตเติลบัส สามารถนั่งรถชัตเติลบัสจากหน้าสถานีรถไฟ JR Hakodate ไปลงที่ป้อมได้เลย เพียงเเค่ต้องเช็ครอบเวลาของรถอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากไม่ได้วิ่งทุกวัน

ราคาค่าเข้าชม หอคอยโงเรียวกาคุ

  • ผู้ใหญ่ ราคา 1,000 เยน / คน
    เด็กและนักเรียน ราคา 750 เยน / คน

📍 ที่อยู่ : โงเรียวกาคุ เมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⏱️ เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 05.00 - 19.00 น. 
🌐 Website : city.hakodate.hokkaido.jp
🌏 Google Map : https://maps.app.goo.gl/2gQZMGnJmnXdThA18

ป้อมโงเรียวกาคุ-2-1024x685

ป้อมโงเรียวกาคุ-4-1024x576
ภาพบรรยากาศความงาม, ป้อมโงเรียวกาคุ โดย Shutterstock.com
unnamed (1)
ป้อมโงเรียวกาคุ โดย Toshiyuki Yamaguchi
unnamed
ป้อมโงเรียวกาคุ โดย 亀澤勉

ป้อมโงเรียวกาคุ-7-1024x652

ป้อมโงเรียวกาคุ-10-1024x680
ภาพบรรยากาศยามซากุระบาน, ป้อมโงเรียวกาคุ โดย Shutterstock.com

sakura

สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden)

สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ-9-1024x576
สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ โดย Shutterstock.com

สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ สวนพืชเขตร้อนขนาดใหญ่เเห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองฮาโกดาเตะ เป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเองเเละชาวต่างชาติไม่น้อยที่มักจะมาชมความสวยงามของธรรมชาติ ภายในของสวนพฤษศาสตร์ มีความโดดเด่นด้วยเรือนกระจกที่เป็นสถานที่สำหรับเพาะพันธุ์พืชเขตร้อนที่มีมากกว่า 3,000 สายพันธุ์เลยทีเดียว เเละมีโซนอื่น ๆ อีกหลายโซนที่เเสดงออกถึงธรรมชาติอันสวยงามของพืชพรรณ นอกจากนี้ในช่วงฤดูร้อนที่นี่ยังเป็นสวนน้ำและสนามเด็กเล่นที่เหมาะกับการมาพักผ่อนกันเเบบครอบครัว จุดเด่นที่สำคัญของที่นี่ คือ ในช่วงฤดูหนาวนั้นจะเป็นเเหล่งที่ลิงภูเขาจำนวนมากลงไปแช่ออนเซ็น เหมือนกับที่จังหวัดนากาโน่ โดยลิงภูเขาเหล่านี้จะมีลักษณะพิเศษคือหน้าของพวกมันจะเเดง เเละการที่จะยืนชมพวกมันเเช่ออนเซ็น นั้นต้องยืนชมจากด้านบนเท่านั้นไม่สามารถเข้าไปใกล้ลิงได้ เเละเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาชมกันอย่างมากมาย เเละมีการถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างล้นหลาม จึงนับว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างมากในช่วงหน้าหนาว 

การเดินทางไปสวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ :

  • รถราง ใช้บริการของรถรางสาย 5 หรือสาย 2 ก็ได้ โดยให้มาลงที่ป้าย Yunokawa Onsen จากนั้นก็ให้คุณเดินต่อไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร เเล้วให้ข้ามสะพานไปอีกซักเล็กน้อยก็จะพบกับทางเข้าสวนสวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ

ราคาค่าเข้า

  • ผู้ใหญ่ ราคา 300 เยน / คน
    เด็กและนักเรียน ราคา 100 เยน / คน

📍 ที่อยู่ : ย่านยูโนะคาวะ เมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⏱️ เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.30 - 18.00 น. / ช่วงฤดูหนาวเปิดเวลา 9.30 - 16.30 น.
🌐 Website : hako-eco.com
🌏 Google Map : https://maps.app.goo.gl/uwFgVhzFrXNtZhTJ9

unnamed (1)
สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ โดย Yasuhiro Yamada

สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ-16-1024x681

สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ-8-1024x769

สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ-10-1024x638
สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ โดย Shutterstock.com
unnamed
สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ โดย 李建緯

sakura

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi National Park)

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ-7-1024x511
อุทยานแห่งชาติโอนุมะ โดย Shutterstock.com

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงาม ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองฮาโกดาเตะไปทางทิศเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร โดยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีภูเขาไฟโคมะงาตาเกะตั้งตะหง่านอยู่อย่างโดดเด่นท่ามกลางความสวยงามของทะเลสาบ เเหล่งพักผ่อนที่สำคัญอีกเเห่งของชาวเมืองฮาโกดาเตะ มีความน่าสนใจในการมาเที่ยวชม ก็มีทั้งในส่วนของทะเลสาบโอนุมะเเละทะเลสาบโคนุมะ เหมาะกับมาทำกิจกรรมทางน้ำ ล่องเรือชมธรรมชาติ โดยใช้เวลาในการล่องเรือรอบละครึ่งชั่วโมง ค่าตั๋วคนละ 1,000 เยน หรือใครจะลองพายเรือเเคนู เเละนั่งตกปลาชิลล์ ๆ ก็ได้ฟีลสุด ๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่ของการตั้งเเคมป์ค้างคืน สนามเทนนิส เเละกอล์ฟอีกด้วยนะคะ ส่วนพื้นที่บริเวณระหว่างทะเลสาบโอนุมะกับทะเลสาบโคนุมะ มีเส้นทางในการเดินสำรวจธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากนักเดินป่าเป็นอย่างมาก เป็นเส้นทางเดินที่ผ่านคาบสมุทรเเละเกาะเเก่งต่าง ๆ ในทะเลสาบ โดยมีการเชื่อมต่อกับด้วยสะพานไม้เล็ก ๆ ซึ่งมีให้เลือกหลายเส้นทางในการเดินมาก ๆ ซึ่งก็จะต้องใช้เวลาในการเดินเเตกต่างกันออกไปตั้งเเต่ 15 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีจักรยานเปิดให้เช่าอีกด้วยน้า สามารถเช่าและมาปั่นออกกำลังกายได้เลยล่ะ เพราะระยะทางประมาณยาวนาน 10 กิโลเมตร เลยแฮะ

การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติโอนุมะ :

  • รถไฟ ใช้บริการของรถไฟ JR limited express train โดยมาลงที่สถานี Onuma Koen Station หรือจะใช้บริการของรถไฟท้องถิ่นก็ได้
  • รถยนต์ส่วนตัว สามารถใช้เส้นทาง toll-free หมายเลข 5 จากเมืองฮาโกดาเตะ ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็ถึงเเล้ว

📍 ที่อยู่ : เขตคาเมดะ เมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
⏱️ เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
🌐 Website : onumakouen.com
🌏 Google Map : https://maps.app.goo.gl/GsAyWkmcKHS7ADHA6

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ-18-1024x681

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ-22-1024x596

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ-17-1024x682

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ-14-1024x684
ภาพบรรยากาศในแต่ละฤดู, อุทยานแห่งชาติโอนุมะ โดย Shutterstock.com
unnamed
อุทยานแห่งชาติโอนุมะ โดย 陳信光

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับฮาโกดาเตะ ที่เป็นเมืองท่าเมืองแรกของประเทศญี่ปุ่น ใจกลางคาบสมุทรคาเมเดะ วิวเมืองยามค่ำคืนสวยติดอันดับโลก สามารถมองเห็นช่องแคบซึการุไปจนถึงแผ่นดินใหญ่ บอกเลยว่าความสวยงามนี้จะเป็นที่น่าจดจำ จนคุณไม่มีวันลืมเลยล่ะค่ะ อีกทั้งสถาปัตยกรรมยุโรปก็สวยงามไม่แพ้กัน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ยุโรปจริง ๆ ส่วนอาหารนั้น ถ้าไปฮาโกดาเตะก็ต้องไปกินหมึกแดนซ์ให้ได้นะ เพราะถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของเมืองสุด ๆ เลยน้า


Share: